SuperBikeMag.com | Trackday & Trophy 2025

SuperbikeMag.com Trophy 2025 R.3

การเตรียมความพร้อม

คำแนะนำในการตรวจสภาพความพร้อมของรถคุณ

ระบบเครื่องยนต์และตัวรถ (Engine and Chassis System)

  • ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรุ่นที่เข้าแข่งขัน
  • ไม่สามารถมีการดัดแปลงที่ผิดกฎเกณฑ์ที่กำหนด
  • เราแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ อาจเกิดการรั่วไหลลงบนสนามได้
  • และน้ำยาหล่อเย็นทำให้พื้นสนามลื่นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และยากต่อการทำความสะอาด
  • การร้อยลวดสเตนเลส (Safety Wiring) ในการแข่งขัน ชิ้นส่วนดังนี้
    • น๊อตยึดคาร์ลิเปอร์เบรคหน้าซ้าย-ขวา
    • น๊อตอ่างน้ำมันเครื่อง
    • น๊อตเติมน้ำมันเครื่อง
    • น็อตออยคูลเลอร์

ระบบเบรก (Braking System)​ ✅

  • เบรกหน้าและเบรกหลังต้องทำงานได้ดี
  • ผ้าเบรกต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่สึกหรอเกินไป
  • น้ำมันเบรกต้องอยู่ในระดับที่เพียงพอ

ระบบกันสะเทือน (Suspension)​ ✅

  • โช้คอัพหน้าและหลังต้องทำงานได้ปกติ ไม่มีน้ำมันรั่วซึม
  • ระบบกันสะเทือนต้องอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี

ระบบโซ่-สเตอร์ก่อนแข่งขัน​ ✅

  • โซ่ต้องไม่หย่อนหรือแน่นเกินไป
  • ปกติระยะหย่อนที่เหมาะสมอยู่ที่ 20-30 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
  • ตั้งโซ่ให้มีความตึงพอดีเมื่อมีนักแข่งนั่งอยู่บนรถ
  • “ที่ครอบโซ่” (Chain Guard) กำหนดให้รถแข่งต้องมีที่ครอบโซ่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกร้าวง่าย

ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel System)​ ✅

  • ถังน้ำมันต้องไม่มีรอยรั่วซึม
  • สายส่งน้ำมันต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์

ล้อและยาง (Wheels & Tires)​ ✅

  • ยางต้องมีดอกยางที่เหมาะสมตามประเภทของการแข่งขัน
  • ห้ามใช้ยางที่มีสภาพสึกหรอหรือเสียหาย
  • ล้อและซี่ล้อต้องอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง
  • เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านเทคนิคและความปลอดภัยของการแข่งขัน รวมถึงการรักษามาตรฐานเดียวกันสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน นักแข่งจะต้องใช้ยางยี่ห้อ Pirelli ในการฝึกซ้อมวันศุกร์ (Practice) การขับขี่ในวันเสาร์ (Track Day/Qualifying) และ การแข่งขันวันอาทิตย์ (Race) เท่านั้น *ยกเว้นในกรณีที่ Pirelli ไม่มียางไซส์นั้นๆ จำหน่าย

อุปกรณ์ป้องกันตัวนักแข่ง ✅

  • ชุดแข่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หนังแท้หรือวัสดุที่ทนต่อแรงเสียดทาน
  • หมวกกันน็อกต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
  • ถุงมือและรองเท้าต้องเป็นแบบที่ได้รับการรับรอง

อื่นๆ​ 

  • ติดหมายเลขรถที่หน้ารถ ห้ามติดบริเวณอื่นๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และต้องใช้สติ๊กเกอร์และเบอร์จากผู้จัดการแข่งขันเท่านั้น
  • ตัวรถไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์แบรนด์ยางยี่ห้ออื่นลงไปขับขี่ได้ ยกเว้นแบรนด์ Pirelli เท่านั้น
  • ตัวรถต้องไม่มีการดัดแปลงแฟริ่งที่อาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชน หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้
  • ห้ามติดกล้องที่มีลักษณะเป็นไม้เซลฟี่ เกินออกมาเกินตัวรถเด็ดขาด
  • ต้องติดเทปดำ บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อป้องกันการแตกกระจายของกระจกไฟหน้าและไฟท้าย ลดการสะท้อนแสงที่อาจรบกวนผู้แข่งคนอื่น และลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสัญญาณไฟ
  • ต้องติดตั้งถาดรองน้ำมันเครื่องหรือแฟริ่งอกล่างที่ไม่มีรู เพื่อป้องกันของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หรือของเหลวอื่น ๆ รั่วไหลลงสู่พื้นแทร็ก
  • ในรุ่นการแข่งขัน Honda Cup, KTM 390 Series และ Eurobike Cup อนุโลมให้ไม่ต้องติดตั้งอกล่าง (Lower Fairing) สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน

ข้อบังคับการแต่งกาย และอุปกรณ์ที่แนะนำ

1. หมวกกันน็อค (Helmet)

  • หมวกกันน็อคต้องเป็นหมวกเต็มใบ (Full-face helmet) ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน DOT, Snell, หรือ ECE
  • หมวกต้องมีการปิดคางแน่นหนาและมั่นคงเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ
  • ต้องมีหน้ากากป้องกัน (visor) ที่ช่วยในการมองเห็นชัดเจนและป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นหรือแมลง

2. ชุดหนังป้องกันการกระแทก (Leather Suit)

  • ชุดต้องเป็นแบบชุดเต็มตัวที่ทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการขูดขีดและการกระแทก
  • บริเวณที่สำคัญ เช่น เข่า ศอก ไหล่ และสะโพก ต้องมีแผ่นกันกระแทกเสริมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • ชุดต้องกระชับพอดีตัว และต้องมีระบบป้องกันการถอดหลุดจากร่างกายระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ

3. ถุงมือ (Gloves)

  • ถุงมือที่ใช้ต้องคลุมมิดทั้งมือและข้อมือ
  • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน และมีการเสริมแผ่นกันกระแทกที่บริเวณฝ่ามือและนิ้วมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • ถุงมือต้องยืดหยุ่นพอที่จะให้นักแข่งสามารถควบคุมคันเร่งและเบรกได้อย่างคล่องตัว

4. รองเท้า (Boots)

  • รองเท้าต้องเป็นแบบบู๊ทสูงที่ป้องกันขาและข้อเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน มีการเสริมแผ่นป้องกันที่บริเวณข้อเท้าและส้นเท้าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • พื้นรองเท้าต้องไม่ลื่นและต้องมีการยึดเกาะที่ดีในขณะที่นักแข่งใช้เกียร์และเบรก

5. อุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัย

  • แผ่นรองหลัง (Back Protector): จำเป็นต้องมีการใส่แผ่นรองหลังเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังหากเกิดอุบัติเหตุ แผ่นนี้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ FIM กำหนด
  • แผ่นรองหน้าอก (Chest Protector): เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่หน้าอกจากการล้ม

6. การตรวจสอบอุปกรณ์

  • ก่อนการแข่งขัน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดของนักแข่งเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นไปตามข้อกำหนดและพร้อมใช้งานในการแข่งขัน
  • หากอุปกรณ์ใดไม่ผ่านการตรวจสอบ นักแข่งจะต้องทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขัน

คำแนะนำในการตรวจสภาพความพร้อมของรถคุณ

  • ระบบเครื่องยนต์และตัวรถ (Engine and Chassis System)
    • ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรุ่นที่เข้าแข่งขัน
    • ไม่สามารถมีการดัดแปลงที่ผิดกฎเกณฑ์ที่กำหนด
    • เราแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ อาจเกิดการรั่วไหลลงบนสนามได้ และน้ำยาหล่อเย็นทำให้พื้นสนามลื่นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และยากต่อการทำความสะอาด
    • การร้อยลวดสเตนเลส (Safety Wiring) ในการแข่งขัน ชิ้นส่วนดังนี้
      • น๊อตยึดคาร์ลิเปอร์เบรคหน้าซ้าย-ขวา
      • น๊อตอ่างน้ำมันเครื่อง
      • น๊อตเติมน้ำมันเครื่อง
      • น็อตออยคูลเลอร์
  • ระบบเบรก (Braking System)
    • เบรกหน้าและเบรกหลังต้องทำงานได้ดี
    • ผ้าเบรกต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่สึกหรอเกินไป
    • น้ำมันเบรกต้องอยู่ในระดับที่เพียงพอ
  • ระบบกันสะเทือน (Suspension)
    • โช้คอัพหน้าและหลังต้องทำงานได้ปกติ ไม่มีน้ำมันรั่วซึม
    • ระบบกันสะเทือนต้องอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
  • ระบบโซ่-สเตอร์ก่อนแข่งขัน
    • โซ่ต้องไม่หย่อนหรือแน่นเกินไป
    • ปกติระยะหย่อนที่เหมาะสมอยู่ที่ 20-30 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
    • ตั้งโซ่ให้มีความตึงพอดีเมื่อมีนักแข่งนั่งอยู่บนรถ
    • “ที่ครอบโซ่” (Chain Guard) กำหนดให้รถแข่งต้องมีที่ครอบโซ่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกร้าวง่าย
  • ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel System)
    • ถังน้ำมันต้องไม่มีรอยรั่วซึม
    • สายส่งน้ำมันต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์
  • ล้อและยาง (Wheels & Tires)
    • ยางต้องมีดอกยางที่เหมาะสมตามประเภทของการแข่งขัน
    • ห้ามใช้ยางที่มีสภาพสึกหรอหรือเสียหาย
    • ล้อและซี่ล้อต้องอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง
    • เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านเทคนิคและความปลอดภัยของการแข่งขัน รวมถึงการรักษามาตรฐานเดียวกันสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน นักแข่งจะต้องใช้ยางยี่ห้อ Pirelli ในการฝึกซ้อมวันศุกร์ (Practice) การขับขี่ในวันเสาร์ (Track Day/Qualifying) และ การแข่งขันวันอาทิตย์ (Race) เท่านั้น *ยกเว้นในกรณีที่ Pirelli ไม่มียางไซส์นั้นๆ จำหน่าย
  • อุปกรณ์ป้องกันตัวนักแข่ง (Safety Equipment)
    • ชุดแข่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หนังแท้หรือวัสดุที่ทนต่อแรงเสียดทาน
    • หมวกกันน็อกต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
    • ถุงมือและรองเท้าต้องเป็นแบบที่ได้รับการรับรอง
  • อื่นๆ
    • ติดหมายเลขรถที่หน้ารถ ห้ามติดบริเวณอื่นๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และต้องใช้สติ๊กเกอร์และเบอร์จากผู้จัดการแข่งขันเท่านั้น
    • ตัวรถไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์แบรนด์ยางยี่ห้ออื่นลงไปขับขี่ได้ ยกเว้นแบรนด์ Pirelli เท่านั้น
    • ตัวรถต้องไม่มีการดัดแปลงแฟริ่งที่อาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชน หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้
    • ห้ามติดกล้องที่มีลักษณะเป็นไม้เซลฟี่ เกินออกมาเกินตัวรถเด็ดขาด
    • ต้องติดเทปดำ บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อป้องกันการแตกกระจายของกระจกไฟหน้าและไฟท้าย ลดการสะท้อนแสงที่อาจรบกวนผู้แข่งคนอื่น และลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสัญญาณไฟ
    • ต้องติดตั้งถาดรองน้ำมันเครื่องหรือแฟริ่งอกล่างที่ไม่มีรู เพื่อป้องกันของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หรือของเหลวอื่น ๆ รั่วไหลลงสู่พื้นแทร็ก
    • ในรุ่นการแข่งขัน Honda Cup, KTM 390 Series และ Eurobike Cup อนุโลมให้ไม่ต้องติดตั้งอกล่าง (Lower Fairing) สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน

ข้อบังคับการแต่งกาย และอุปกรณ์ที่แนะนำ

  1. หมวกกันน็อค (Helmet)
    • หมวกกันน็อคต้องเป็นหมวกเต็มใบ (Full-face helmet) ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน DOT, Snell, หรือ ECE
    • หมวกต้องมีการปิดคางแน่นหนาและมั่นคงเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ
    • ต้องมีหน้ากากป้องกัน (visor) ที่ช่วยในการมองเห็นชัดเจนและป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นหรือแมลง
  2. ชุดหนังป้องกันการกระแทก (Leather Suit)
    • ชุดต้องเป็นแบบชุดเต็มตัวที่ทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการขูดขีดและการกระแทก
    • บริเวณที่สำคัญ เช่น เข่า ศอก ไหล่ และสะโพก ต้องมีแผ่นกันกระแทกเสริมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • ชุดต้องกระชับพอดีตัว และต้องมีระบบป้องกันการถอดหลุดจากร่างกายระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ
  3. ถุงมือ (Gloves)
    • ถุงมือที่ใช้ต้องคลุมมิดทั้งมือและข้อมือ
    • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน และมีการเสริมแผ่นกันกระแทกที่บริเวณฝ่ามือและนิ้วมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • ถุงมือต้องยืดหยุ่นพอที่จะให้นักแข่งสามารถควบคุมคันเร่งและเบรกได้อย่างคล่องตัว
  4. รองเท้า (Boots)
    • รองเท้าต้องเป็นแบบบู๊ทสูงที่ป้องกันขาและข้อเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน มีการเสริมแผ่นป้องกันที่บริเวณข้อเท้าและส้นเท้าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • พื้นรองเท้าต้องไม่ลื่นและต้องมีการยึดเกาะที่ดีในขณะที่นักแข่งใช้เกียร์และเบรก
  5. อุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัย
    • แผ่นรองหลัง (Back Protector): จำเป็นต้องมีการใส่แผ่นรองหลังเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังหากเกิดอุบัติเหตุ แผ่นนี้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ FIM กำหนด
    • แผ่นรองหน้าอก (Chest Protector): เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่หน้าอกจากการล้ม
  6. การตรวจสอบอุปกรณ์
    • ก่อนการแข่งขัน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดของนักแข่งเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นไปตามข้อกำหนดและพร้อมใช้งานในการแข่งขัน
    • หากอุปกรณ์ใดไม่ผ่านการตรวจสอบ นักแข่งจะต้องทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขัน
  • ระบบเครื่องยนต์และตัวรถ (Engine and Chassis System)
    • ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรุ่นที่เข้าแข่งขัน
    • ไม่สามารถมีการดัดแปลงที่ผิดกฎเกณฑ์ที่กำหนด
    • เราแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ อาจเกิดการรั่วไหลลงบนสนามได้ และน้ำยาหล่อเย็นทำให้พื้นสนามลื่นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และยากต่อการทำความสะอาด
    • การร้อยลวดสเตนเลส (Safety Wiring) ในการแข่งขัน ชิ้นส่วนดังนี้
    • น๊อตยึดคาร์ลิเปอร์เบรคหน้าซ้าย-ขวา
    • น๊อตอ่างน้ำมันเครื่อง
    • น๊อตเติมน้ำมันเครื่อง
  • ระบบเบรก (Braking System)
    • เบรกหน้าและเบรกหลังต้องทำงานได้ดี
    • ผ้าเบรกต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่สึกหรอเกินไป
    • น้ำมันเบรกต้องอยู่ในระดับที่เพียงพอ
  • ระบบกันสะเทือน (Suspension)
    • โช้คอัพหน้าและหลังต้องทำงานได้ปกติ ไม่มีน้ำมันรั่วซึม
    • ระบบกันสะเทือนต้องอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
  • ระบบโซ่-สเตอร์ก่อนแข่งขัน
    • โซ่ต้องไม่หย่อนหรือแน่นเกินไป
    • ปกติระยะหย่อนที่เหมาะสมอยู่ที่ 20-30 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
    • ตั้งโซ่ให้มีความตึงพอดีเมื่อมีนักแข่งนั่งอยู่บนรถ
    • “ที่ครอบโซ่” (Chain Guard) กำหนดให้รถแข่งต้องมีที่ครอบโซ่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกร้าวง่าย
  • ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel System)
    • ถังน้ำมันต้องไม่มีรอยรั่วซึม
    • สายส่งน้ำมันต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์
  • ล้อและยาง (Wheels & Tires)
    • ยางต้องมีดอกยางที่เหมาะสมตามประเภทของการแข่งขัน
