Skip to content Skip to footer

SuperbikeMag.com Trophy 2025

การเข้าร่วมการแข่งขัน

เงื่อนไขของการร่วมการแข่งขัน

  1. หลังจากการรับสมัครผู้ลงแข่งขันจะต้องเข้าร่วมการอบรม หรือประชุมตามที่ผู้จัดฯ กําหนดไว้
  2. ผู้เข้าแข่งขันควรจะมีประกันอุบัติเหตุ
  3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นผู้ขับขี่จะต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรืออยู่ในอาการมึนเมา หรือเสพสารเสพติด
  4. การจั๊มสตาร์ท ปรับบวกเพิ่มเวลาจากผลการแข่งขัน 20 วินาที
  5. การแซงในธงเหลืองจะถูกปรับอันดับลงตามดุลพินิจของกรรมการสนาม
  6. ผลการแข่งขันจะถูกตัดสินจากผล “ทรานสปอนเดอร์แลปไทมิ่ง”เป็นหลัก การลืมติดทรานสปอนเดอร์ ทำทรานสปอนเดอร์หลุด เสียหาย จะทำให้ไม่มีผลการแข่งขันและนักแข่งจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
  7. ห้ามขับขี่รถทุกชนิดเกิน 30km/h ในพิทเลน แล้วห้ามย้อนศรในทุกกรณี
  8. มารยาทขับขี่ เรียกตักเตือนด้วยวาจา > ปรับตําแหน่ง > ไม่มีผลการแข่งขัน > ไม่อนุญาตให้แข่งขัน > หากรุ่นที่เก็บคะแนนสะสมใดมีผู้ลงสมัครแข่งขันน้อยกว่า 7 คัน ผู้จัดฯ อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนกำหนดการแข่งขัน ยกเลิกรุ่นแข่ง ยุบรุ่นแข่ง หรือรวมแข่งพร้อมกับรุ่นอื่นตามความเหมาะสม เพื่อมิให้กระทบคะแนนสะสมประจำปีโดยจะแจ้งให้ทราบหลังปิดรับลงทะเบียน<
  9. ห้ามจำหน่ายสินค้า ตั้งบูธจำหน่ายสินค้าหรือบูทให้บริการเปลี่ยนยางภายใน Pit หรือบริเวณหลัง Pit และบริเวณทั้งหมดของสนาม โดยมิได้รับอนุญาตจากทางผู้จัดฯ
  10. รุ่นที่กําหนดเวลา (Time Ranking) ต้องวิ่งไม่เกินเวลาที่กําหนดไว้ หากวิ่งเกินเวลาที่กําหนดจะไม่มีอันดับ คะแนน และโพเดียมในสนามนั้นๆ
  11. ห้ามนําผลิตภัณฑ์ใด ๆ หรือแบรนด์สินค้าอื่น ๆ ที่ทางผู้จัดการแข่งขันมิได้กําหนดหรือเป็นสปอนเซอร์รายการ เข้ามายังบริเวณเวทีมอบรางวัล หรือในช่วงสัมภาษณ์นักแข่งโดยเด็ดขาด
  12. ขอความร่วมมือจากทุกท่าน เคารพและให้เกียรติผู้จัดฯและผู้สนับสนุนรายการ ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันและสมาชิกในทีม ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ทางสนามฯ / ผู้จัดการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์การขึ้นรับถ้วยรางวัล รวมถึงของรางวัลอื่นๆ
  13. ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องนำรถและอุปกรณ์ในการขับขี่ เข้าตรวจสภาพตามที่ผู้จัดได้กำหนดไว้โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องจัดเตรียมชุดแข่งขันจะต้องเป็น Racing Suit เท่านั้น หมวกกันน็อคต้องผ่านมาตรฐาน DOT, Snell, ECE พร้อมถุงมือแข่ง และ รองเท้าแข่งขันมาเอง
  14. การเปลี่ยนชื่อทีม ทีมสามารถเปลี่ยนชื่อได้ แต่ต้องแจ้งให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันทราบล่วงหน้า การเปลี่ยนชื่อทีมจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้จัดการแข่งขัน เพื่อให้มั่นใจว่าชื่อใหม่ไม่ขัดต่อกฎทางการค้าและไม่ขัดต่อสิทธิของผู้สนับสนุนชื่อทีมใหม่อาจต้องสอดคล้องกับแนวทางการโฆษณาและการสนับสนุนทางการตลาด เช่น การใช้ชื่อที่มีแบรนด์หรือผู้สนับสนุนหลักในกรณีนักแข่งเปลี่ยนชื่อทีมแข่ง/ย้ายทีมแข่ง หากนักแข่งเปลี่ยนแปลงชื่อทีมย้ายทีมโดยไม่มีการแจ้งให้ทางผู้จัดรับทราบ ผู้จัดฯจะพิจารณายกเลิกคะแนนสะสมของนักแข่งในสนามที่ผ่านมาเป็นศูนย์ทั้งหมด
  15. การเปลี่ยนรถแข่ง การเปลี่ยนรถแข่งในระหว่างฤดูกาลมีข้อกำหนดที่ชัดเจน เช่น ทีมจะต้องระบุรถแข่งที่ใช้ลงทะเบียนตั้งแต่ต้นฤดูกาลการเปลี่ยนรถแข่งระหว่างการแข่งขันหรือระหว่างฤดูกาลต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กรณีที่รถเดิมไม่สามารถใช้งานได้ เช่น มีอุบัติเหตุหรือปัญหาทางเทคนิคการเปลี่ยนแปลงรุ่นหรือสเปกของรถจะต้องอยู่ในกรอบข้อกำหนดของประเภทการแข่งขันนั้นๆ เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ความจุซีซี และชิ้นส่วนภายใน
  16. ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องใช้ยาง Pirelli ในการแข่งขันเท่านั้น
 

ในการแข่งขัน

  1. จำนวนรอบการแข่งขันในแต่ละรุ่นแข่ง ตามที่กำหนดในโปรแกรม ในแต่ละสนาม โดยผู้จัดฯเป็นผู้ประกาศ
  2. การปล่อยสตาร์ท ใช้ระบบไฟ ไฟสีแดงค้าง และดับลง
  3. สัญญาณธง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับสัญญาณธงที่จะใช้ หรือเซ็นเอกสารที่มีข้อกำหนดดังกล่าวอยู่เพื่อรับทราบ
  4. รุ่นที่มีการกำหนดเวลา (Time Ranking) ต้องวิ่งไม่เกินเวลาที่กำหนดไว้ หากวิ่งเร็วเกินเวลาที่กำหนดจะไม่มีอันดับ คะแนนสะสม และโพเดียมในสนามนั้น ๆ
  5. ในกรณีผู้เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น Class B ที่กำหนดเวลา (Time Ranking) ไว้ ทำเวลาต่อรอบเร็วกว่าเวลาที่กำหนด จะไม่มีคะแนนสะสมในสนามนั้น และผู้จัดฯ จะพิจารณาปรับขึ้น Class A ในปีถัดไป

กฎการแซง

  1. ผู้ขับขี่ที่นำอยู่ข้างหน้ามีสิทธ์ในทางเสมอ ขณะทำการแซง เป็นหน้าที่ของผู้ที่ทำการแซงที่จะแซงด้วยความปลอดภัยด้วยการทิ้งระยะ ให้ผู้ที่กำลังถูกแซงโดยไม่กีดขวาง, ขวางทางหรือทำให้ผู้นั้นไปต่อไม่ได้หรือไปได้ด้วยความลำบาก
  2. จะไม่มีการโต้แย้งในกฎข้อนี้ เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการแซง ผู้ที่ทำการแซงจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะเกิดขึ้นก่อน ในระหว่าง หรือหลังการแซง เนื่องจาก ผู้ขับขี่ข้างหน้าไม่สามารถมองเห็นผู้ที่ตามมาและกำลังแซงได้
  3. หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการแซง ผู้ที่ทำการแซงอาจถูกขอให้ออกจากสนาม โดยไม่มีการคืนค่าสมัคร

การตรวจสภาพ

  1.  นักแข่งต้องนำรถแข่ง พร้อมชุดแข่ง หมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า แสดงต่อกรรมการตรวจสภาพ ก่อนลงทำการจับเวลาตามโปรแกรม มิฉันนั้นจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน 
  2.  ตรวจอุปกรณ์และความปลอดภัยในการแข่งขัน (อุปกรณ์การติดตั้งต่างๆ) ถอดกระจก, ถอดขาตั้งคู่ ชิ้นส่วนที่อาจทำให้เกิด ความไม่ปลอดภัย เช่น ชิ้นส่วนแหลมคม ไม่โค้งมน หรือชิ้นส่วนที่อาจล่วงหล่นในสนาม
  3. ตรวจสอบสภาพยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน  หรือไม่ใช้งานจนหมดและเห็นถึงโครงสร้างของยาง 
  4.  ตรวจร้อยลวดน็อตเติม-น็อตถ่าย-ปั๊มเบรค-มัดขาตั้ง-รัดกระปุกน้ำมันเบรค-กรองน้ำมันเครื่องต้องมีแคมป์แสตนเลสรัด * ยกเลิก การกำหนด อกล่าง หรือถาดรองรับของเหลวในกรณีที่น้ำมันเครื่องรั่วไหล ในรุ่นการแข่งขัน  ยกเว้นอกล่างสำหรับรุ่น Triumph ‘Triple Engine Trophy’ 660 – 1200 cc  / Italjet Dragster 300cc  โดยรถที่ใช้ในการแข่งขันบริเวณจุดเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่มีมาตราฐานความปลอดภัยไม่อยู่ในสภาพชำรุดเสียหาย หรือส่อให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยต่อการแข่งขัน
  5. กระปุกน้ำมันเบรกต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน: กระปุกน้ำมันเบรกต้องไม่มีรอยรั่วซึม หรือลักษณะของการชำรุดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบเบรก การตรวจสอบสภาพนี้จะเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาอนุญาตให้รถผ่านการตรวจสภาพหรือไม่

อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน: หากพบว่ามีการติดตั้งหรือใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการรับรองในการแข่งขัน อุปกรณ์ที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย หรือไม่ได้ติดตั้งตามที่ผู้ผลิตกำหนด ผู้ตรวจสภาพมีสิทธิ์ที่จะไม่อนุญาตให้นักแข่งผ่านการตรวจสภาพรถและปฏิเสธการลงแข่งขันได้

ผ้าเทปไม่ส่งผลต่อการตรวจสภาพ: การพันผ้าเทปที่กระปุกน้ำมันเบรกเพื่อป้องกันน้ำมันเบรกกระจายเวลาเกิดอุบัติเหตุ นักแข่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้  ไม่ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ผ่านการตรวจสภาพ ตราบใดที่ระบบเบรกยังทำงานได้ตามปกติ และไม่มีรอยรั่วซึม แต่การพันผ้าเทปไม่ควรใช้เพื่อปกปิดปัญหาเกี่ยวกับการรั่วซึมหรือความชำรุดของกระปุกน้ำมันเบรก

การหาตำแหน่งสตาร์ท

ควอลิฟาย (Qualifying) หรือการลงสนามขับขี่เพื่อจับเวลาหาตำแหน่งอันดับออกสตาร์ทในวันที่กำหนด ตำแหน่งสตาร์ทให้ใช้วิธีการจับเวลาด้วยเครื่องจับเวลาระบบ Transponders ที่ทางผู้จัดฯจัดสรรมาให้เท่านั้น ตำแหน่งสตาร์ทอย่างเป็นทางการจะถูกประกาศหลังจากจบรอบ Qualifying โดยใช้ผลการจับเวลาของนักแข่งแต่ละคน นักแข่งที่ได้ผลเวลาดีที่สุด จะสตาร์ทที่จุดเริ่มต้นอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2, 3 และลำดับถัดไปตามลำดับเวลาที่นักแข่งทำได้

การประท้วง

  1. ผู้ที่สามารถยื่นประท้วง
    • การประท้วงสามารถยื่นโดย นักแข่ง หรือ ทีมแข่งขัน ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันตามรายชื่อ
    • บุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการแข่งขัน เช่น แฟนคลับ หรือผู้ชม ไม่สามารถยื่นประท้วงได้
  2. การยื่นประท้วง
    • การยื่นประท้วงต้องเป็นลายลักษณ์อักษร: การยื่นประท้วงต้องทำเป็นเอกสาร โดยมีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเหตุผลและข้อกังขาที่ต้องการให้พิจารณา โดยสามารถแจ้งกับฝ่ายลงทะเบียน
    • กรอบเวลาสำหรับการประท้วง: การยื่นประท้วงต้องทำภายในเวลาที่กำหนดหลังจากเหตุการณ์ที่เป็นข้อขัดแย้ง เช่น
              •  ประท้วงเรื่องผลการแข่งขัน: ต้องยื่นภายใน 30 นาที หลังการประกาศผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
              •  ประท้วงเรื่องการละเมิดกฎ: ต้องยื่นภายในเวลาที่กำหนดจากกฎที่ทางผู้จัดการแข่งขันระบุไว้ 30 นาที
    • ค่าธรรมเนียมการยื่นประท้วง: ในการยื่นประท้วง ทีมที่ยื่นต้องชำระค่าธรรมเนียม 3000 บาท ตามที่ทางผู้จัดการแข่งขันกำหนด ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคืนหากการประท้วงเป็นผลสำเร็จ

การสตาร์ท และการแข่งขัน

  1. ระยะเวลาในการเปิดทางออกพิท (Pit Exit) มีเวลา 5 นาที รถแข่งคันใดที่ไม่สามารถออกได้ตามเวลาทางออกพิท (Pit Exit) ที่กำหนดไว้ ให้นำรถมารายงานตัวที่ทางออกพิท(Pit Exit) นักแข่งที่ไม่สามารถเข้ากริดสตาร์ทได้ทันตามเวลาที่กำหนด จะต้องออกสตาร์ทการแข่งขันจาก บริเวณปากทางพิท(Pit Exit) และจะได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งขันได้ต่อเมื่อ นักแข่งคนสุดท้ายบนกริดสตาร์ทผ่านโค้งที่ 1 ไปแล้ว
  2. รถแข่งที่ทำการ Jump Start รถแข่งคันดังกล่าวและถูกบวกเวลาหลังจบการแข่งขัน 20 วินาที
  3. ช่วงการแข่งขัน หากกรรมการใช้ สัญญาณธงแดง ให้นักแข่งชะลอความเร็วรถ ห้ามแซง และนำรถแข่งกลับเข้าสู่พิทเลน (Pit Lane) เพื่อรอประกาศจากนายสนาม
  4. อันดับการ Restart ในกรณีธงแดง จะใช้อันดับในรอบก่อนเกิดเหตุสัญญาณธงแดง
  5. เวลาทางออกพิท (Pit Exit) เปิดสำหรับการ Restart จะมีเวลาเปิด 1 นาที
  6. รถแข่งที่มีอันดับที่ 1-5 Over all หลังจบการแข่งขันให้นำรถมาจอดบริเวณตรวจสภาพ จะมีรถรับตัวนักแข่งไปยังหน้าจุดสัมภาษณ์นักแข่ง (PARC FERME) เพื่อทำการถ่ายภาพและสัมภาษณ์
  7. การนำรถเข้า Grid Start รถแข่งทุกคันต้องดับเครื่องยนต์
  8. ไม่อนุญาตให้ลดความเร็วโดยทันทีเพื่อแสดงความดีใจในช่วงทางตรงหน้า Grand Stand / หน้าเส้น Finish โดยเด็ดขาด

การตัดสินในกรณีฝนตกระหว่างการแข่งขัน

  1. กรณีไม่สามารถควอลิฟายได้ เนื่องจากสภาพสนามไม่พร้อม จะใช้ Fastest Lap ของนักแข่งคนนั้น ๆ ในรอบ Practice ที่ดีที่สุดจัดลำดับสตาร์ท (Starting Grid)
  2. กรณีไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากสภาพสนามไม่พร้อม หรือแข่งขันได้ไม่เกิน 3 รอบ จะใช้ Fastest Lap ในรอบควอลิฟาย จัดลำดับผลการแข่งขัน โดยคิดคะแนนสะสม 25%
  3. กรณีแข่งขันได้ไม่เกิน 70% ของจำนวนรอบที่กำหนด จะคิดคะแนนสะสม 50%

การปรับโทษในกรณีต่างๆ

  1. กรณีให้บุคคลอื่นขับขี่แทน หากตรวจสอบพบว่า นักแข่งท่านใด อนุญาตให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันที่ทำการลงทะเบียนไว้ นำรถแข่งของตนลงทำการขับขี่ในทุกช่วงเวลา Official Session ของรายการ SuperbikeMag.com Trophy จะถูกดำเนินการ และมีบทลงโทษ ดังนี้
    • Qualify และ Race ปรับ Disqualify และตัดสิทธิ์ เข้าร่วมแข่งขันในรายการ  SuperbikeMag Trophy  ตลอดทั้งปีการแข่งขัน พร้อมทั้งตัดคะแนนสะสมทั้งหมดในสนามทุกๆการแข่งขัน และอาจมีการพิจารณาโทษเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
  2.  กรณีการขี่ลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางที่กำหนด การขี่ลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางที่กำหนดในสนามแข่ง จะถูกลงโทษตามกฎข้อบังคับของการแข่งขันที่จัดขึ้น เช่น
    • การขี่ลัดแทรคโดยไม่ได้ประโยชน์: หากนักแข่งออกนอกแทรคแต่ไม่ได้ประโยชน์จากการออกแทรค เช่นไม่ได้ทำให้อันดับดีขึ้น จะไม่มีการลงโทษเพิ่มเติม แต่จะมีการเตือน
    • การขี่ลัดแทรคแล้วได้ประโยชน์: หากนักแข่งออกนอกแทรคแล้วกลับมาในเส้นทางแต่ได้ประโยชน์ เช่นแซงหรือทำเวลาได้เร็วขึ้น หรือส่งผลต่ออันดับโพเดี้ยม จะถูกลงโทษด้วยการให้ ลดอันดับโพเดียม 1 อันดับ หรือ หรือถูกตัดคะแนนการแข่งขัน 10 คะแนน
    • การขี่ลัดแทรคซ้ำหลายครั้ง: หากนักแข่งมีการลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางหลายครั้งโดยไม่ได้ปฏิบัติตามคำเตือน จะถูกลงโทษที่รุนแรงขึ้น เช่นการ ตัดเวลา (time penalty) เช่น ตัดเวลาเพิ่ม 1-3 วินาที

ในกรณีที่การแข่งขันนั้นมีการสะสมคะแนน หากการลัดแทรคมีผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างมาก เช่นทำให้อันดับเปลี่ยนหรือเป็นการละเมิดกฎซ้ำซ้อน ผู้ตัดสินอาจพิจารณา ตัดคะแนน ที่นักแข่งสะสมได้ หรือแม้กระทั่ง ปรับออกจากการแข่งขัน

    1.  

