SuperbikeMag.com Trophy 2025 R.3

การเตรียมความพร้อม

📅 อัพเดทข้อมูลล่าสุดวันที่ 7 ตุลาคม 2568

ระบบเครื่องยนต์และตัวรถ (Engine and Chassis System)

  • ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรุ่นที่เข้าแข่งขัน
  • ไม่สามารถมีการดัดแปลงที่ผิดกฎเกณฑ์ที่กำหนด
  • เราแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ อาจเกิดการรั่วไหลลงบนสนามได้
  • และน้ำยาหล่อเย็นทำให้พื้นสนามลื่นเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และยากต่อการทำความสะอาด
  • การร้อยลวดสเตนเลส (Safety Wiring) ในการแข่งขัน ชิ้นส่วนดังนี้
    • น๊อตยึดคาร์ลิเปอร์เบรคหน้าซ้าย-ขวา
    • น๊อตอ่างน้ำมันเครื่อง
    • น๊อตเติมน้ำมันเครื่อง
    • น็อตออยคูลเลอร์

ระบบเบรก (Braking System)​ ✅

  • เบรกหน้าและเบรกหลังต้องทำงานได้ดี
  • ผ้าเบรกต้องมีความหนาที่เหมาะสม ไม่สึกหรอเกินไป
  • น้ำมันเบรกต้องอยู่ในระดับที่เพียงพอ

ระบบกันสะเทือน (Suspension)​ ✅

  • โช้คอัพหน้าและหลังต้องทำงานได้ปกติ ไม่มีน้ำมันรั่วซึม
  • ระบบกันสะเทือนต้องอยู่ในสภาพที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี

อุปกรณ์ป้องกันตัวนักแข่ง ✅

  • ชุดแข่งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หนังแท้หรือวัสดุที่ทนต่อแรงเสียดทาน
  • หมวกกันน็อกต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
  • ถุงมือและรองเท้าต้องเป็นแบบที่ได้รับการรับรอง

ระบบโซ่-สเตอร์ก่อนแข่งขัน​ ✅

  • โซ่ต้องไม่หย่อนหรือแน่นเกินไป
  • ปกติระยะหย่อนที่เหมาะสมอยู่ที่ 20-30 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ
  • ตั้งโซ่ให้มีความตึงพอดีเมื่อมีนักแข่งนั่งอยู่บนรถ
  • “ที่ครอบโซ่” (Chain Guard) กำหนดให้รถแข่งต้องมีที่ครอบโซ่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกร้าวง่าย

ระบบโซ่-สเตอร์ก่อนแข่งขัน​ ✅

  • ถังน้ำมันต้องไม่มีรอยรั่วซึม
  • สายส่งน้ำมันต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์

ล้อและยาง (Wheels & Tires)​ ✅

  • ยางต้องมีดอกยางที่เหมาะสมตามประเภทของการแข่งขัน
  • ห้ามใช้ยางที่มีสภาพสึกหรอหรือเสียหาย
  • ล้อและซี่ล้อต้องอยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง
  • เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านเทคนิคและความปลอดภัยของการแข่งขัน รวมถึงการรักษามาตรฐานเดียวกันสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน นักแข่งจะต้องใช้ยางยี่ห้อ Pirelli ในการฝึกซ้อมวันศุกร์ (Practice) การขับขี่ในวันเสาร์ (Track Day/Qualifying) และ การแข่งขันวันอาทิตย์ (Race) เท่านั้น *ยกเว้นในกรณีที่ Pirelli ไม่มียางไซส์นั้นๆ จำหน่าย

อื่นๆ​ 

  • ติดหมายเลขรถที่หน้ารถ ห้ามติดบริเวณอื่นๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และต้องใช้สติ๊กเกอร์และเบอร์จากผู้จัดการแข่งขันเท่านั้น
  • ตัวรถไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์แบรนด์ยางยี่ห้ออื่นลงไปขับขี่ได้ ยกเว้นแบรนด์ Pirelli เท่านั้น
  • ตัวรถต้องไม่มีการดัดแปลงแฟริ่งที่อาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวชน หรือเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้
  • ห้ามติดกล้องที่มีลักษณะเป็นไม้เซลฟี่ เกินออกมาเกินตัวรถเด็ดขาด
  • ต้องติดเทปดำ บริเวณไฟหน้าและไฟท้าย เพื่อป้องกันการแตกกระจายของกระจกไฟหน้าและไฟท้าย ลดการสะท้อนแสงที่อาจรบกวนผู้แข่งคนอื่น และลดโอกาสเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสัญญาณไฟ
  • ต้องติดตั้งถาดรองน้ำมันเครื่องหรือแฟริ่งอกล่างที่ไม่มีรู เพื่อป้องกันของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หรือของเหลวอื่น ๆ รั่วไหลลงสู่พื้นแทร็ก
  • ในรุ่นการแข่งขัน Honda Cup, KTM 390 Series และ Eurobike Cup อนุโลมให้ไม่ต้องติดตั้งอกล่าง (Lower Fairing) สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน

บทลงโทษหากไม่ผ่านการตรวจสอบ

หากรถไม่ผ่านการตรวจสอบ มีบทลงโทษที่แตกต่างกันไปตามระดับของปัญหา เช่น:

 ⚠ ปรับแก้ไขก่อนแข่ง – หากเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย นักแข่งอาจได้รับโอกาสให้แก้ไขและนำมาตรวจใหม่
ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน (Disqualification) – หากพบการกระทำผิดที่ร้ายแรง เช่น การดัดแปลงเครื่องยนต์ที่ผิดกฎ
🚫 ถูกปรับหรือลงโทษเพิ่มเติม – อาจมีการหักคะแนน ปรับเงิน หรือถูกแบนจากการแข่งขันในอนาคต

📌 วิธีการร้อยลวดสเตนเลสที่ถูกต้อง

1️⃣ ใช้ลวดสเตนเลสขนาดที่เหมาะสม

  • โดยทั่วไปใช้ขนาด 0.8 – 1.2 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของน็อต

2️⃣ เจาะรูที่หัวน็อตหรือตัวล็อก (ถ้ายังไม่มีรู)

  • น็อตบางตัวอาจต้องเจาะรูเพิ่มเพื่อให้ร้อยลวดได้

3️⃣ ร้อยลวดในทิศทางที่ล็อกน็อตไว้ ไม่ใช่ดึงให้คลายออก

  • ควรดึงลวดให้ตึงและพันในทิศทางที่ทำให้น็อตอยู่กับที่

4️⃣ พันลวด 2-3 รอบแล้วบิดเกลียวเพื่อความแข็งแรง

  • ใช้คีมบิดลวด (Safety Wire Pliers) เพื่อให้แน่นและเรียบร้อย

5️⃣ ตรวจสอบความแข็งแรงของลวดที่ร้อยก่อนลงแข่ง

  • ลวดต้องไม่หย่อน หรือมีโอกาสหลุดออกจากน็อต

ข้อบังคับการแต่งกาย

1. หมวกกันน็อค (Helmet)

  • หมวกกันน็อคต้องเป็นหมวกเต็มใบ (Full-face helmet) ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน DOT, Snell, หรือ ECE
  • หมวกต้องมีการปิดคางแน่นหนาและมั่นคงเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ
  • ต้องมีหน้ากากป้องกัน (visor) ที่ช่วยในการมองเห็นชัดเจนและป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นหรือแมลง

2. ชุดหนังป้องกันการกระแทก (Leather Suit)

  • ชุดต้องเป็นแบบชุดเต็มตัวที่ทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการขูดขีดและการกระแทก
  • บริเวณที่สำคัญ เช่น เข่า ศอก ไหล่ และสะโพก ต้องมีแผ่นกันกระแทกเสริมเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • ชุดต้องกระชับพอดีตัว และต้องมีระบบป้องกันการถอดหลุดจากร่างกายระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ

3. ถุงมือ (Gloves)

  • ถุงมือที่ใช้ต้องคลุมมิดทั้งมือและข้อมือ
  • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน และมีการเสริมแผ่นกันกระแทกที่บริเวณฝ่ามือและนิ้วมือเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • ถุงมือต้องยืดหยุ่นพอที่จะให้นักแข่งสามารถควบคุมคันเร่งและเบรกได้อย่างคล่องตัว

4. รองเท้า (Boots)

  • รองเท้าต้องเป็นแบบบู๊ทสูงที่ป้องกันขาและข้อเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ต้องทำจากวัสดุที่ทนทาน มีการเสริมแผ่นป้องกันที่บริเวณข้อเท้าและส้นเท้าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
  • พื้นรองเท้าต้องไม่ลื่นและต้องมีการยึดเกาะที่ดีในขณะที่นักแข่งใช้เกียร์และเบรก

5. อุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัย

  • แผ่นรองหลัง (Back Protector): จำเป็นต้องมีการใส่แผ่นรองหลังเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังหากเกิดอุบัติเหตุ แผ่นนี้จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ FIM กำหนด
  • แผ่นรองหน้าอก (Chest Protector): เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่หน้าอกจากการล้ม