    • ห้ามใช้ยางที่มีสภาพสึกหรอหรือเสียหาย
    • ล้อและซี่ล้อต้องอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง
    • ต้องใช้ยาง Pirelli ในการลงซ้อมและแข่งขันเท่านั้น ไม่สามารถใช้ยางยี่ห้ออื่นๆ ได้ ยกเว้นในกรณีที่ Pirelli ไม่มียางไซส์นั้นๆ จำหน่าย
  • อุปกรณ์ป้องกันตัวนักแข่ง (Safety Equipment)
    • ชุดแข่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หนังแท้หรือวัสดุที่ทนต่อแรงเสียดทาน
    • หมวกกันน็อกต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
    • ถุงมือและรองเท้าต้องเป็นแบบที่ได้รับการรับรอง
  • อื่นๆ
    • ติดหมายเลขรถที่หน้ารถ ห้ามติดบริเวณอื่นๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และต้องใช้สติ๊กเกอร์และเบอร์จากผู้จัดการแข่งขันเท่านั้น
    • ตัวรถไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์แบรนด์ยางยี่ห้ออื่นลงไปขับขี่ได้ ยกเว้นแบรนด์ Pirelli เท่านั้น
    • ตัวรถต้องไม่มีการดัดแปลงแฟริ่งที่อาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชน หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้
    • ห้ามติดกล้องที่มีลักษณะเป็นไม้เซลฟี่ เกินออกมาเกินตัวรถเด็ดขาด
    • ต้องติดเทปดำ บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อป้องกันการแตกกระจายของกระจกไฟหน้าและไฟท้าย ลดการสะท้อนแสงที่อาจรบกวนผู้แข่งคนอื่น และลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสัญญาณไฟ
    • ต้องติดตั้งถาดรองน้ำมันเครื่องหรือแฟริ่งอกล่างที่ไม่มีรู เพื่อป้องกันของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หรือของเหลวอื่น ๆ รั่วไหลลงสู่พื้นแทร็ก
  • ข้อยกเว้นเฉพาะรุ่นแข่งขัน
    • ยกเว้นอกล่างสำหรับรุ่น Triumph ‘Triple Engine Trophy’ 660 – 1200 cc / Italjet Dragster 300cc / KTM 390 Series
  1. หมวกกันน็อค (Helmet)
    • หมวกกันน็อคต้องเป็นหมวกเต็มใบ (Full-face helmet) ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน DOT, Snell, หรือ ECE
    • หมวกต้องมีการปิดคางแน่นหนาและมั่นคงเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ
    • ต้องมีหน้ากากป้องกัน (visor) ที่ช่วยในการมองเห็นชัดเจนและป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นหรือแมลง
  2. ชุดหนังป้องกันการกระแทก (Leather Suit)
    • ชุดต้องเป็นแบบชุดเต็มตัวที่ทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการขูดขีดและการกระแทก
    • บริเวณที่สำคัญ เช่น เข่า ศอก ไหล่ และสะโพก ต้องมีแผ่นกันกระแทกเสริมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • ชุดต้องกระชับพอดีตัว และต้องมีระบบป้องกันการถอดหลุดจากร่างกายระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ
  3. ถุงมือ (Gloves)
    • ถุงมือที่ใช้ต้องคลุมมิดทั้งมือและข้อมือ
    • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน และมีการเสริมแผ่นกันกระแทกที่บริเวณฝ่ามือและนิ้วมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • ถุงมือต้องยืดหยุ่นพอที่จะให้นักแข่งสามารถควบคุมคันเร่งและเบรกได้อย่างคล่องตัว
  4. รองเท้า (Boots)
    • รองเท้าต้องเป็นแบบบู๊ทสูงที่ป้องกันขาและข้อเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน มีการเสริมแผ่นป้องกันที่บริเวณข้อเท้าและส้นเท้าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
    • พื้นรองเท้าต้องไม่ลื่นและต้องมีการยึดเกาะที่ดีในขณะที่นักแข่งใช้เกียร์และเบรก
  5. อุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัย
    • แผ่นรองหลัง (Back Protector): จำเป็นต้องมีการใส่แผ่นรองหลังเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังหากเกิดอุบัติเหตุ แผ่นนี้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ FIM กำหนด
    • แผ่นรองหน้าอก (Chest Protector): เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่หน้าอกจากการล้ม
  6. การตรวจสอบอุปกรณ์
    • ก่อนการแข่งขัน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดของนักแข่งเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นไปตามข้อกำหนดและพร้อมใช้งานในการแข่งขัน
    • หากอุปกรณ์ใดไม่ผ่านการตรวจสอบ นักแข่งจะต้องทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขัน
Go To Top