Yamaha R1 VS Nissan GTR มันแรงกว่ารถผมจริงๆ เหรอครับ?

 

Yamaha R1 VS Nissan GTR
มันแรงกว่ารถผมจริงๆ เหรอครับ?

เราทุกคนต่างก็รู้กันอยู่ว่ามอเตอร์ไบค์เดิมๆ ไม่แต่งอะไรเนี่ยเร็วกว่ารถยนต์เวลาอยู่ในแทร็กเสมอ
ไม่ว่าจะรถคันไหนก็ตาม แต่หากว่าเราโมรถสักนิดหน่อยล่ะจะเป็นยังไงกัน?

Collective pic 2

Marius Knoesen นักแข่งชื่อดังในโลกมอเตอร์สปอร์ตของแอฟริกาใต้ ซึ่งเคยแข่งกับ R1 ของผมเมื่อปีที่แล้วที่ Midvaal เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และสาบานว่าจะต้องล้างอายให้ได้ เขานำรถยนต์แบบเดิมๆ ของเขามาแข่งกับผมอีกครั้งโดยครั้งนี้เขานำมันไปแต่งเพิ่มเติมนิดหน่อยและเขาก็หวังว่าเขาจะเร็วกว่าเดิม 5 วินาที หากว่าสนามนั้นปกติใช้เวลา 1 นาที นั่นหมายความสนาม Red Star ที่ใช้เวลาขี่ครบแล็ปราวๆ 2 นาที รถคันนี้ก็น่าจะเร็วขึ้นราวๆ 10 วินาทีเมื่อเทียบกับรถเดิมๆ ซึ่งผมจะบอกให้ว่าถือว่าเร็วกว่าเดิมมากๆ เลยล่ะครับ

EngineGTR

In car

อย่างแรกเลยที่เขาทำคือโยนยางติดรถทิ้งไป และเลือกใช้ล้อที่ใหญ่ถึง 20 นิ้วพร้อมกับยางกึ่งสลิกขนาด 315 และ 285 ของทาง TOYO แค่เพียงเรื่องนี้อย่างเดียวก็ช่วยลดเวลาลงได้หลายวินาทีแล้ว จากนั้นยัดระบบกันสะเทือน White Line จากออสเครเลียเข้าไปซึ่งลงตัวกับรถแข่งเครื่อง V8 คันนี้เป็นอย่างดี เครื่องยนต์เองก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งไว้เดิมๆ แต่มีการปรับแต่งระบบการจ่ายน้ำมัน หัวฉีดและไอดีโดยใช้อะไหล่ของ COBB ที่ผลิตจากอเมริกา บนไดโน่นั้นรถคันนี้ขับแรงม้ามาที่ล้อได้มากถึง 536 ม้าเลยทีเดียว!

ดังนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติฝ่ายตรงข้ามเราเลยเดินทางไป Yamaha South Africa เพื่อขอเจ้า R1 ตัวใหม่มาแต่ไม่ถึงกับต้องเป็น R1M โดยเราเปลี่ยนยางเดิมออกมาใช้ Racetec จาก Metzeler ที่มีคอมปาวด์แบบกึ่งสลิกแทน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนตัวขับจากผมเป็นคนหนุ่มกว่าและขี่ได้เร็วกว่า แต่ก็ยังเป็นทีมงานเราซึ่งก็คือ Gareth Davidson ผู้ที่เป็นผู้นำในรายการแข่ง Twins Championship อยู่ในตอนนี้

งานนี้เรามีผู้ชมมาเป็นสักขีพยานที่ Red Star จำนวนมากและเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้เลือกสนาม Red Star คำตอบคือสนามนี้น่าจะเหมาะกับรถยนต์มากกว่า เพราะว่าต้องใช้เบรคมาก และยังมีโค้ง 180 องศาอีกด้วย ทุกคนต่างเชื่อว่า 2 ล้อจะมีชัย แต่ผมไม่มีวันสละสิทธิ์! ทั้งสองฝ่ายต่างวอร์มยางกันคนละหลายแล็ป และตกลงกันในเรื่องของความปลอดภัยว่าใครก็ตามที่นำห่างออกไป 100 เมตรและกำลังเข้าโค้งอยู่จะต้องปล่อยให้คนที่นำประคองไลน์เอาไว้ กล่าวคือจะไม่มีการเสียบกันแย่งตำแหน่ง

MariusSuperBike SA R1 & GTR (62)

แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทันทีที่ธงสะบัดลงเจ้า GTR ที่เปิดโหมดช่วยออกตัวก็พุ่งฉิวออกไปทันที การออกตัวที่เกรี้ยวกราดนั้นทำเอาผมตกตะลึงพอสมควร และมันก็ดูเหมือนกับลูกอมที่ด้านในเป็นหมากฝรั่งที่หมุนฟรีก่อนที่จะหาแรงยึดเกาะได้ เมื่อนำมอเตอร์ไบค์มาเทียบกับรถยนต์แล้วผมรู้สึกว่ามอเตอร์ไบค์ออกตัวได้ดูดีกว่ามาก พวกเขาออกได้โค้งแรกและโค้ง 2 ก่อน โดยเจ้า GTR ได้ไลน์ก่อนและมอเตอร์ไบค์อย่าง R1 ต้องตามหลังเพราะว่าไม่มีวิธีใดที่ Gareth ของเราจะสามารถแซงผ่านไปได้อย่างปลอดภัยSuperBike SA R1 & GTR (77)

จนกระทั้งเขาสบโอกาสตอนออกจากโค้ง 2 ขณะที่เขากำลังพุ่งออกจากโค้ง 2  เขาตั้งเจ้า R1 ให้ตรงและสับเข้าเกียร์ 2 ไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่จะเร่งความเร็วได้เหมือนกับที่ซูเปอร์ไบค์ทำได้อีกแล้ว ฝูงชนต่างโห่ร้องก้องส่งเสียงเชียร์ในขณะที่มอเตอร์ไบค์ก็พุ่งตัวออกไปราวกับลูกธนูแซงรถยนต์จนหายลับไป แม้แต่โค้งแคบๆ Gareth เองก็ยังขึ้นนำอยู่เล็กน้อยก่อนจะพลิกรถจากซ้ายไปขวารักษาการนำต่อไปเอาไว้ได้ จนในที่สุดตอนที่เราเข้าเส้นก็นำห่างออกมาถึง 8 วินาทีด้วยกัน นี่มันไม่ใช่การแข่งขันเลย นี่มันคือการข่มกันชัดๆ

SuperBike SA R1 & GTR (79)

ตอนนี้เราก็เลยท้าเด็กฝั่งรถซิ่งให้นำรถที่ขับถนนได้อย่างถูกกฎหมายคันไหนก็ได้มาแข่งกับเรา โดยเราเองก็ใช้มอเตอร์ไบค์ที่ขี่ถนนได้อย่างถูกกฎหมายจากโชว์รูมขายมาแข่งเช่นกัน สงสัยคราวหน้าคงต้องเอารถ 600 ซีซีมาซะแล้วกระมัง จริงๆ แล้วประโยคหลังนี่ผมโม้เอาเองนะครับ

Stigg pose

อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้ 
ติดตาม facebook Superbike คลิกทีนี้ 

 

- Advertisement -

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่