R 18 Dragster คัสตอมสำหรับคอรถแดร็กจาก BMW

R 18 Dragster คัสตอมสำหรับคอรถแดร็กจาก BMW

R 18 Dragster

ล่าสุด BMW Motorrad ได้เผยโฉม R 18 Dragster ที่มีต้นแบบมาจาก R 18 ที่เป็นครูเซอร์ไบค์ของทางค่าย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการคัสตอมครูเซอร์ไบค์รุ่นใหญ่ของทางค่าย

ซึ่งเดิมทีเจ้า R 18 นี่ก็แปลกไม่เหมือนคันอื่นๆ ของในค่ายสักเท่าไหร่ เนื่องจากมันถูกออกแบบมาโดยมีต้นแบบมาจากรถมอเตอร์ไซค์ BMW ในยุคก่อนๆ ทั้งในเรื่องทางเทคนิคและสไตล์ โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก R 5 ซึ่งเปิดตัวในปี 1936 โดดเด่นด้วยเครื่องบ็อกเซอร์และความเป็นมอเตอร์ไซค์แบบขนานแท้ ไม่ต้องมีเทคโนโลยีอะไรมากมาย เพื่อส่งผ่านเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์แบบเต็มๆ ให้กับผู้ขับขี่

เจ้า Dragster คันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 2 สูบวางนอนที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของ BMW ที่ชื่อว่า Big Boxer ที่ยังคงใช้ระบบระบายความร้อนแบบดั้งเดิมหรือแบบระบายความร้อนด้วยอากาศนั่นเอง ซึ่งให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร และสืบทอดกันต่อเนื่องมานานกว่า 70 ปีแล้ว นับตั้งแต่เริ่มมีการผลิตขึ้นในปี 1923

มันทรงพลังมากที่สุดด้วยขนาดความจุสูงถึง 1,802 ซีซี รีดแรงม้าออกมาได้มากสุดที่ 91 แรงม้าที่รอบต่ำเพียง 4,750 รอบ และแรงบิดสูงสุดที่ 157.89 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบ โดยสามารถเรียกกำลังแรงบิดที่ราวๆ 150 นิวตันเมตรได้ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 2000 – 4000 รอบเท่านั้น นอกจากนี้ยังเคลมมาว่าเครื่องนี้ให้การยึดเกาะที่ดีและให้สุ้มเสียงทุ้มลึกอีกด้วย

เจ้า Dragster นั้นเป็นเหมือนตัวอย่างนึงของทาง BMW ที่พยายามจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการคัสตอมรถของทางค่าย โดยมีการทำงานร่วมกันกับทาง Roland Sands ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ด้านการคัสตอมรถชื่อดัง

เนื่องด้วยตัวรถดั้งเดิมนั้นออกแบบมาเพื่อให้สามารถคัสตอมต่างๆ ได้มากมายกว่าโมเดลอื่นๆ ทั้งเฟรมท้ายที่ถอดออกได้ง่ายและชิ้นสีต่างๆ ก็ออกแบบมาให้ถอดออกมาได้ง่ายเช่นกัน และยังมีรายละเอียดต่างๆ มากมายที่ช่วยให้ออกคัสตอมได้ง่ายขึ้น ซึ่งเจ้าแดร็กสเตอร์เองก็ใช้ข้อได้เปรียบตรงนี้ในการคัสตอมขึ้นมา

R 18 Dragster

เฟรมของมันมีการเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เหมาะกับการแข่งแดร็ก บังโคลนหน้าและหลังถูกปรับแต่งเล็กน้อยโดยใช้ชิ้นส่วนโลหะของรถเดิมเพื่อให้มีความคลาสสิกยังคงอยู่ ไฟหน้ายังคงใช้ของเดิม แต่มีการใช้กรอบไฟหน้าอลูมิเนียมเข้ามาแทน ท่อไอเสียเดิมถูกสับออก แทนที่ด้วยท่อสเตนเลสสตีลแบบคู่ทรงโทรโข่งซึ่งมีน้ำหนักเบา

ตัวปั๊มเบรกบนและปั๊มคลัตช์เป็นของทาง Roland Sands Design ผลิตขึ้น ถังน้ำมันถูกทำสีใหม่ด้วยสีน้ำเงินเมทัลลิกแบบทูโทนและลวดลายแถบเส้นแบบคลาสสิกของทาง BMW โช้คหน้าเลือกใช้โช้คของ R nineT ส่วนระบบเบรกเปลี่ยนไปใช้แบบเดียวกับที่ใช้ในรถ S 1000 RR ซูเปอร์ไบค์เรือธงของทางค่าย เบาะนั่งออกแบบใหม่และติดตั้งเบาะของ RSD เข้าไปแทนที่

ถือว่า BMW ร่วมงานกับ Roland Sands นั้นไม่ผิดหวัง เขาสามารถสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์และสวยงามโดดเด่นโดยยังคงรักษาความคลาสสิกของรถและเครื่องยนต์ไว้ได้อย่างลงตัวมากทีเดียวครับ ใครรักใครชอบอาจจะนำเอาไอเดียต่างๆ ไปประยุกต์ใช้กับรถของตัวเองก็ได้นะครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles