SuperBikeMag.Com ข่าวมอเตอร์ไซค์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์

ยินดีที่ได้เห็นรุ่นนี้กลับมาอีกครั้ง สำหรับการ รีวิว CBR600RR โมเดลซูเปอร์สปอร์ตค่ายปีกนก การกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็น All New เลยก็ว่าได้เพราะจัดเต็มมาทุกส่วนทั้งแฟริ่ง เครื่องยนต์ เทคโนโลยีแบบจัดเต็มมาให้แบบไม่น้อยหน้าค่ายอื่นเลย

รีวิว CBR600RR 2021

ในครั้งนี้ได้มีโอกาสทดสอบกันในแทร็กระดับโลก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ ในการทดสอบครั้งนี้จะเป็นรอบสื่อมวลชน ถือว่าเป็นสื่อมวลชนกรุ๊ปแรกที่ได้ทดสอบกันในแทร็กอย่างเป็นทางการ เป็นเรื่องดีเลยทีเดียวเพราะในการทดสอบจะได้ทดสอบกันแบบเต็มไม้เต็มมือ บิด เบรกกันได้เต็มที่ แถมความปลอดภัยเต็มร้อยอีกด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณ เอพี ฮอนด้า ที่ได้ปิดสนามให้ทดสอบกันเต็มที่ในครั้งนี้ด้วยครับ

รีวิว CBR600RR 2021

เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหลายๆ คนคงอยากจะรู้แล้ว่าเจ้าหกร้อยคันนี้มีอะไรดีบ้าง ฟีลลิ่งเป็นยังไง?

ดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีจากรถแข่ง MotoGP

รีวิว CBR600RR 2021

 

รีวิว CBR600RR 2021แฟริ่งภายนอกสีไตรคัลเลอร์ดูสวยสดงดงามเด่นตา ถูกดีไซน์ให้เป็นรถที่ลู่ลมที่สุดในคลาสด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ แฟริ่งด้านหน้ามีการออกแบบเสริมปีกด้านข้างแฟริ่งเป็นแบบวิงก์เล็ตที่จะช่วยสร้างแรงกดที่ล้อหน้าช่วยให้การควบคุมตัวรถในย่านความเร็วสูงๆ ทำได้ดี ทั้งยังช่วยให้เลี้ยวเข้าโค้งได้เนียนมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มความหล่อด้วยระบบส่องสว่างแบบ Full LED หล่อเด่นสุดในรุ่น

การดีไซน์ที่เฉียบคม เส้นสายรอบตัวรถออกแบบให้มีทางเดินอากาศลดแรงเสียดทาน ทำให้มีส่วนช่วยให้รถนิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงออกแบบแฟริ่งหน้ากากด้านหน้าให้มีช่องดักลมเข้าคอไอดีเหมือนกันตัว CBR1000RR-R ยังออกแบบทางเดินอากาศเข้าไประบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ อกแฟริ่งด้านล่างที่มีการออกแบบเหมือนรถแข่งเพื่อที่จะลดแรงต้านที่ล้อหลังช่วยได้เยอะขึ้น

ออกแบบถังน้ำมันใหม่สไตล์รถแข่ง ถูกออกแบบให้มีการบาลานซ์น้ำหนักให้ใกล้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถมากที่สุดทำให้การควบคุมรถ เวลาเลี้ยวหรือการเปิดคันเร่งเข้าโค้งทำได้ดีขึ้น และยังมีการปรับมุมเรือนไมล์ TFT ใหม่เพื่อเวลาหมอบไม่ต้องละสายตามากจนเสียสมาธิควบคุม

เรือนไมล์จอสีแบบ TFT ที่สามารถแสดงสถานะต่างๆ ของรถคันนี้ได้ทั้งหมด อาทิเช่น ความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ไฟเลี้ยว ไฟสูง สถานะ HSTC สถานะการเตือนเปลี่ยนเกียร์ Shift Light และยังสามารถปรับการตั้งค่าการขับขี่ Riding Mode ได้อีกด้วย ฟังก์ชั่นเยอะมีให้ใช้แบบเหลือๆ ไปจนถึงฟังก์ชั่น Lap Timer ที่สามารถจับเวลาต่อรอบได้อีกด้วย

เฟรมใหม่ เป็นโครงสร้างแบบอลูมิเนียมทวินทูบเฟรมที่ประกอบไปด้วยพาร์ทอลูมิเนียมดายแคสต์ 4 ชิ้นโดยมีชิ้นส่วนที่แข็งแรงอย่างโดยเฉพาะส่วนของคอรถที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เฟรม หลักการของเฟรมตัวนี้จะรวมมวลทั้งหมดเข้ามาอยู่จุดศูนย์กลางที่ได้ออกแบบเครื่องยนต์ ถังน้ำมัน ให้อยู่ใกล้กันมากที่สุดทำให้เวลาขับขี่จะรู้สึกควบคุมได้ง่าย

รวมไปถึงตัวสวิงอาร์มที่ออกแบบใหม่เพิ่มบาลานซ์ปรับโครงสร้างภายในตัวสวิงอาร์มใหม่ลดน้ำหนักทำให้เบากว่าตัวเดิม ซึ่งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยหลักเลยก็ว่าได้ที่จะทำให้รถคันนี้ได้ฟิวลิ่งที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ช่วงล่างมาเต็มมาแน่น

โช้คอัพด้านหน้าให้มาเป็นแบบหัวกลับ Upside-Down จาก Showa ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 ม.ม. ตัวกระบอกสไลด์เป็นสีดำ (แต่ในใจผมเองอยากให้เป็นสีทอง) ภายในเป็นลูกสูบขนาดใหญ่ สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งพรีโหลด คอมเพรสชันและรีบาวด์แดมปิ้ง ทั้งยังปรับได้ง่ายตามความต้องการ

โช้คอัพด้านหลังเป็นแบบซับแทงก์ ทำงานร่วมกับ Unit pro link ถูกติดตั้งระหว่างเฟรมกับสวิงอาร์ม สามารถปรับตั้งค่าได้เช่นเดียวกันกับโช้คหน้า โดยเลือกปรับตามความต้องการที่จะใช้งานได้เลย

กันสะบัดไฟฟ้า HESD ถูกติดมาให้จากโรงงานถูกติดตั้งให้ใกล้กับแผงคอด้านบน เพราะในการทำงานของตัวกันสะบัดจะทำงานตามความแรงของการสะบัดจากแฮนด์บังคับเลี้ยว ทำให้การติดตั้งให้ใกล้กับจุดศูนย์กลางของแฮนด์ก็จะสามารถทำงานได้ดีที่สุด แถมไม่กินพื้นที่ส่วนอื่นของตัวรถด้วย

ระบบเบรก
เบรกด้านหน้า Tokico ดิสก์คู่เป็นคาลิเปอร์แบบเรเดียลเมาท์ 4 สูบ มาพร้อมกับจานเบรกแบบโฟลตติ้ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 320 ม.ม. และด้านหลังเป็นคาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบเดี่ยวน้ำหนักเบา ดิสก์เบรกด้านหลังมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 220 ม.ม.

ล้อและยางหน้าหลัง
ล้อที่ให้ติดมาจากโรงงานเป็นแบบ 6 ก้านคู่เส้นรอบวงขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์คล้ายกับตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว Y พร้อมด้วยยางขนาด 120/70 ZR17 และขนาด 180/55 ZR17 ตามลำดับ

ขุมพลัง Supersport 600 CC. ปลายไหลๆ

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาดความจุ 600 ซีซี เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 67 มิลลิเมตร ระบบจ่ายน้ำมันเข้าเครื่องยนต์แบบหัวฉีด PGM Fi แบบคู่ Dual Stage Fuel injection เครื่องยนต์ระบายความร้อยด้วยน้ำ
เกียร์ 6 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 120 ที่รอบเครื่องยนต์ 14,000 รอบ/นาที และยังให้แรงบิดสูงสุดที่ 64 นิวตันเมตรที่ 11,500 รอบ/นาที วิ่งดีกว่าเดิมแน่นอน

รีวิว CBR600RR 2021

เครื่องยนต์ตัวนี้ยังมีการพัฒนามาใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการประจุไอดีและเผาไหม้ทั้งหมด มีลิ้นปีกผีเสื้อ 44 ม.ม. และพอร์ทไอดีใหม่ แบบ Direct to head ดีไซน์ทางเดินอากาศใหม่จากลิ้นปีกผีเสื้อถึงหลังใบวาล์วได้มีการออกแบบใหม่ทำให้มีส่วนที่โค้งมนมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพการเร่งดี รวดเร็วมากขึ้น 2.2%

ตัวฝาสูบแบบใหม่ ได้มีการใช้หัวเทียนแบบยาวส่งให้ให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ทั่วหัวลูกสูบมากขึ้น และยังออกแบบทางเดินน้ำหล่อเย็นใหม่ในฝาสูบ รักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลาเพื่อการเผาไหม้ที่ดีขึ้นทุกย่านความเร็ว

รีวิว CBR600RR 2021

ท่อไอเสียแบบ Middle Tip ให้อารมณ์สปอร์ตท่อออกท้ายกลางตัวรถดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนาดก็ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักเบา คายไอเสียได้ไวทำให้เพิ่มกำลังในรอบปลายได้เป็นอย่างดี ในตัวใหม่ยังออกแบบมาให้เป็นแบบ Slip On สามารถที่จะถอดเปลี่ยนท่อได้อย่างง่ายสบายๆ แต่บอกก่อนว่าท่อเดิมเสียงก็เร้าใจมากอยู่แล้ว

รีวิว CBR600RR 2021

เทคโนโลยีจัดเต็ม 

IMU Sensor แบบ 5 โมชัน
สำหรับการทำงานของ IMU นั้นจะเป็นการทำงานร่วมกันทั้งระบบเบรก การส่งกำลัง และการควบคุมการขับขี่ หรือถ้าจะเรียกกันง่ายๆก็คือ การควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดทุกสภาวะการขับขี่และทุกสภาพถนน

ระบบเบรก ABS นอกจากจะป้องกันการล้อล็อคเวลาเบรกกะทันหันแล้ว ก็ยังทำงานร่วมกับ IMU เพื่อที่จะควบคุมล้อหน้าและหลังหมุนเท่ากัน เพื่อที่จะทำให้ตัวรถเข้าโค้งได้ดีขึ้น หรือเบรกขณะเข้าโค้งสามารถที่จะทำได้ดีกว่าเดิม

รีวิว CBR600RR 2021

และยังช่วยในส่วนของ Wheelie Control ป้องกันการลอยตัวของล้อหลังในขณะที่เบรกหน้าแบบเต็มๆ และยังควบคุมการเร่งเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสมเพื่อสร้างประสิทธิภาพขณะขับขี่ให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

Assist Slipper Clutch 
ตัวนี้คือเทคโนโลยีอีกตัวที่จะทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดแรงกระชากของเกียร์ได้ ในขณะที่ขับขี่ด้วยเกียร์สูงแล้วจำเป็นที่จะต้องเชนเกียร์ลงมาเกียร์ต่ำ จะช่วยลดแรงกระชากจากล้อหลังได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่สนุกมากขึ้นและยังช่วยการลดการสึกหรอของชิ้นส่วนตัวรถอื่นๆ อีกด้วย

รีวิว CBR600RR 2021

HSTC (Honda Selectable Torque Control)
อีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่ถูกใส่มาให้จากโรงงาน HSTC คือระบบ แทร็คชั่นคอนโทรล ที่จะช่วยป้องกันการหมุนของล้อหน้าและหลังไม่เท่ากัน ในขณะที่เปิดคันเร่งเร็วเกินไป หรือการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นมีน้ำขังหรือมีกรวดทราย ทำให้ล้อเกิดอาการสไลด์เสียอาการ ระบบนี้จะช่วยให้การขับขี่มั่นใจมากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แถมอยู่ในรถซูเปอร์สปอร์ตอีกด้วย ยิ่งขี่สนุกขึ้นไปอีกเป็นกอง

รีวิว CBR600RR 2021

Riding Mode และ Throttle by wire

สำหรับโหมดการขับขี่จะมีการทำงานควบคู่กับคันเร่งไฟฟ้า สามารถที่จะปรับตั้งค่าได้ทั้งหมด 5 โหมด

Mode/ Detail P T W EB
Mode 1 1 2 1 3 Racing / สนาม
Mode 2 2 5 2 3 Street / ถนน
Mode 3 5 8 3 1 Rain / ถนนลื่น
User 1  N/A  N/A  N/A  N/A ปรับตั้งค่าได้เอง
User 2  N/A  N/A  N/A  N/A ปรับตั้งค่าได้เอง

 

รีวิว CBR600RR 2021

P = การตอบสนองคันเร่ง
T = กำลังจากเครื่องยนต์
W = การยกของตัวล้อ
EB = เอ็นจิ้นเบรก
N/A = สามารถปรับตั้งค่าได้เอง

เรามาพูดถึงฟีลลิ่งการขับขี่คันนี้กันบ้าง 

รีวิว CBR600RR 2021

ท่านั่งดีขี่สบาย

สำหรับซูเปอร์สปอร์ตคันนี้รับรู้ได้ถึงความสบาย ตัวเบาะออกแบบมาให้อยู่ในระยะที่พอดิบพอดี การวางเท้าที่ไม่สูงมากนัก แล้วการจับแฮนด์ก็ไม่ได้ก้มจนเกินไป จะท่าหมอบตัวถังน้ำมันก็รับกับตัวได้ดี จะหลังตรงขับธรรมดาก็ทำได้ไม่น่าเกลียด การออกแบบทำให้ท่านั่งแบบนี้ รู้สึกได้ว่าสามารถขับขี่ได้นานกว่าเดิม แต่ครั้งนี้ขี่กันในสนามแข่งก็จะหมอบเยอะหน่อย

แต่มีจุดสังเกตเพียงอย่างเดียวสำหรับคันนี้คือ ตำแหน่งการวางพักเท้าที่ต่ำไปหน่อยสำหรับการขี่ในสนามเวลาเลี้ยวนอนรถลงไปทำให้พักเข้าขูดกับพื้นแทร็กแต่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ใส่เกียร์โยงก็แก้ได้แล้ว ส่วนถ้าจะเอามาใช้ในเมืองฟีลคล้ายๆ กับ CBR650R เลยเพียงแค่ก้มลงมานิดหน่อย วัยรุ่นชอบ

รีวิว CBR600RR 2021

ช่วงล่าง Showa เฟรมใหม่ เบรกหน้าโคตรดี

สำหรับช่วงล่างเดิมโรงงานขี่ในสนามเอาอยู่แน่นอน โช้คอัพถูกปรับใหม่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีการปรับค่าน้ำมัน สปริง แต่อย่างใด เพียงแค่เซ็ตค่าที่โช้คปรับได้เท่านั้น ทำเท่าที่โช้คทำได้เท่านั้นก็สามารถที่จะขับขี่ได้อย่างพลิ้วเลยทีเดียว ในการเข้าโค้งแบบลึกๆ อย่างโค้ง 3 ที่ต่อเนื่องจากทางตรง ที่ทำความเร็วมาได้ทะลุ 230 กม./ชม. เบรกหนักๆ จนไฟ ESS ขึ้น แกน IMU ประมวลผลอย่างรวดเร็วไม่ให้ล้อหลังลอย แล้วพับเลี้ยวเข้าไปได้อย่างเนียนพร้อมกับเปิดคันเร่งออกได้อย่างไม่มีอาการสะบัดแต่อย่างใด และยังมีในส่วนของโค้ง Hi-speed ต่อเนื่องจากโค้ง 3 อย่างโค้ง 4 ที่ทำความเร็วทางตรงมาเลี้ยวซ้าย สามารถที่จะนอนรถเข้าไปได้เนียนนิ่งๆ เลย ทำให้รู้สึกได้ว่าการออกแบบตัวรถส่วนต่างๆ ที่มีน้ำหนักมากใกล้กับจุดศูนย์ถ่วงมาที่สุดรถจะมีบาลานซ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

**ในการทดสอบครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนยางเป็น Pirelli SuperCorsa SP ทำให้เลี้ยวได้มั่นใจ หนึบหนับขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วจนรู้สึกได้ว่าขี่ดีจริงๆ

เครื่องยนต์ตัวใหม่แรงกว่าเดิม 

แน่นอนเลยว่ายังไงก็แรงขึ้นกว่าเดิมเพราะปรับเปลี่ยนใหม่ไปหลายจุด ทั้งฝาสูบ หัวฉีด หัวเทียน คันเร่งไฟฟ้าแบบรถ MotoGP ขี่ลงสนามไปบิดแรก คันเร่งอย่างเบาเลย ปกติเจอแต่คันเร่งสายในคลาสนี้ พร้อมกับเปิด Riding mode 1 (แรงสุด) แต่ไม่ได้ปิดแทร็คชั่นนะเพราะคิดว่าขอลองก่อนว่าทำงานตอนไหน คือต้องบอกเลยว่ากำลังเครื่องยนต์ทำได้ดีเลย เกียร์ 5 ยาวมาก อย่างกับรถแข่ง ทำความเร็วปลายเกือบจะสุดทางตรงได้ทะลุ 230+ กม./ชม. ถ้าจะขี่ในสนามอาจจะต้องเพิ่มสเตอร์ช่วยอีกหน่อย น่าจะขี่ได้ตึงมือมากขึ้น

แต่ถ้าใครจะใช้บนท้องถนนก็ถือว่าเพียงพออย่างแน่นอน เกียร์ 6 รอบไม่สูงมากนักไว้ประหยัดน้ำมัน ต่อๆในสนาม ช่วงที่เปิดคันเร่งออกจากโค้ง 12 ย่านรอบเครื่องยนต์ที่ให้กำลังที่ดีที่สุด อยู่ในรอบสูงๆ หน่อย ฟีลคล้ายรถรอบสูง ตอนเปลี่ยนเกียร์แรงม้าสูงสุดอยู่ช่วงย่านรอบความเร็ว 14,000 รอบ/นาที ช่วงรอบสูงขี่สนุกมาก Shift light กระพริบเตะตา เสียงท่อเดิมก็หวานหูเลยทีเดียว เป็นเครื่องยนต์ที่ขับขี่ได้สนุกติดมือสมคำล่ำลือเครื่องซูเปอร์สปอร์ต

รีวิว CBR600RR 2021

สรุปเลยแล้วกัน..!!

สำหรับใครที่กำลังมองหารถแข่ง เอ้ยไม่ใช่! ใครที่กำลังมองหารถซูเปอร์สปอร์ตขนาด 600 ซีซี ไว้ใช้งานในเมืองหรือจะเอาไว้มาขี่ Honda Track Day ในสนามแข่งก็เพียงพอแน่นอน ความหล่อไม่ต้องกล่าวถึงใหม่หมดจด เครื่องยนต์ความแรงใช้ไม่หมดแน่นอน ช่วงล่างปรับได้ ซื้อมาแล้วก็ไปปรับเพียงเล็กน้อยให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ของตัวเอง

ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 546,000 บาท พิเศษช่วงนี้ใครอยากได้ Quick Shifter ฟรี รีบซื้อเลย โปรโมชั่น 50 คันแรกแถมไปเลย พร้อมสิทธิ์การเข้าร่วมงาน Honda Track Day อีก 4 สนาม โคตรคุ้ม แต่ถ้าเป็นผมจากที่ลองขับมา เพิ่มท่ออีกสักใบก็ยังดีเห็นขายกันสามสิบกว่าๆ ใบเทา น่าจะเพียงพอแล้ว (เดิมๆ ขี่ไม่ได้)

และสุดท้ายยังไงก็ขอฝาก รีวิว CBR600RR คันนี้ไว้พิจารณาด้วยนะครับยังไงก็คุ้ม ของสดๆ ใหม่ๆ แบบนี้จัดไปครับ

รีวิว CBR600RR 2021

ขอบคุณหมวกกันน็อคสวยๆจาก Nolan Helmet Thailand
ที่ช่วยสปอนเซอร์หมวกกันน็อคสุดเบาอย่าง X-lite X803 RS

อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Admin Superbike

บทความยอดนิยม

ข่าวล่าสุด

รีวิว CBR600RR 2021 ขี่ง่ายเทคโนโลยีจัดเต็มมีแกน IMU พร้อม Riding mode

ยินดีที่ได้เห็นรุ่นนี้กลับมาอีกครั้ง สำหรับการ รีวิว CBR600RR โมเดลซูเปอร์สปอร์ตค่ายปีกนก การกลับมาครั้งนี้ถือว่าเป็น All New เลยก็ว่าได้เพราะจัดเต็มมาทุกส่วนทั้งแฟริ่ง เครื่องยนต์ เทคโนโลยีแบบจัดเต็มมาให้แบบไม่น้อยหน้าค่ายอื่นเลย

รีวิว CBR600RR 2021

ในครั้งนี้ได้มีโอกาสทดสอบกันในแทร็กระดับโลก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ ในการทดสอบครั้งนี้จะเป็นรอบสื่อมวลชน ถือว่าเป็นสื่อมวลชนกรุ๊ปแรกที่ได้ทดสอบกันในแทร็กอย่างเป็นทางการ เป็นเรื่องดีเลยทีเดียวเพราะในการทดสอบจะได้ทดสอบกันแบบเต็มไม้เต็มมือ บิด เบรกกันได้เต็มที่ แถมความปลอดภัยเต็มร้อยอีกด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณ เอพี ฮอนด้า ที่ได้ปิดสนามให้ทดสอบกันเต็มที่ในครั้งนี้ด้วยครับ

รีวิว CBR600RR 2021

เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าหลายๆ คนคงอยากจะรู้แล้ว่าเจ้าหกร้อยคันนี้มีอะไรดีบ้าง ฟีลลิ่งเป็นยังไง?

ดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีจากรถแข่ง MotoGP

รีวิว CBR600RR 2021

 

รีวิว CBR600RR 2021แฟริ่งภายนอกสีไตรคัลเลอร์ดูสวยสดงดงามเด่นตา ถูกดีไซน์ให้เป็นรถที่ลู่ลมที่สุดในคลาสด้วยการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ แฟริ่งด้านหน้ามีการออกแบบเสริมปีกด้านข้างแฟริ่งเป็นแบบวิงก์เล็ตที่จะช่วยสร้างแรงกดที่ล้อหน้าช่วยให้การควบคุมตัวรถในย่านความเร็วสูงๆ ทำได้ดี ทั้งยังช่วยให้เลี้ยวเข้าโค้งได้เนียนมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มความหล่อด้วยระบบส่องสว่างแบบ Full LED หล่อเด่นสุดในรุ่น

การดีไซน์ที่เฉียบคม เส้นสายรอบตัวรถออกแบบให้มีทางเดินอากาศลดแรงเสียดทาน ทำให้มีส่วนช่วยให้รถนิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงออกแบบแฟริ่งหน้ากากด้านหน้าให้มีช่องดักลมเข้าคอไอดีเหมือนกันตัว CBR1000RR-R ยังออกแบบทางเดินอากาศเข้าไประบายความร้อนได้อย่างเต็มที่ อกแฟริ่งด้านล่างที่มีการออกแบบเหมือนรถแข่งเพื่อที่จะลดแรงต้านที่ล้อหลังช่วยได้เยอะขึ้น

ออกแบบถังน้ำมันใหม่สไตล์รถแข่ง ถูกออกแบบให้มีการบาลานซ์น้ำหนักให้ใกล้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถมากที่สุดทำให้การควบคุมรถ เวลาเลี้ยวหรือการเปิดคันเร่งเข้าโค้งทำได้ดีขึ้น และยังมีการปรับมุมเรือนไมล์ TFT ใหม่เพื่อเวลาหมอบไม่ต้องละสายตามากจนเสียสมาธิควบคุม

เรือนไมล์จอสีแบบ TFT ที่สามารถแสดงสถานะต่างๆ ของรถคันนี้ได้ทั้งหมด อาทิเช่น ความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อัตราการกินน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ไฟเลี้ยว ไฟสูง สถานะ HSTC สถานะการเตือนเปลี่ยนเกียร์ Shift Light และยังสามารถปรับการตั้งค่าการขับขี่ Riding Mode ได้อีกด้วย ฟังก์ชั่นเยอะมีให้ใช้แบบเหลือๆ ไปจนถึงฟังก์ชั่น Lap Timer ที่สามารถจับเวลาต่อรอบได้อีกด้วย

เฟรมใหม่ เป็นโครงสร้างแบบอลูมิเนียมทวินทูบเฟรมที่ประกอบไปด้วยพาร์ทอลูมิเนียมดายแคสต์ 4 ชิ้นโดยมีชิ้นส่วนที่แข็งแรงอย่างโดยเฉพาะส่วนของคอรถที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เฟรม หลักการของเฟรมตัวนี้จะรวมมวลทั้งหมดเข้ามาอยู่จุดศูนย์กลางที่ได้ออกแบบเครื่องยนต์ ถังน้ำมัน ให้อยู่ใกล้กันมากที่สุดทำให้เวลาขับขี่จะรู้สึกควบคุมได้ง่าย

รวมไปถึงตัวสวิงอาร์มที่ออกแบบใหม่เพิ่มบาลานซ์ปรับโครงสร้างภายในตัวสวิงอาร์มใหม่ลดน้ำหนักทำให้เบากว่าตัวเดิม ซึ่งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยหลักเลยก็ว่าได้ที่จะทำให้รถคันนี้ได้ฟิวลิ่งที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ช่วงล่างมาเต็มมาแน่น

โช้คอัพด้านหน้าให้มาเป็นแบบหัวกลับ Upside-Down จาก Showa ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 41 ม.ม. ตัวกระบอกสไลด์เป็นสีดำ (แต่ในใจผมเองอยากให้เป็นสีทอง) ภายในเป็นลูกสูบขนาดใหญ่ สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งพรีโหลด คอมเพรสชันและรีบาวด์แดมปิ้ง ทั้งยังปรับได้ง่ายตามความต้องการ

โช้คอัพด้านหลังเป็นแบบซับแทงก์ ทำงานร่วมกับ Unit pro link ถูกติดตั้งระหว่างเฟรมกับสวิงอาร์ม สามารถปรับตั้งค่าได้เช่นเดียวกันกับโช้คหน้า โดยเลือกปรับตามความต้องการที่จะใช้งานได้เลย

กันสะบัดไฟฟ้า HESD ถูกติดมาให้จากโรงงานถูกติดตั้งให้ใกล้กับแผงคอด้านบน เพราะในการทำงานของตัวกันสะบัดจะทำงานตามความแรงของการสะบัดจากแฮนด์บังคับเลี้ยว ทำให้การติดตั้งให้ใกล้กับจุดศูนย์กลางของแฮนด์ก็จะสามารถทำงานได้ดีที่สุด แถมไม่กินพื้นที่ส่วนอื่นของตัวรถด้วย

ระบบเบรก
เบรกด้านหน้า Tokico ดิสก์คู่เป็นคาลิเปอร์แบบเรเดียลเมาท์ 4 สูบ มาพร้อมกับจานเบรกแบบโฟลตติ้ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 320 ม.ม. และด้านหลังเป็นคาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบเดี่ยวน้ำหนักเบา ดิสก์เบรกด้านหลังมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 220 ม.ม.

ล้อและยางหน้าหลัง
ล้อที่ให้ติดมาจากโรงงานเป็นแบบ 6 ก้านคู่เส้นรอบวงขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์คล้ายกับตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว Y พร้อมด้วยยางขนาด 120/70 ZR17 และขนาด 180/55 ZR17 ตามลำดับ

ขุมพลัง Supersport 600 CC. ปลายไหลๆ

เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาดความจุ 600 ซีซี เส้นผ่าศูนย์กลางลูกสูบ 67 มิลลิเมตร ระบบจ่ายน้ำมันเข้าเครื่องยนต์แบบหัวฉีด PGM Fi แบบคู่ Dual Stage Fuel injection เครื่องยนต์ระบายความร้อยด้วยน้ำ
เกียร์ 6 สปีด เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 120 ที่รอบเครื่องยนต์ 14,000 รอบ/นาที และยังให้แรงบิดสูงสุดที่ 64 นิวตันเมตรที่ 11,500 รอบ/นาที วิ่งดีกว่าเดิมแน่นอน

รีวิว CBR600RR 2021

เครื่องยนต์ตัวนี้ยังมีการพัฒนามาใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการประจุไอดีและเผาไหม้ทั้งหมด มีลิ้นปีกผีเสื้อ 44 ม.ม. และพอร์ทไอดีใหม่ แบบ Direct to head ดีไซน์ทางเดินอากาศใหม่จากลิ้นปีกผีเสื้อถึงหลังใบวาล์วได้มีการออกแบบใหม่ทำให้มีส่วนที่โค้งมนมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพการเร่งดี รวดเร็วมากขึ้น 2.2%

ตัวฝาสูบแบบใหม่ ได้มีการใช้หัวเทียนแบบยาวส่งให้ให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ทั่วหัวลูกสูบมากขึ้น และยังออกแบบทางเดินน้ำหล่อเย็นใหม่ในฝาสูบ รักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลาเพื่อการเผาไหม้ที่ดีขึ้นทุกย่านความเร็ว

รีวิว CBR600RR 2021

ท่อไอเสียแบบ Middle Tip ให้อารมณ์สปอร์ตท่อออกท้ายกลางตัวรถดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนาดก็ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักเบา คายไอเสียได้ไวทำให้เพิ่มกำลังในรอบปลายได้เป็นอย่างดี ในตัวใหม่ยังออกแบบมาให้เป็นแบบ Slip On สามารถที่จะถอดเปลี่ยนท่อได้อย่างง่ายสบายๆ แต่บอกก่อนว่าท่อเดิมเสียงก็เร้าใจมากอยู่แล้ว

รีวิว CBR600RR 2021

เทคโนโลยีจัดเต็ม 

IMU Sensor แบบ 5 โมชัน
สำหรับการทำงานของ IMU นั้นจะเป็นการทำงานร่วมกันทั้งระบบเบรก การส่งกำลัง และการควบคุมการขับขี่ หรือถ้าจะเรียกกันง่ายๆก็คือ การควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดทุกสภาวะการขับขี่และทุกสภาพถนน

ระบบเบรก ABS นอกจากจะป้องกันการล้อล็อคเวลาเบรกกะทันหันแล้ว ก็ยังทำงานร่วมกับ IMU เพื่อที่จะควบคุมล้อหน้าและหลังหมุนเท่ากัน เพื่อที่จะทำให้ตัวรถเข้าโค้งได้ดีขึ้น หรือเบรกขณะเข้าโค้งสามารถที่จะทำได้ดีกว่าเดิม

รีวิว CBR600RR 2021

และยังช่วยในส่วนของ Wheelie Control ป้องกันการลอยตัวของล้อหลังในขณะที่เบรกหน้าแบบเต็มๆ และยังควบคุมการเร่งเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสมเพื่อสร้างประสิทธิภาพขณะขับขี่ให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