หลักการปัดเกรดนักแข่งรถจักรยานยนต์ในไทย

ผลงานการแข่งขัน

  • นักแข่งที่ได้อันดับโพเดียม 1-2 ใน 3 สนามจะถูกปัดเกรดขึ้นคลาส “A” ในระดับการแข่งขันที่ตนอยู่ * มีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
  • นักแข่งที่ได้แชมป์ประจำปี ปี2024 และได้คะแนนสูงสุด จะถูกปัดเกรดขึ้นคลาส “A” ในระดับการแข่งขันที่ตนอยู่ * มีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
  • นักแข่งในคลาส A ที่ขับขี่เวลาต่ำกว่า Time Limit ในคลาส “B” มากกว่า 2 สนาม จะถูกพิจารณา ปัดเกรดจากคลาส “A” สู่คลาส “B” เนื่องจากความปลอดภัยในรุ่นการแข่งขันที่ใช้ความเร็วสูง
  •  นักแข่งที่สามารถทำเวลาได้ดีกว่า Limit Time ตั้งแต่ 2 สนามเป็นต้นไป จะได้รับการพิจารณาปรับระดับจากเกรด B เป็นเกรด A ทันที

สัญญาณธง

1. 🟢ธงเขียว (Green Flag) ความหมาย ปลอดภัย สามารถแข่งต่อหรือเริ่มแข่งได้

  • หลังเขตอันตราย หรือช่วงเริ่มต้นการแข่งขัน

2. 🟡ธงเหลือง (Yellow Flag) ความหมาย มีอันตรายข้างหน้า ลดความเร็วลงและห้ามแซง

  • มีรถล้มและรถเสียกลางสนาม มีรถเสียหยุดอยู่บนแทรคอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าสนามเคลื่อนย้าย
  • กรณีเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่จุด 3 (จุดที่ 3,2 และ 1 ต้องโบกธงเหลือง)
  • มีเศษชิ้นส่วนอยู่บนสนาม เช่น ชิ้นส่วนรถหลุดกระจายจากอุบัติเหตุ มีน้ำมันรั่วลงในพื้นแทรค
  • มีเจ้าหน้าที่สนามอยู่ในสนาม เช่น กำลังให้ความช่วยเหลือหรือเก็บกู้รถในแทรค
    หมายเหตุ: ห้ามแซงขณะสัญญาณธงเหลือง

3. 🔴ธงแดง (Red Flag) ความหมาย หยุดการแข่งขันทันที

  • มีอุบัติเหตุหมู่ เช่น  รถล้มหลายคันในเวลาเดียวกัน หรือมีการบาดเจ็บสาหัสต้องใช้รถพยาบาลลงสนาม
  • สนามเปียกหรือมีน้ำท่วมกะทันหัน เช่น ฝนตกหนักจนไม่สามารถแข่งขันได้อย่างปลอดภัย
  • เศษซากรถ หรือคราบน้ำมันบนแทรค ที่ต้องใช้เวลานานในการเคลียร์
  • หมดเวลาต่อรอบขับขี่ในสนาม
    หมายเหตุ: ต้องหยุดการแข่งทันที และกลับเข้าสู่ Pit lane หรือเส้นสตาร์ต ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่สนาม
    ห้ามเร่งเครื่องหรือแซงระหว่างทางกลับเข้าพื้นที่ปลอดภัย รอคำสั่งต่อไปว่าจะ เริ่มใหม่ (Restart), นับผลการแข่งขันจากรอบที่ผ่านมา, หรือ ยุติการแข่งขัน

4. 🔵ธงฟ้า (Blue Flag) ความหมาย ผู้ขับขี่ที่ถูกแซงรอบ (lapped) ต้องเปิดทางหลบ ให้ผู้นำผ่าน

5. 🏁ธงลายหมากรุก (Checkred Flag)  ความหมาย จบการแข่งขัน ผู้ขับขี่ต้องผ่านเส้นชัย ลดความเร็วกลับเข้าพิท

Area Zone Survey

  1. นักแข่งทุกคนต้องศึกษากฎของสัญญาณธง และปฏิบัติตามสัญญาณธงอย่างเคร่งครัด (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับเป็นเงินหรือ ปรับผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้)
  2. หากรถแข่งคันใด มีของเหลวรั่วไหล หรือมีชิ้นส่วนของตัวรถหลุด อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนักแข่งคันอื่น กรรมการธงแต่ละจุดจะใช้สัญญาณ ธงแดงใส่รถคันดังกล่าว  ให้ออกนอกเส้นทางแข่งและจอดในพื้นที่ปลอดภัยทันที (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ ผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้ และอาจถูกปรับเป็นเงินตามความเหมาะสม)
  3. ทุกครั้งที่หมดเวลา การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน จะใช้เป็นธงหมากรุกแจ้งให้นักแข่งทุกคนรับทราบที่ Finish 
  4. ช่วง การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน หากกรรมการใช้สัญญาณ ธงแดง ให้นักแข่งชะลอความเร็วรถ ห้ามแซง และนำรถแข่งกลับสู่ Pit Lane (หากรถแข่งคันใดไม่เข้าพิท มีโทษปรับรอบละ 2,000 บาท)
  5. เมื่อกรรมการใช้สัญญาณธงเหลือง นักแข่งทุกคนจะต้องลดความเร็วและห้ามแซงโดยเด็ดขาดจนกว่าจะผ่านสัญญาณธงเขียว 
 
