Ducati เปิด 3 โมเดลใหม่ ในงาน Motor Show 2020

Ducati เปิด 3 โมเดลใหม่ ในงาน Motor Show 2020

 

โดยใน Motor Show 2020 ครั้งนี้ Ducati Thailand นั้นขนกองทัพมาหนาแน่นเช่นเคย โดยคราวนี้มีไฮไลต์เด็ดคือทาง Ducati เปิด 3 โมเดลใหม่ ได้แก่ Panigale V4 (2020), Scrambler 1100 Pro และ Diavel 1260 S (สีใหม่)

      

1.Panigale V4 MY 2020

โมเดลปี 2020 ได้พัฒนาสมรรถนะและประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นกว่าซูเปอร์ไบค์เรือธงคันเก่า โดยหลักๆ จะยังคงใช้เครื่องยนต์ Desmosedici Stradale ที่เป็นเครื่อง V4 แบบ 90 องศา ขนาด 1,103 ซีซี ที่มีพละกำลังอยู่ที่ 214 แรงม้า ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเรียกแรงบิดสูงสุดได้ที่ 124 นิวตันเมตร ที่ 10,000 รอบต่อนาที เช่นเดิม เพียงแต่มีการพัฒนาในส่วนของ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับปรุงใหม่เป็นของปี 2020 และปรับปรุงในส่วนของระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกของตัวรถให้ดียิ่งขึ้น 

 

โดยพัฒนา New Aerodynamic package ใหม่ดังนี้

  • แฟริ่งด้านข้างที่กว้างขึ้นและชิลด์หน้าใหม่ที่กว้างและสูงขึ้น เพื่อลดแรงลมที่มาปะทะกับผู้ขับขี่
  • ช่องอากาศหรือแรมแอร์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศผ่านระบบระบายความร้อนและออยล์คูลเลอร์ ถึง 6% หรือ 16% ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถ
  • Aerofoils หรือ Winglets หรือเรียกง่ายๆ ว่าปีกหรือวิงก์เล็ท บริเวณด้านหน้า เมื่อทำงานร่วมกับอากาศพลศาสตร์ของชุดแฟริ่ง จะมีแรงกดอากาศที่ล้อหน้าเพิ่มขึ้นถึง 30 กก.ที่ความเร็ว 270 กม./ชม.ช่วยลดการลอยตัวของล้อหน้าขณะทำความเร็วได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ราคา Panigale V4 จะอยู่ที่ 999,000 บาท และ Panigale V4 S จะอยู่ที่ 1,249,000 บาท โดยสามารถส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

 

  1. Scrambler 1100 Pro

Ducati เปิดตัว 3 โมเดลใหม่

 

สแครมเบลอร์รุ่นใหญ่สุดของค่ายกับขุมพลังขนาด ขนาด 1,079 ซีซี 86 แรงม้า ที่เต็มไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะมากมาย มาพร้อมระบบสมองกล ECU M4C โดย Continental และระบบเซ็นเซอร์ใหม่ “lambda sensor” รวมถึง “Map sensors” ที่ใช้ใน Panigale V4 ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เเทร็คชั่นคอนโทรล ระบบเบรก Cornering ABS และระบบ IMU แบบ 6 แกน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ทั้ง Active, Journey และ City ช่วยเพิ่มความมั่นใจและตอบโจทย์ได้ทุกการเดินทาง

สำหรับ Scrambler 1100 PRO มีดีไซน์สีทูโทน Ocean Drive ผนวกเข้ากับเฟรมสีดำและซับเฟรมหลังอลูมิเนียม มาพร้อมกับท่อไอเสียทรงใหม่ดีไซน์ออกคู่ด้านข้าง และการ์ดบังโคลนหลังที่ยึดป้ายทะเบียนด้านล่าง รวมถึงชุดโคมไฟหน้าแบบตัว X อันเป็นเอกลักษณ์

ส่วน Scrambler 1100 Sport PRO รุ่นท็อปสุด จะมีการออกแบบที่เพิ่มเติมในหลายจุด โดยเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยสีดำด้านดุดัน และแฮนด์เดิลบาร์ทรงต่ำ รับกันกับกระจกส่องหลังสไตล์คาเฟ่เรซเซอร์ กับช่วงล่างอย่าง Öhlins ทั้งด้านหน้าและหลัง 

โดยราคาของ Scrambler 1100 PRO อยู่ที่ 579,900 บาท และราคา Scrambler 1100 Sport PRO อยู่ที่ 659,900 บาท โดยสามารถส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

 

  1. Diavel 1260 S

สำหรับโมเดลไฮไลต์สุดท้ายอาจจะไม่ใช่โมเดลที่ปรับปรุงใหม่อะไร แต่เป็นโมเดลสีใหม่ ซึ่งก็คือเจ้าบิ๊กครูเซอร์ Diavel 1260 S ที่ผสมผสานระหว่างความสวยงามด้านดีไซน์และพละกำลังอันดุดันของเครื่องยนต์ Testastretta DVT 1260 ที่มีระบบวาล์วเดสโมโดรมิกแบบแปรผัน ทำให้การตอบสนองของคันเร่งมีความนุ่มนวลสูงสุดในรอบต่ำ และให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตในรอบสูง พร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน ในครั้งนี้ Diavel 1260 S มาในชุดสีแดงดูคาติ ซึ่งยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นและสุนทรียภาพในการขับขี่ไว้ได้อย่างลงตัว 

สำหรับราคา Diavel 1260 S สีแดง (Ducati Red) ใหม่ จะอยู่ที่ 999,000 บาท โดยสามารถส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถในงาน จะมีโปรโมชั่นผ่อนดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 72 เดือน และฟรีดาวน์ 15% ที่งาน Motor Show 2020 ตั้งแต่วันนี้-26 กรกฎาคม 2563 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี” 

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles