SuperBikeMag.Com ข่าวรถยนต์ รีวิวรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า ข่าวรถจักรยานยนต์

ข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ รถไฟฟ้า EV รถยนต์เปิดตัวใหม่

ข่าวรถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!

รีวิวรถยนต์

Coming soon…

รถยนต์ไฟฟ้า

No Posts Found!

  • All Posts
  • รถไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
Sondors-Metabeast

Sondors Metabeast เอ็นดูโร่ไฟฟ้าจากเมืองลุงแซมเผยภาพเรนเดอร์แล้ว Sondors Metabeast เปิดให้พรีออเดอร์แล้วแม้จะยังมีแค่เพียงภาพเรนเดอร์ก็ตาม สำหรับใครที่ยังรู้จักค่ายนี้นั้น ก็บอกให้สั้น ๆ ว่านี่คือค่ายรถจักรยานไฟฟ้าสัญชาติอเมริกาที่หันมาเปิดไลน์ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอีกด้วย โดยโมเดลแรกก็จะเป็นในสไตล์ของออฟโร้ดหรือดูอัลสปอร์ต หรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่าสไตล์เอ็นดูโร่นั่นเอง โดยเจ้าเมต้าบีสต์คันนี้ให้กำลัง 6 กิโลวัตต์หรือเทียบเท่ากับแรงม้าประมาณ 8 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ 40 นิวตันเมตร โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ราว ๆ 80 กม./ชม. ระยะการทำการได้ที่ราว ๆ 70 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและวิ่งที่ความเร็วเฉลี่ย 40 กม./ชม. โดยอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 30 แอมป์ชั่วโมง 72 โวลต์ โดยมีน้ำหนักตัวรถที่เบาเพียง 55.8 กก.เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรุ่นอัปเกรดโดยการเพิ่มรหัส X ต่อท้ายซึ่งจะให้กำลังมากกว่า โดยมีกำลังขนาด 18 กิโลวัตต์หรือราว ๆ 24 แรงม้ากับแรงบิดสูงถึง 60 นิวตันเมตร โดยเคลมความเร็วสูงสุดมาที่ 120 กม./ชม. และสามารถใช้งานได้ที่ 125 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและวิ่งที่ความเร็วเฉลี่ย 50 กม. โดยอาศัยพลังงานจากแบตฯ ขนาด 55 แอมป์ชั่วโมง 96 โวลต์ ซึ่งใหญ่กว่าและนั่นทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 90.7 กก. โดยรูปลักษณ์ภายนอกแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ทั้งนี้ทางค่ายประเมินว่าทั้งสองโมเดลจะพร้อมส่งมอบได้ช่วงเดือนตุลาคม 2023 นี้ แต่ก็อาจจะไม่ตรงตามนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตามทั้งสองโมเดลนี้จะจำหน่ายในอเมริกาและประเทศใกล้เคียง ส่วนประเทศอื่น ๆ คงต้องรอไปก่อนนะครับ    สุดท้ายนี้การขายแบบพรีออเดอร์ไว้ก่อนนี้ทางค่ายเคยทำสำเร็จมาแล้ว และตอนนี้ก็กำลังเปิดให้พรีออเดอร์ทั้งสองโมเดลนี้ในเว็บไซต์ โดยราคาอยู่ที่ 4,500 เหรียญหรือราว ๆ 155,000 บาท และรุ่น X จะอยู่ที่ 8,000 เหรียญหรือราว ๆ 275,000 บาท ทั้งนี้ราคายังไม่รวมภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ส่วนผู้ที่สนใจในบ้านเราอาจจะต้องนำเข้ามาเองซึ่งราคาก็คงจะเอาเรื่องเลยล่ะครับ  อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