  1.  หลังจากการรับสมัครผู้ลงแข่งขันจะต้องเข้าร่วมการอบรม หรือประชุมตามที่ผู้จัดฯ กําหนดไว้
  2. ผู้เข้าแข่งขันควรจะมีประกันอุบัติเหตุ
  3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นผู้ขับขี่จะต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรืออยู่ในอาการมึนเมา หรือเสพสารเสพติด
  4. การจั๊มสตาร์ท ปรับบวกเพิ่มเวลาจากผลการแข่งขัน 20 วินาที
  5. การแซงในธงเหลืองจะถูกปรับอันดับลงตามดุลพินิจของกรรมการสนาม
  6. ผลการแข่งขันจะถูกตัดสินจากผล “ทรานสปอนเดอร์แลปไทมิ่ง”เป็นหลัก การลืมติดทรานสปอนเดอร์ ทำทรานสปอนเดอร์หลุด เสียหาย จะทำให้ไม่มีผลการแข่งขันและนักแข่งจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
  7. ห้ามขับขี่รถทุกชนิดเกิน 30km/h ในพิทเลน แล้วห้ามย้อนศรในทุกกรณี
  8. มารยาทขับขี่ เรียกตักเตือนด้วยวาจา > ปรับตําแหน่ง > ไม่มีผลการแข่งขัน > ไม่อนุญาตให้แข่งขัน > หากรุ่นที่เก็บคะแนนสะสมใดมีผู้ลงสมัครแข่งขันน้อยกว่า 7 คัน ผู้จัดฯ อาจพิจารณาปรับเปลี่ยนกำหนดการแข่งขัน ยกเลิกรุ่นแข่ง ยุบรุ่นแข่ง หรือรวมแข่งพร้อมกับรุ่นอื่นตามความเหมาะสม เพื่อมิให้กระทบคะแนนสะสมประจำปีโดยจะแจ้งให้ทราบหลังปิดรับลงทะเบียน<
  9. ห้ามจำหน่ายสินค้า ตั้งบูธจำหน่ายสินค้าหรือบูทให้บริการเปลี่ยนยางภายใน Pit หรือบริเวณหลัง Pit และบริเวณทั้งหมดของสนาม โดยมิได้รับอนุญาตจากทางผู้จัดฯ
  10. รุ่นที่กําหนดเวลา (Time Ranking) ต้องวิ่งไม่เกินเวลาที่กําหนดไว้ หากวิ่งเกินเวลาที่กําหนดจะไม่มีอันดับ คะแนน และโพเดียมในสนามนั้นๆ
  11. ห้ามนําผลิตภัณฑ์ใด ๆ หรือแบรนด์สินค้าอื่น ๆ ที่ทางผู้จัดการแข่งขันมิได้กําหนดหรือเป็นสปอนเซอร์รายการ เข้ามายังบริเวณเวทีมอบรางวัล หรือในช่วงสัมภาษณ์นักแข่งโดยเด็ดขาด
  12. ขอความร่วมมือจากทุกท่าน เคารพและให้เกียรติผู้จัดฯและผู้สนับสนุนรายการ ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันและสมาชิกในทีม ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ทางสนามฯ / ผู้จัดการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์การขึ้นรับถ้วยรางวัล รวมถึงของรางวัลอื่นๆ
  13. ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องนำรถและอุปกรณ์ในการขับขี่ เข้าตรวจสภาพตามที่ผู้จัดได้กำหนดไว้โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องจัดเตรียมชุดแข่งขันจะต้องเป็น Racing Suit เท่านั้น หมวกกันน็อคต้องผ่านมาตรฐาน DOT, Snell, ECE พร้อมถุงมือแข่ง และ รองเท้าแข่งขันมาเอง
  14. การเปลี่ยนชื่อทีม ทีมสามารถเปลี่ยนชื่อได้ แต่ต้องแจ้งให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันทราบล่วงหน้า การเปลี่ยนชื่อทีมจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้จัดการแข่งขัน เพื่อให้มั่นใจว่าชื่อใหม่ไม่ขัดต่อกฎทางการค้าและไม่ขัดต่อสิทธิของผู้สนับสนุนชื่อทีมใหม่อาจต้องสอดคล้องกับแนวทางการโฆษณาและการสนับสนุนทางการตลาด เช่น การใช้ชื่อที่มีแบรนด์หรือผู้สนับสนุนหลักในกรณีนักแข่งเปลี่ยนชื่อทีมแข่ง/ย้ายทีมแข่ง หากนักแข่งเปลี่ยนแปลงชื่อทีมย้ายทีมโดยไม่มีการแจ้งให้ทางผู้จัดรับทราบ ผู้จัดฯจะพิจารณายกเลิกคะแนนสะสมของนักแข่งในสนามที่ผ่านมาเป็นศูนย์ทั้งหมด
  15. การเปลี่ยนรถแข่ง การเปลี่ยนรถแข่งในระหว่างฤดูกาลมีข้อกำหนดที่ชัดเจน เช่น ทีมจะต้องระบุรถแข่งที่ใช้ลงทะเบียนตั้งแต่ต้นฤดูกาลการเปลี่ยนรถแข่งระหว่างการแข่งขันหรือระหว่างฤดูกาลต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กรณีที่รถเดิมไม่สามารถใช้งานได้ เช่น มีอุบัติเหตุหรือปัญหาทางเทคนิคการเปลี่ยนแปลงรุ่นหรือสเปกของรถจะต้องอยู่ในกรอบข้อกำหนดของประเภทการแข่งขันนั้นๆ เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ความจุซีซี และชิ้นส่วนภายใน
  16. ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องใช้ยาง Pirelli ในการแข่งขันเท่านั้น
  1. จำนวนรอบการแข่งขันในแต่ละรุ่นแข่ง ตามที่กำหนดในโปรแกรม ในแต่ละสนาม โดยผู้จัดฯเป็นผู้ประกาศ
  2. การปล่อยสตาร์ท ใช้ระบบไฟ ไฟสีแดงค้าง และดับลง
  3. สัญญาณธง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องผ่านการอบรมเกี่ยวกับสัญญาณธงที่จะใช้ หรือเซ็นเอกสารที่มีข้อกำหนดดังกล่าวอยู่เพื่อรับทราบ
  4. รุ่นที่มีการกำหนดเวลา (Time Ranking) ต้องวิ่งไม่เกินเวลาที่กำหนดไว้ หากวิ่งเร็วเกินเวลาที่กำหนดจะไม่มีอันดับ คะแนนสะสม และโพเดียมในสนามนั้น ๆ
  5. ในกรณีผู้เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น Class B ที่กำหนดเวลา (Time Ranking) ไว้ ทำเวลาต่อรอบเร็วกว่าเวลาที่กำหนด จะไม่มีคะแนนสะสมในสนามนั้น และผู้จัดฯ จะพิจารณาปรับขึ้น Class A ในปีถัดไป
 
