spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
spot_img
[rev_slider_vc alias=”news-hero4″]
เลือกรีวิวยางที่ต้องการดู

4 – MICHELIN POWER RS

ผลิตขึ้นมาอย่างไร

มันไม่ใช่ยางที่เจ๋งที่สุดในการทดสอบเปรียบเทียบในครั้งนี้ แม้มันเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว (แต่ 1 ปีหลังจากการเปิดตัวหมายถึงโอกาสที่จะพัฒนาของคู่แข่งที่ส่งผลให้เกิดยางที่แตกต่างไปจากปัจจุบันได้) Power RS ยังสามารถรักษาตำแหน่งแนวหน้าไว้ได้ โดยมันมาแทน Pilot Power 3 และ Pilot Supersport เทคโนโลยี ACT + (Active Case Technology) ออกแบบให้โครงสร้างผ้าใบนั้นไขว้กันเองเพื่อเปลี่ยนแปลงความแข็งแรงของโครงสร้างด้วยตัวมันเอง (โครงสร้างตรงกลางจะนุ่มกว่า แต่ส่วนไหล่ยางจะแข็งแรงกว่า) Power RS บอกกับเราว่าวิธีทางเทคนิคนี้ได้สืบทอดมาจาก Road 5 ยางเป็นแบบ 2 คอมปาวด์ทั้งหน้าและหลัง ยางหน้า (68% ฮาร์ด – 16% ซอฟต์) และยางหลัง (54% ฮาร์ด – 23% ซอฟต์) ในยางหลังนั้น Michelin ใช้เทคโนโลยี 2CT + มีคอมปาวด์ที่แข็งแรง (100% ซิลิก้าsilica) และคอมปาวด์ที่นุ่มกว่าที่ไหล่ยาง (คาร์บอนแบล็กล้วนไม่มีซิลิก้า)

ทดสอบสนาม

Michelins ยังคงยึดรักษาความสปอร์ตของยางเอาไว้ตามคำมั่น ยางนั้นค่อนข้างไว โดยเฉพาะยางหน้าซึ่งก้าวร้าวมากแต่จัดการได้ คาแรคเตอร์ของยางมักจะมีจุดเด่นในเรื่องโครงสร้างที่เบา (ความเฉื่อยน้อย) ยางนั้นให้ความเสถียรดีมากขณะเบรค ด้วยความแม่นยำและความเสถียรทำให้เข้าออกโค้งได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนๆ ในอดีตของ Michelin ยางซูเปอร์สปอร์ตตัวนี้คืออีกระดับนึง ขีดจำกัดของ RS เผยออกมาให้เห็นชัดตอนที่พับรถเข้าโค้งซึ่งล้อหลังจะออกอาการแถเล็กน้อยและล้อหน้าก็ดูเหมือนจะไม่ตามออกไปด้านข้างในระดับเดียวกันทำให้ลอยและเกิดอันเดอร์สเตียร์ ด้วยเหตุนี้คุณจะต้องเหนื่อยกับการปิดไลน์ ทำให้คุณต้องพับนานขึ้นและต้องเสียเวลาในโค้งไป การเสียการยึดเกาะที่ล้อหลังไปเล็กน้อยนั้นแสดงให้เห็นว่ายางมีการยึดเกาะที่ค่อนข้างดี แม้แต่ในตอนที่เปิดคันเร่งเต็มที่ การตอบสนองของ Michelin นั้นดี ดูดซับแรงกระแทกและส่งผ่านไปหาผู้ขี่น้อยมาก อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะเป็นยางที่ไม่ได้ดีที่สุด แต่ Power RS ยังเป็นยางที่นุ่มสบายดีทีเดียว แต่เรื่องที่ไม่ดีเอาซะเลยนั้นเกิดเมื่อยางเริ่มหมด ก็จะมีรอยจั๊มพ์ของคอมปาวด์ยางโผล่ออกมาบริเวณรอยต่อของซอฟต์คอมปาวด์และคอมปาวด์ตรงกลาง