รถไฟฟ้า BMW

รถไฟฟ้า BMW ในร่างของ G310R มีสิทธิบัตรออกมาแล้ว สำหรับค่ายใบพัดสีฟ้านั้นถือว่าเป็นค่ายรถที่ยืนอยู่แถวหน้าของวงการสองล้อไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นเจ้าที่บุกเบิกเรื่องนี้มาก่อนใครนานหลายปี จะเห็นได้จากเจ้า C-Evolution รถไฟฟ้า BMW คันแรก ซึ่งก็เปิดตัวมานานนับสิบปีแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้เห็นว่าทางค่ายจะทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจริง ๆ นอกเหนือไปจากสกู๊ตเตอร์สักทีนึง แต่ในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจจะได้เห็นคันจริงแล้วก็ได้ครับ ตอนนี้มีภาพพิมพ์เขียวสำหรับใช้จดสิทธิบัตรที่เผยให้เห็นภาพลักษณะของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วของทางค่ายผสมเข้ากับระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าที่นำมาจากสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโมเดลล่าสุดของทางค่ายซึ่งก็คือเจ้า CE-04 นั่นเอง โดยนำมอเตอร์ไฟฟ้าย้ายมาใส่ในแพ็กเกจใหม่อย่าง G310R โดยมีการวางเพลาขับของมอเตอร์ในแนวยาวตามตัวรถแทนที่จะวางแนวขวางตามปกติ ซึ่งทำให้สามารถวางมอเตอร์ขนาดใหญ่ได้โดยที่ตัวรถยังคงมีมิติที่แคบพอที่จะทำให้คนขับนั่งคร่อมขี่รถได้  แบตเตอรี่เองก็สามารถวางในตำแหน่งที่อิสระมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นเครื่องยนต์ อย่างไรก็ดีในภาพไม่มีการระบุส่วนของเฟรม แต่เนื่องจากโมเดล G310R นั้นวางเครื่องแตกต่างจากค่ายอื่น ๆ ดังนั้นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันใหม่นี้น่าจะใช้เฟรมและช่วงล่างเดิมของ G310R ไม่ได้ ชิ้นส่วนสำคัญอย่าง ตัวแพ็คแบตเตอรี่ มอเตอร์  และชุดไฟที่เชื่อมต่อทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งยังดูเหมือนว่าจะยกมาจาก CE-04 มาเลย แต่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งให้ลงตัวกับรถใหม่ ซึ่งเดิมแบตจะติดตั้งในแนวขนานไปกับพื้น ขณะที่มอเตอร์ก็จะวางแนวขวางกับตัวรถอยู่ด้านหลัง และชุดควบคุมจะซ้อนกันอยู่ภายใต้เบาะนั่งคนขับซึ่งมันเหมาะกับสกู๊ตเตอร์ แต่ไม่เหมาะกับมอเตอร์ไซค์ปกติ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับตำแหน่งและองศาของการติดตั้งชิ้นส่วนเหล่านี้ เนื่องจากฐานล้อของรถนั้นสั้นกว่ามากและตัวจุดศูนย์ถ่วงของรถที่สูงกว่า อย่างที่เห็นในภาพพิมพ์เขียวตัวแบตเตอรี่และมอเตอร์นั้นนำมาจาก CE-04 ดังนั้นสมรรถนะก็น่าจะไม่ต่างกันกับตัว CE-04 ซึ่งก็คือ 42 แรงม้าและแรงบิด 62.36 นิวตันเมตร ซึ่งในเวอร์ชันสกู๊ตเตอร์จะถูกระบบล็อกความเร็วไว้ที่ 120 กม./ชม.เท่านั้น แต่สำหรับมอเตอร์ไซค์น่าจะไม่ถูกจำกัด ส่วนระยะการใช้งานน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 1280 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จุดแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือตำแหน่งของการวางมอเตอร์จากแนวขวางมาเป็นวางตามแนวยาว และขับเคลื่อนผ่านชุดเกียร์ใหม่เพื่อถ่ายทอดกำลังไปสู่เฟืองหน้า และเลือกใช้ระบบขับสายพานส่งกำลังไปยังล้อหลัง เพื่อลดการดูแลรักษาและเสียงเมื่อเทียบกับแบบขับโซ่  ตัวเลย์เอาท์ใหม่นี้ยังคงไว้ซึ่งพื้นที่เก็บของที่กว้างขวางอีกด้วย เนื่องจากบริเวณที่เป็นถังน้ำมันเดิมนั้นสามารถใช้เป็นที่เก็บของได้ และใหญ่พอที่จะใส่หมวกกันน็อกได้ ถ้าภาพวาดดังกล่าวใช้สัดส่วนตรงตามจริง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ชิ้นส่วนเดียวกันนี้ทำออกมาได้หลากหลายโมเดลแบบเดียวกับรถในตระกูล G อีกด้วย ซึ่งในภาพร่างจะเห็นได้ว่าล้อหน้ามีขนาดใหญ่แบบ GS ที่เป็นแอดเวนเจอร์ ขณะที่ไฟหน้านำมาจากรหัส R ที่เป็นเน็กเก็ดไบค์ นอกจากนี้รหัส RR ก็ยังเป็นไปได้ เพราะแฟริ่งที่มาช่วยเรื่องแอโรไดนามิกก็น่าจะช่วยให้รีดระยะทางการใช้งานได้มากขึ้นอีกด้วย งานนี้สาวกก็คงได้แต่เฝ้ารอล่ะครับว่าโมเดลไฟฟ้าคันใหม่จากค่ายใบพัดสีฟ้าค่ายนี้จะทำออกมาได้ดี ได้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหนก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ  อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