  1. ผู้ขับขี่ที่นำอยู่ข้างหน้ามีสิทธ์ในทางเสมอ ขณะทำการแซง เป็นหน้าที่ของผู้ที่ทำการแซงที่จะแซงด้วยความปลอดภัยด้วยการทิ้งระยะ ให้ผู้ที่กำลังถูกแซงโดยไม่กีดขวาง, ขวางทางหรือทำให้ผู้นั้นไปต่อไม่ได้หรือไปได้ด้วยความลำบาก
  2. จะไม่มีการโต้แย้งในกฎข้อนี้ เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการแซง ผู้ที่ทำการแซงจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะเกิดขึ้นก่อน ในระหว่าง หรือหลังการแซง เนื่องจาก ผู้ขับขี่ข้างหน้าไม่สามารถมองเห็นผู้ที่ตามมาและกำลังแซงได้
  3. หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการแซง ผู้ที่ทำการแซงอาจถูกขอให้ออกจากสนาม โดยไม่มีการคืนค่าสมัคร
  1.  นักแข่งต้องนำรถแข่ง พร้อมชุดแข่ง หมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า แสดงต่อกรรมการตรวจสภาพ ก่อนลงทำการจับเวลาตามโปรแกรม มิฉันนั้นจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน 
  2.  ตรวจอุปกรณ์และความปลอดภัยในการแข่งขัน (อุปกรณ์การติดตั้งต่างๆ) ถอดกระจก, ถอดขาตั้งคู่ ชิ้นส่วนที่อาจทำให้เกิด ความไม่ปลอดภัย เช่น ชิ้นส่วนแหลมคม ไม่โค้งมน หรือชิ้นส่วนที่อาจล่วงหล่นในสนาม
  3.  ตรวจสอบสภาพยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน  หรือไม่ใช้งานจนหมดและเห็นถึงโครงสร้างของยาง 
  4.  ตรวจร้อยลวดน็อตเติม-น็อตถ่าย-ปั๊มเบรค-มัดขาตั้ง-รัดกระปุกน้ำมันเบรค-กรองน้ำมันเครื่องต้องมีแคมป์แสตนเลสรัด * ยกเลิก การกำหนด อกล่าง หรือถาดรองรับของเหลวในกรณีที่น้ำมันเครื่องรั่วไหล ในรุ่นการแข่งขัน  ยกเว้นอกล่างสำหรับรุ่น Triumph ‘Triple Engine Trophy’ 660 – 1200 cc  / Italjet Dragster 300cc  โดยรถที่ใช้ในการแข่งขันบริเวณจุดเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ จะต้องอยู่ในเกณฑ์ที่มีมาตราฐานความปลอดภัยไม่อยู่ในสภาพชำรุดเสียหาย หรือส่อให้เห็นถึงความไม่ปลอดภัยต่อการแข่งขัน
  5. กระปุกน้ำมันเบรกต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน: กระปุกน้ำมันเบรกต้องไม่มีรอยรั่วซึม หรือลักษณะของการชำรุดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบเบรก การตรวจสอบสภาพนี้จะเป็นจุดสำคัญในการพิจารณาอนุญาตให้รถผ่านการตรวจสภาพหรือไม่

อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน: หากพบว่ามีการติดตั้งหรือใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการรับรองในการแข่งขัน อุปกรณ์ที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัย หรือไม่ได้ติดตั้งตามที่ผู้ผลิตกำหนด ผู้ตรวจสภาพมีสิทธิ์ที่จะไม่อนุญาตให้นักแข่งผ่านการตรวจสภาพรถและปฏิเสธการลงแข่งขันได้

ผ้าเทปไม่ส่งผลต่อการตรวจสภาพ: การพันผ้าเทปที่กระปุกน้ำมันเบรกเพื่อป้องกันน้ำมันเบรกกระจายเวลาเกิดอุบัติเหตุ นักแข่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้  ไม่ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ผ่านการตรวจสภาพ ตราบใดที่ระบบเบรกยังทำงานได้ตามปกติ และไม่มีรอยรั่วซึม แต่การพันผ้าเทปไม่ควรใช้เพื่อปกปิดปัญหาเกี่ยวกับการรั่วซึมหรือความชำรุดของกระปุกน้ำมันเบรก

ควอลิฟาย (Qualifying) หรือการลงสนามขับขี่เพื่อจับเวลาหาตำแหน่งอันดับออกสตาร์ทในวันที่กำหนด ตำแหน่งสตาร์ทให้ใช้วิธีการจับเวลาด้วยเครื่องจับเวลาระบบ Transponders ที่ทางผู้จัดฯจัดสรรมาให้เท่านั้น ตำแหน่งสตาร์ทอย่างเป็นทางการจะถูกประกาศหลังจากจบรอบ Qualifying โดยใช้ผลการจับเวลาของนักแข่งแต่ละคน นักแข่งที่ได้ผลเวลาดีที่สุด จะสตาร์ทที่จุดเริ่มต้นอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2, 3 และลำดับถัดไปตามลำดับเวลาที่นักแข่งทำได้