ทดสอบเปียก

ถ้าทดสอบแต่พื้นเปียกอย่างเดียวล่ะก็ Michelin อาจจะได้เข้าชิงเป็นตัวเลือกยางที่ดีที่สุด เพราะตามธรรมชาติแล้วยางแบบี้เหมาะกับการขี่บนพื้นเปียกอย่างมาก จนควรจะต้องบันทึกไว้ว่าการยึดเกาะที่ผมสัมผัสได้จากการทดสอบพื้นแห้งนั้นจะยิ่งรู้สึกได้มากขึ้นเวลาถนนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน คุณต้องพยายามฝืนยางหน้าแม้จะมีอาการแฉลบออกข้างไปบ้างเวลาพับ (แต่ก็ยังน้อยกว่า Dunlop และ Continental) เพื่อที่จะรักษาไลน์เอาไว้ ส่วนยางหลังกลับมีการยึดเกาะที่ตลอด ผมสัมผัสได้ถึงการซัพพอร์ตของยางไม่ต่อเนื่องเวลาที่เข้าโค้ง แม้จะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยตรงรอยต่อของสองคอมปาวด์ หรือระหว่างคอมปาวด์ตรงกลางที่มีซิลิก้าและด้านข้างที่ออกแบบมาให้ได้สมรรถนะสูงเวลาขับขี่บนถนนแห้ง เนื่องจากจุดเปลี่ยนส่วนผสมของเนื้่อยางนั้นสูงมากไปนิดและส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจเวลาพับโค้งบนถนนเปียก อย่างไรก็ดีไม่มีคนที่บอกว่ามีการเสียการยึดเกาะชัดๆ มีเพียงเสี้ยวเล็กเท่านั้น การยึดเกาะถือว่าดี ทว่าเวลาพับในโค้งที่มีน้ำนอง จุดที่น้ำไม่ใช่แค่เจิ่งธรรมดา แต่เป็นน้ำขัง การออกแบบร่องดอกยางดูเหมือนจะทำให้เกิดความยากในการรีดน้ำมากกว่าค่ายอื่นเล็กน้อยเนื่องจากผลของปรากฎการณ์อะควอเพลน ไม่ได้ทำให้ไม่ปลอดภัยเลย แต่มันทำให้รู้สึกไม่มั่นใจอยู่บ้าง

ทดสอบในแทร็ก – เวลาที่ดีที่สุด 1.44.96
ทดสอบในแทร็ก – เวลาเฉลี่ย* 1.45.32
ทดสอบพื้นเปียก– เวลาที่ดีที่สุด 41.807
ทดสอบพื้นเปียก– เวลาเฉลี่ย* 42.578

*เวลาเฉลี่ยจากการทดสอบต่อเนื่อง 5 แล็ป

ผลคะแนนการทดสอบ Michelin Power RS

คะแนนที่ได้

การควบคุม ★★★½
การยึดเกาะที่ยางหน้า ★★★
การยึดเกาะที่ยางหลัง ★★★★
การรักษาไลน์ ★★★
ความเสถียร ★★★½
พื้นเปียก ★★★★
ความเสถียรขณะเบรค ★★★
สรุปคะแนน 3,43
เลือกรีวิวยางที่ต้องการดู