6. การตรวจสอบอุปกรณ์

  • ก่อนการแข่งขัน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดของนักแข่งเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นไปตามข้อกำหนดและพร้อมใช้งานในการแข่งขัน
  • หากอุปกรณ์ใดไม่ผ่านการตรวจสอบ นักแข่งจะต้องทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขัน

สัญญาณธง

🟢ธงเขียว (Green Flag) ความหมาย ปลอดภัย สามารถแข่งต่อหรือเริ่มแข่งได้

  • หลังเขตอันตราย หรือช่วงเริ่มต้นการแข่งขัน

🟡ธงเหลือง (Yellow Flag) ความหมาย มีอันตรายข้างหน้า ลดความเร็วลงและห้ามแซง

  • มีรถล้มและรถเสียกลางสนาม มีรถเสียหยุดอยู่บนแทรคอยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าสนามเคลื่อนย้าย 
  • กรณีเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่จุด 3 (จุดที่ 3,2 และ 1 ต้องโบกธงเหลือง)
  • มีเศษชิ้นส่วนอยู่บนสนาม เช่น ชิ้นส่วนรถหลุดกระจายจากอุบัติเหตุ มีน้ำมันรั่วลงในพื้นแทรค
  • มีเจ้าหน้าที่สนามอยู่ในสนาม เช่น กำลังให้ความช่วยเหลือหรือเก็บกู้รถในแทรค

หมายเหตุ: ห้ามแซงขณะสัญญาณธงเหลือง

🔴ธงแดง (Red Flag) ความหมาย หยุดการแข่งขันทันที

  • มีอุบัติเหตุหมู่ เช่น  รถล้มหลายคันในเวลาเดียวกัน หรือมีการบาดเจ็บสาหัสต้องใช้รถพยาบาลลงสนาม
  • สนามเปียกหรือมีน้ำท่วมกะทันหัน เช่น ฝนตกหนักจนไม่สามารถแข่งขันได้อย่างปลอดภัย
  • เศษซากรถ หรือคราบน้ำมันบนแทรค ที่ต้องใช้เวลานานในการเคลียร์
  • หมดเวลาต่อรอบขับขี่ในสนาม 

หมายเหตุ: ต้องหยุดการแข่งทันที และกลับเข้าสู่ Pit lane หรือเส้นสตาร์ต ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่สนาม ห้ามเร่งเครื่องหรือแซงระหว่างทางกลับเข้าพื้นที่ปลอดภัย รอคำสั่งต่อไปว่าจะ เริ่มใหม่ (Restart), นับผลการแข่งขันจากรอบที่ผ่านมา, หรือ ยุติการแข่งขัน

🔵ธงฟ้า (Blue Flag) ความหมาย ผู้ขับขี่ที่ถูกแซงรอบ (lapped) ต้องเปิดทางหลบ ให้ผู้นำผ่าน

🏁ธงลายหมากรุก (Checkred Flag)  ความหมาย จบการแข่งขัน ผู้ขับขี่ต้องผ่านเส้นชัย ลดความเร็วกลับเข้าพิท

Area Zone Survey

  1. นักแข่งทุกคนต้องศึกษากฎของสัญญาณธง และปฏิบัติตามสัญญาณธงอย่างเคร่งครัด (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับเป็นเงินหรือ ปรับผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้)
  2. หากรถแข่งคันใด มีของเหลวรั่วไหล หรือมีชิ้นส่วนของตัวรถหลุด อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนักแข่งคันอื่น กรรมการธงแต่ละจุดจะใช้สัญญาณ ธงแดงใส่รถคันดังกล่าว  ให้ออกนอกเส้นทางแข่งและจอดในพื้นที่ปลอดภัยทันที (หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ ผลการแข่งขันตามกติกาที่กำหนดไว้ และอาจถูกปรับเป็นเงินตามความเหมาะสม)
  3. ทุกครั้งที่หมดเวลา การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน จะใช้เป็นธงหมากรุกแจ้งให้นักแข่งทุกคนรับทราบที่ Finish 
  4. ช่วง การซ้อม การควอลิฟาย การแข่งขัน หากกรรมการใช้สัญญาณ ธงแดง ให้นักแข่งชะลอความเร็วรถ ห้ามแซง และนำรถแข่งกลับสู่ Pit Lane (หากรถแข่งคันใดไม่เข้าพิท มีโทษปรับรอบละ 2,000 บาท)
  5. เมื่อกรรมการใช้สัญญาณธงเหลือง นักแข่งทุกคนจะต้องลดความเร็วและห้ามแซงโดยเด็ดขาดจนกว่าจะผ่านสัญญาณธงเขียว