  1. ผู้ที่สามารถยื่นประท้วง
    – การประท้วงสามารถยื่นโดย นักแข่ง หรือ ทีมแข่งขัน ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันตามรายชื่อ
    – บุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการแข่งขัน เช่น แฟนคลับ หรือผู้ชม ไม่สามารถยื่นประท้วงได้
  2. การยื่นประท้วง
    – การยื่นประท้วงต้องเป็นลายลักษณ์อักษร: การยื่นประท้วงต้องทำเป็นเอกสาร โดยมีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเหตุผลและข้อกังขาที่ต้องการให้พิจารณา โดยสามารถแจ้งกับฝ่ายลงทะเบียน
    – กรอบเวลาสำหรับการประท้วง: การยื่นประท้วงต้องทำภายในเวลาที่กำหนดหลังจากเหตุการณ์ที่เป็นข้อขัดแย้ง เช่น
            •  ประท้วงเรื่องผลการแข่งขัน: ต้องยื่นภายใน 30 นาที หลังการประกาศผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
            •  ประท้วงเรื่องการละเมิดกฎ: ต้องยื่นภายในเวลาที่กำหนดจากกฎที่ทางผู้จัดการแข่งขันระบุไว้ 30 นาที
    – ค่าธรรมเนียมการยื่นประท้วง: ในการยื่นประท้วง ทีมที่ยื่นต้องชำระค่าธรรมเนียม 3000 บาท ตามที่ทางผู้จัดการแข่งขันกำหนด ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคืนหากการประท้วงเป็นผลสำเร็จ
  1. ระยะเวลาในการเปิดทางออกพิท (Pit Exit) มีเวลา 5 นาที รถแข่งคันใดที่ไม่สามารถออกได้ตามเวลาทางออกพิท (Pit Exit) ที่กำหนดไว้ ให้นำรถมารายงานตัวที่ทางออกพิท(Pit Exit) นักแข่งที่ไม่สามารถเข้ากริดสตาร์ทได้ทันตามเวลาที่กำหนด จะต้องออกสตาร์ทการแข่งขันจาก บริเวณปากทางพิท(Pit Exit) และจะได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งขันได้ต่อเมื่อ นักแข่งคนสุดท้ายบนกริดสตาร์ทผ่านโค้งที่ 1 ไปแล้ว
  2. รถแข่งที่ทำการ Jump Start รถแข่งคันดังกล่าวและถูกบวกเวลาหลังจบการแข่งขัน 20 วินาที
  3. ช่วงการแข่งขัน หากกรรมการใช้ สัญญาณธงแดง ให้นักแข่งชะลอความเร็วรถ ห้ามแซง และนำรถแข่งกลับเข้าสู่พิทเลน (Pit Lane) เพื่อรอประกาศจากนายสนาม
  4. อันดับการ Restart ในกรณีธงแดง จะใช้อันดับในรอบก่อนเกิดเหตุสัญญาณธงแดง
  5. เวลาทางออกพิท (Pit Exit) เปิดสำหรับการ Restart จะมีเวลาเปิด 1 นาที
  6. รถแข่งที่มีอันดับที่ 1-5 Over all หลังจบการแข่งขันให้นำรถมาจอดบริเวณตรวจสภาพ จะมีรถรับตัวนักแข่งไปยังหน้าจุดสัมภาษณ์นักแข่ง (PARC FERME) เพื่อทำการถ่ายภาพและสัมภาษณ์
  7. การนำรถเข้า Grid Start รถแข่งทุกคันต้องดับเครื่องยนต์
  8. ไม่อนุญาตให้ลดความเร็วโดยทันทีเพื่อแสดงความดีใจในช่วงทางตรงหน้า Grand Stand / หน้าเส้น Finish โดยเด็ดขาด
  1. กรณีไม่สามารถควอลิฟายได้ เนื่องจากสภาพสนามไม่พร้อม จะใช้ Fastest Lap ของนักแข่งคนนั้น ๆ ในรอบ Practice ที่ดีที่สุดจัดลำดับสตาร์ท (Starting Grid)
  2. กรณีไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากสภาพสนามไม่พร้อม หรือแข่งขันได้ไม่เกิน 3 รอบ จะใช้ Fastest Lap ในรอบควอลิฟาย จัดลำดับผลการแข่งขัน โดยคิดคะแนนสะสม 25%
  3. กรณีแข่งขันได้ไม่เกิน 70% ของจำนวนรอบที่กำหนด จะคิดคะแนนสะสม 50%
  1. กรณีให้บุคคลอื่นขับขี่แทน หากตรวจสอบพบว่า นักแข่งท่านใด อนุญาตให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันที่ทำการลงทะเบียนไว้ นำรถแข่งของตนลงทำการขับขี่ในทุกช่วงเวลา Official Session ของรายการ SuperbikeMag.com Trophy จะถูกดำเนินการ และมีบทลงโทษ ดังนี้
    • Qualify และ Race ปรับ Disqualify และตัดสิทธิ์ เข้าร่วมแข่งขันในรายการ  SuperbikeMag Trophy  ตลอดทั้งปีการแข่งขัน พร้อมทั้งตัดคะแนนสะสมทั้งหมดในสนามทุกๆการแข่งขัน และอาจมีการพิจารณาโทษเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
  2. กรณีการขี่ลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางที่กำหนด การขี่ลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางที่กำหนดในสนามแข่ง จะถูกลงโทษตามกฎข้อบังคับของการแข่งขันที่จัดขึ้น เช่น
    • การขี่ลัดแทรคโดยไม่ได้ประโยชน์: หากนักแข่งออกนอกแทรคแต่ไม่ได้ประโยชน์จากการออกแทรค เช่นไม่ได้ทำให้อันดับดีขึ้น จะไม่มีการลงโทษเพิ่มเติม แต่จะมีการเตือน
    • การขี่ลัดแทรคแล้วได้ประโยชน์: หากนักแข่งออกนอกแทรคแล้วกลับมาในเส้นทางแต่ได้ประโยชน์ เช่นแซงหรือทำเวลาได้เร็วขึ้น หรือส่งผลต่ออันดับโพเดี้ยม จะถูกลงโทษด้วยการให้ ลดอันดับโพเดียม 1 อันดับ หรือ หรือถูกตัดคะแนนการแข่งขัน 10 คะแนน
    • ารขี่ลัดแทรคซ้ำหลายครั้ง: หากนักแข่งมีการลัดแทรคหรือออกนอกเส้นทางหลายครั้งโดยไม่ได้ปฏิบัติตามคำเตือน จะถูกลงโทษที่รุนแรงขึ้น เช่นการ ตัดเวลา (time penalty) เช่น ตัดเวลาเพิ่ม 1-3 วินาที

ในกรณีที่การแข่งขันนั้นมีการสะสมคะแนน หากการลัดแทรคมีผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างมาก เช่นทำให้อันดับเปลี่ยนหรือเป็นการละเมิดกฎซ้ำซ้อน ผู้ตัดสินอาจพิจารณา ตัดคะแนน ที่นักแข่งสะสมได้ หรือแม้กระทั่ง ปรับออกจากการแข่งขัน