News Article

Honda เตรียมเปิด 9 โมเดลใหม่เสริมไลน์อัพปี 2025

0
Honda เตรียมเปิด 9 โมเดลใหม่เสริมไลน์อัพปี 2025 Honda เตรียมเปิด 9 โมเดลใหม่ อย่างที่ทราบกันดีว่า ทางฮอนด้าประเทศไทยได้ทำการเปิดตัวรถจักรยานยนต์โมเดลใหม่อย่าง ‘All New Honda PCX160’ อย่างเป็นทางการ โดยภายในงานยังมีประกาศออกมาอีกว่าทางค่าย Honda เตรียมเปิด 9 โมเดลใหม่ (ไม่นับรวม PCX160 ที่พึ่งเปิดตัวไป) ซึ่งก็มีความน่าสนใจไม่น้อยว่าไลน์อัพที่จะนำมาเสริมทัพครั้งนี้จะมีโมเดลไหนกันบ้าง ? ในบทความนี้จะเป็นเพียงแค่การ ‘คาดการณ์’ เท่านั้น ถึงความเป็นไปได้ที่จะนำโมเดลใหม่ในบางรุ่นเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเท่านั้น Honda ADV350 เริ่มกันที่รุ่นแรกกับสกูตเตอร์ในคลาส 350 ซีซี อย่าง ‘Honda ADV350’ อีกหนึ่งสกูตเตอแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีจุดเด่นที่ให้ช่วงล่างมาพร้อมรูดทุกฝาท่อในประเทศไทย โดยในโฉมโมเดลปัจจุบันที่วางจำหน่ายในประเทศไทยก็เป็นโฉมตั้งแต่ปี 2023 แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำโฉมล่าสุดที่เปิดตัวไปในงาน EICMA2024 ประเทศอิตาลีที่ผ่านมา โดยมาพร้อมจุดเด่นไฮไลท์อย่างหน้าจอสีแบบ TFT...

KAWASAKI Versys 650 2025 ทัวร์ริ่งไซส์กลางกับราคาสองแสนกลาง

0
KAWASAKI Versys 650 2025 ทัวร์ริ่งไซส์กลางกับราคาสองแสนกลาง คาวาซากิทางฝั่งยุโรปเปิดตัว KAWASAKI Versys 650 2025 หล่อเหล่าเอาการเหมือนเดิม ดีไซน์ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ ได้รับการออกแบบดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Versys 1000 พร้อมกับชิลด์หน้ารูปแบบใหม่ ทำให้มีสไตล์ที่สอดคล้องกับดีไซน์ล่าสุดของตระกูล Versys อย่างลงตัว และ ชิลด์บังลมสามารถปรับได้ 4 ระดับ และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างสะดวกจากตำแหน่งที่นั่งของผู้ขับขี่ เสริมความโดดเด่นให้กับไฟท้ายแบบ LED ด้วย ไฟหน้า LED ใหม่ ที่เพิ่มความสมดุลให้กับ “ใบหน้า” ของ Versys 650 อีกทั้ง ไฟเลี้ยวแบบ LED ยังเพิ่มความทันสมัย ช่วยเสริมความสวยงามให้กับตัวรถได้อย่างลงตัว เครื่องยนต์สองสูบทรงพลัง Kawasaki Versys 650 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 649 ซีซี 2 สูบเรียง 4...

Kawasaki W800 2025 เดอะออริจินัล เวอร์ชันใหม่

0
Kawasaki W800 2025 เดอะออริจินัล เวอร์ชันใหม่ กว่า 50 ปีแล้วที่โฉมของเจ้า W800 ยังคงครองใจเหล่าไบค์เกอร์มานานนักต่อนัก หากให้นับอายุก็รุ่นราวคราวคุณปู่เลยทีเดียว และแน่นอนว่ายังคงยอดฮิตติดกระแสผ่านกาลเวลาหรือช่วงชีวิตวัยกำลังลั้นลาว้าวุ่นของใครหลาย ๆ คน คราวนี้ทางค่ายคาวาซากิก็พร้อมที่จะสานต่อความทรงจำอันมีค่าไปพร้อมกับการสร้างมิติเรื่องราวใหม่ ๆ กับการเปิดตัวโฉมล่าสุดอย่างเจ้า Kawasaki W800 2025  จิตวิญญาณแห่งความคลาสสิก พร้อมให้สัมผัสกับประสบการณ์สุดลึกซึ้ง คล้ายคลึงกับเจ้า W1 รุ่นบุกเบิก ด้วยจิตวิญญาณความคลาสสิกของโมเดลที่ไม่มีวันตายอย่าง W800 รุ่นนี้ เติมเต็มเสน่ห์แห่งความวินเทจด้วยพาร์ทโครเมียมสะท้อนแสงในส่วนต่าง ๆ ทั้งชุดไฟหน้า ไฟท้าย บังโคลน ตังถัง ท่อไอเสีย และกระจกเป็นต้น ผสมดีไซน์ทรงโค้งมนคลาสสิกในแบบฉบับทางค่าย เมนเฟรมแบบเปลคู่ ตัวเรือนไมล์ ถังน้ำมัน ล้อซี่ลวด บวกกับเบาะหนังปาดยาว และเอ็มเบล็มโลโก้ “W” ด้านข้างสะท้อนความเอกลักษณ์ของคาเฟ่เรเซอร์รุ่นนี้  เพิ่มความทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงการใช้งานที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบัน ทางค่ายได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาให้ทั้ง ตัวเรือนไมล์อนาล็อก+ดิจิทัลทรงกลมแบบคู่ ระบบแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์...