VMX08

VMX08 เอ็นดูโรไฟฟ้าสุดเบาที่หนักไม่ถึง 50 โล ลองคิดดูว่าถ้ามีมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโรน้ำหนักเบาไม่ถึง 50 กิโลกรัม ให้เราขี่มันจะดีขขนาดไหน ผมเชื่อว่าคำถามนี้แฟน ๆ สายเอ็นดูโรน่าจะพอรู้คำตอบดีอยู่ และนี่คือเจ้า Velimotor VMX08 เอ็นดูโรไฟฟ้าสุดเบาที่หนักเพียง 47.5 กิโลกรัม ด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนมากมายตลอดทั้งคัน และทีเด็ดคือยังสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 100 กม./ชม.อีกด้วย สำหรับแบรนด์นี้นั้นเป็นแบรนด์จากประเทศจีน ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กน้ำหนักเบาที่มีอยู่ในท้องตลาดอยู่แล้วอย่างเช่นเจ้า Light Bee จาก Sur-Ron ซึ่งก็มาจากประเทศจีนด้วยเช่นกัน จุดเด่นของคันนี้คือโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา โดยแชสซีส่วนใหญ่ของรถนั้นทำมาจากคาร์บอน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเฟรม สวิงอาร์ม แฟริ่งต่าง ๆ กระทั่งแฮนด์บาร์เองก็ กก.เท่านั้น หากเทียบกับจักรยานหรือจักรยานไฟฟ้าอาจจะดูหนักกว่ากันมาก แต่ถ้าหากเทียบกับมอเตอร์ไซค์ล่ะก็มันเบากว่ามากเลยล่ะครับ ในความเป็นจริงแล้ว เราควรจะเรียกเจ้า VMX08 ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก เนื่องด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของมันมีกำลังสูงสุดที่ 6 กิโลวัตต์คิดเป็นแรงม้าก็จะราว ๆ 8 แรงม้าเท่านั้นเอง แต่ก็สามารถทำความเร็วได้ถึง 100 กม./ชม.เลยทีเดียว ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศพร้อมกับระบบแม่เหล็กถาวรที่ใช้แรงดันไฟขนาด 72 โวลต์ ติดตั้งอยู่ใต้สวิงอาร์มคาร์บอน เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำและใกล้กับจุดหมุนของสวิงอาร์ม โดยเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนเป็นโซ่   ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่นั้นจะเป็นแบตเตอรีลิเทียมไอออนขนาดความจุ 45 แอมป์แปร์-ชั่วโมง ใช้งานได้ระยะทางราว ๆ 110 กม. เมื่อขับขี่ไม่เกิน 45 กม./ชม. อย่างไรก็ตามทางค่ายยังไม่ได้มีการระบุเรื่องของระยะเวลาการชาร์จ ต่อกันที่เรื่องของช่วงล่างกันบ้าง ส่วนของโช้คด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับขณะที่ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวพร้อมซับแทง ค์ทำงานร่วมกับกับกระเดื่อง ระบบเบรกนั้นเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ล้ออลูมิเนียมแบบซี่ลวดขนาด 19 นิ้วรัดด้วยยางพร้อมลุย เกือบจะคล้ายกับจักรยานเสือภูเขาอยู่แล้ว และสุดท้ายส่วนอื่น ๆ ที่ยังไม่พูดถึงก็จะมีเรื่องที่ตัวรถใช้หน้าจอ LCD ขนาดกะทัดรัด มีระบบไฟส่องสว่างแบบ LED เต็มระบบ โดยไฟท้ายและที่ยึดป้ายทะเบียนนั้นยึดอยู่ที่สวิงอาร์ม และสุดท้ายสนนราคาอยู่ที่ราว ๆ 105,000 บาท (คำนวณจากเงินดอลลาร์) ราคานี้ยังไม่รวมภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นรถไฟฟ้าพร้อมลุยที่มีจุดเด่นเรื่องน้ำหนัก เวลาล้มก็ยกขึ้นมาขี่ต่อได้อย่างไม่ยากเย็น แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยครับ อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก 

ราคาและสเปครถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!