ผลงานการแข่งขัน

  • นักแข่งที่ได้อันดับโพเดียม 1-2 ใน 3 สนามจะถูกปัดเกรดขึ้นคลาส “A” ในระดับการแข่งขันที่ตนอยู่ * มีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
  • นักแข่งที่ได้แชมป์ประจำปี ปี2024 และได้คะแนนสูงสุด จะถูกปัดเกรดขึ้นคลาส “A” ในระดับการแข่งขันที่ตนอยู่ * มีผลตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
  • นักแข่งในคลาส A ที่ขับขี่เวลาต่ำกว่า Time Limit ในคลาส “B” มากกว่า 2 สนาม จะถูกพิจารณา ปัดเกรดจากคลาส “A” สู่คลาส “B” เนื่องจากความปลอดภัยในรุ่นการแข่งขันที่ใช้ความเร็วสูง
  •  นักแข่งที่สามารถทำเวลาได้ดีกว่า Limit Time ตั้งแต่ 2 สนามเป็นต้นไป จะได้รับการพิจารณาปรับระดับจากเกรด B เป็นเกรด A ทันที

1. 🟢ธงเขียว (Green Flag) ความหมาย ปลอดภัย สามารถแข่งต่อหรือเริ่มแข่งได้

  • หลังเขตอันตราย หรือช่วงเริ่มต้นการแข่งขัน

2. 🟡ธงเหลือง (Yellow Flag) ความหมาย มีอันตรายข้างหน้า ลดความเร็วลงและห้ามแซง

  • มีรถล้มและรถเสียกลางสนาม มีรถเสียหยุดอยู่บนแทรคอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าสนามเคลื่อนย้าย
  • กรณีเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่จุด 3 (จุดที่ 3,2 และ 1 ต้องโบกธงเหลือง)
  • มีเศษชิ้นส่วนอยู่บนสนาม เช่น ชิ้นส่วนรถหลุดกระจายจากอุบัติเหตุ มีน้ำมันรั่วลงในพื้นแทรค
  • มีเจ้าหน้าที่สนามอยู่ในสนาม เช่น กำลังให้ความช่วยเหลือหรือเก็บกู้รถในแทรค
    หมายเหตุ: ห้ามแซงขณะสัญญาณธงเหลือง

3. 🔴ธงแดง (Red Flag) ความหมาย หยุดการแข่งขันทันที

  • มีอุบัติเหตุหมู่ เช่น  รถล้มหลายคันในเวลาเดียวกัน หรือมีการบาดเจ็บสาหัสต้องใช้รถพยาบาลลงสนาม
  • สนามเปียกหรือมีน้ำท่วมกะทันหัน เช่น ฝนตกหนักจนไม่สามารถแข่งขันได้อย่างปลอดภัย
  • เศษซากรถ หรือคราบน้ำมันบนแทรค ที่ต้องใช้เวลานานในการเคลียร์
  • หมดเวลาต่อรอบขับขี่ในสนาม
    หมายเหตุ: ต้องหยุดการแข่งทันที และกลับเข้าสู่ Pit lane หรือเส้นสตาร์ต ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่สนาม
    ห้ามเร่งเครื่องหรือแซงระหว่างทางกลับเข้าพื้นที่ปลอดภัย รอคำสั่งต่อไปว่าจะ เริ่มใหม่ (Restart), นับผลการแข่งขันจากรอบที่ผ่านมา, หรือ ยุติการแข่งขัน

4. 🔵ธงฟ้า (Blue Flag) ความหมาย ผู้ขับขี่ที่ถูกแซงรอบ (lapped) ต้องเปิดทางหลบ ให้ผู้นำผ่าน

5. 🏁ธงลายหมากรุก (Checkred Flag)  ความหมาย จบการแข่งขัน ผู้ขับขี่ต้องผ่านเส้นชัย ลดความเร็วกลับเข้าพิท

Area Zone Survey

  1. นักแข่งทุกคนต้องศึกษากฎของสัญญาณธง และปฏิบัติตามสัญญาณธงอย่างเคร่งครัด (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับเป็นเงินหรือ ปรับผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้)
  2. หากรถแข่งคันใด มีของเหลวรั่วไหล หรือมีชิ้นส่วนของตัวรถหลุด อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนักแข่งคันอื่น กรรมการธงแต่ละจุดจะใช้สัญญาณ ธงแดงใส่รถคันดังกล่าว  ให้ออกนอกเส้นทางแข่งและจอดในพื้นที่ปลอดภัยทันที (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ ผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้ และอาจถูกปรับเป็นเงินตามความเหมาะสม)
  3. ทุกครั้งที่หมดเวลา การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน จะใช้เป็นธงหมากรุกแจ้งให้นักแข่งทุกคนรับทราบที่ Finish 
  4. ช่วง การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน หากกรรมการใช้สัญญาณ ธงแดง ให้นักแข่งชะลอความเร็วรถ ห้ามแซง และนำรถแข่งกลับสู่ Pit Lane (หากรถแข่งคันใดไม่เข้าพิท มีโทษปรับรอบละ 2,000 บาท)
  5. เมื่อกรรมการใช้สัญญาณธงเหลือง นักแข่งทุกคนจะต้องลดความเร็วและห้ามแซงโดยเด็ดขาดจนกว่าจะผ่านสัญญาณธงเขียว 
  • 29/07/2023   NEW!! สำหรับนักแข่ง ที่มี CBR500R เท่านั้น
    • ลงทะเบียนฟรี Honda Bigbike จ่ายให้
    • พร้อมถ้วยรางวัลพิเศษ จาก Honda
  • 27/07/2023  Promotion ลงทะเบียนสำหรับลูกค้าที่ใช้รถYamaha
    • รุ่น T-max ,R6,R7,R1,MT-07-10
      ค่าสมัครแทร็คเดย์ 1,500 บาท
      ค่าสมัครแข่ง 800 บาท
  • 27/07/2023  Promotion ลงทะเบียนสำหรับลูกค้าที่ใช้รถ Honda
    • รุ่น CBR500R,CB500F 
      ฟรี แทร็คเดย์ สำหรับวันเสาร์
      แข่ง สำหรับรุ่น CBR Trophy
    • สำหรับ Honda ทุกรุ่น
      ราคาสุดพิเศษ
      แทร็คย์ วันเสาร์ 1,500 บาท
      แข่ง วันอาทิตย์ ทุกรุ่น 800 บาท
Go To Top