2025 Jorge Martin คาด เป็กโก้ และ มาร์ค มีโอกาสลุ้นแชมป์มากสุด

0
2025 Jorge Martin คาด เป็กโก้ และ มาร์ค มีโอกาสลุ้นแชมป์มากสุด ช่างเป็นนักบิดถ่อมตนเสียจริง สำหรับ 2025 Jorge Martin แชมป์โลกโมโตจีพี 2024 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ AS TV และคาดการณ์ว่า ในฤดูกาล 2025 ทีม Ducati Factory ยังคงครองเต็งหนึ่ง โดยมีนักแข่งอย่าง ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า และ มาร์ค มาร์เกซ สองนักบิดทีมเมท หรือ ดูโอ้ ออฟ ไฮไลท์ ที่มีสิทธิ์โอกาสในการคว้าแชมป์สูงสุด  ถึงแม้ว่าทีม ดูคาติ เลือกมาร์คแทนเขา แต่มาร์ตินยังคงรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้รับจากทีม และรู้สึกโล่งใจเพราะคว้าแชมป์โลกมาแล้ว (คว้าแชมป์ด้วยตัวแข่ง GP24 ให้กับทีม Pramac) จึงทำให้ตอนนี้ไม่ค่อยรู้สึกกังวลว่าจะต้องเลิกแข่งโดยไม่มีแชมป์ติดตัว...

Honda Monkey ลิงเถื่อน ‘Busozoku Style’

0
Honda Monkey ลิงเถื่อน ‘Busozoku Style’ Honda Monkey มอเตอร์ไซค์ประเภทมินิไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอยู่มากมายพอสมควร เนื่องจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับของเล่นที่สามารถหามาประดับตกแต่งได้อย่างมากมายก่ายกอง และอีกหนึ่งดีไซน์ที่น่าสนใจก็อาจจะหนีไม่พ้น ‘Rocket Cowl’ จากประเทศไทยของเราที่ถูกตกแต่งใหม่ให้มีดีไซน์คล้ายกับรถมอเตอร์ไซค์สไตล์โบโซโซคุ https://www.youtube.com/watch?v=IMQQjYSoJf4&t=649s โบโซโซคุ คืออะไร โบโซโซกุ (Bōsōzoku - 暴走族) เป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "กลุ่มนักซิ่ง" หรือ "แก๊งนักซิ่ง" ซึ่งมาจากคำว่า "โบโซ" (暴走) ที่แปลว่า "ขับขี่อย่างบ้าคลั่ง" และ "โซกุ" (族) ที่แปลว่า "กลุ่ม" หรือ "เผ่า"เมื่อนำความหมายของทั้งสองมารวมกันจะหมายถึง "กลุ่มขับขี่แบบไม่เกรงกลัว" โดยแก๊งนักขี่เหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่มีลักษณะเฉพาะและเป็นวัฒนธรรมย่อยในญี่ปุ่นช่วงทศวรรษ 1950 และได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงทศวรรษ 1980 โบโซโซกุเป็นวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มวัยรุ่นญี่ปุ่นที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการแต่งรถมอเตอร์ไซค์แบบฉูดฉาด ใช้ท่อไอเสียเสียงดัง และขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือทำท่าทางอันตรายบนถนน รวมถึงการจัดขบวนขี่รถในลักษณะที่ผิดกฎหมาย...