Assist Slipper Clutch 
ตัวนี้คือเทคโนโลยีอีกตัวที่จะทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดแรงกระชากของเกียร์ได้ ในขณะที่ขับขี่ด้วยเกียร์สูงแล้วจำเป็นที่จะต้องเชนเกียร์ลงมาเกียร์ต่ำ จะช่วยลดแรงกระชากจากล้อหลังได้เป็นอย่างดี ทำให้การขับขี่สนุกมากขึ้นและยังช่วยการลดการสึกหรอของชิ้นส่วนตัวรถอื่นๆ อีกด้วย

รีวิว CBR600RR 2021

HSTC (Honda Selectable Torque Control)
อีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่ถูกใส่มาให้จากโรงงาน HSTC คือระบบ แทร็คชั่นคอนโทรล ที่จะช่วยป้องกันการหมุนของล้อหน้าและหลังไม่เท่ากัน ในขณะที่เปิดคันเร่งเร็วเกินไป หรือการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นมีน้ำขังหรือมีกรวดทราย ทำให้ล้อเกิดอาการสไลด์เสียอาการ ระบบนี้จะช่วยให้การขับขี่มั่นใจมากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แถมอยู่ในรถซูเปอร์สปอร์ตอีกด้วย ยิ่งขี่สนุกขึ้นไปอีกเป็นกอง

รีวิว CBR600RR 2021

Riding Mode และ Throttle by wire

สำหรับโหมดการขับขี่จะมีการทำงานควบคู่กับคันเร่งไฟฟ้า สามารถที่จะปรับตั้งค่าได้ทั้งหมด 5 โหมด

Mode/ Detail P T W EB
Mode 1 1 2 1 3 Racing / สนาม
Mode 2 2 5 2 3 Street / ถนน
Mode 3 5 8 3 1 Rain / ถนนลื่น
User 1  N/A  N/A  N/A  N/A ปรับตั้งค่าได้เอง
User 2  N/A  N/A  N/A  N/A ปรับตั้งค่าได้เอง

 

รีวิว CBR600RR 2021

P = การตอบสนองคันเร่ง
T = กำลังจากเครื่องยนต์
W = การยกของตัวล้อ
EB = เอ็นจิ้นเบรก
N/A = สามารถปรับตั้งค่าได้เอง

เรามาพูดถึงฟีลลิ่งการขับขี่คันนี้กันบ้าง 

รีวิว CBR600RR 2021

ท่านั่งดีขี่สบาย

สำหรับซูเปอร์สปอร์ตคันนี้รับรู้ได้ถึงความสบาย ตัวเบาะออกแบบมาให้อยู่ในระยะที่พอดิบพอดี การวางเท้าที่ไม่สูงมากนัก แล้วการจับแฮนด์ก็ไม่ได้ก้มจนเกินไป จะท่าหมอบตัวถังน้ำมันก็รับกับตัวได้ดี จะหลังตรงขับธรรมดาก็ทำได้ไม่น่าเกลียด การออกแบบทำให้ท่านั่งแบบนี้ รู้สึกได้ว่าสามารถขับขี่ได้นานกว่าเดิม แต่ครั้งนี้ขี่กันในสนามแข่งก็จะหมอบเยอะหน่อย

แต่มีจุดสังเกตเพียงอย่างเดียวสำหรับคันนี้คือ ตำแหน่งการวางพักเท้าที่ต่ำไปหน่อยสำหรับการขี่ในสนามเวลาเลี้ยวนอนรถลงไปทำให้พักเข้าขูดกับพื้นแทร็กแต่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ใส่เกียร์โยงก็แก้ได้แล้ว ส่วนถ้าจะเอามาใช้ในเมืองฟีลคล้ายๆ กับ CBR650R เลยเพียงแค่ก้มลงมานิดหน่อย วัยรุ่นชอบ

รีวิว CBR600RR 2021

ช่วงล่าง Showa เฟรมใหม่ เบรกหน้าโคตรดี

สำหรับช่วงล่างเดิมโรงงานขี่ในสนามเอาอยู่แน่นอน โช้คอัพถูกปรับใหม่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีการปรับค่าน้ำมัน สปริง แต่อย่างใด เพียงแค่เซ็ตค่าที่โช้คปรับได้เท่านั้น ทำเท่าที่โช้คทำได้เท่านั้นก็สามารถที่จะขับขี่ได้อย่างพลิ้วเลยทีเดียว ในการเข้าโค้งแบบลึกๆ อย่างโค้ง 3 ที่ต่อเนื่องจากทางตรง ที่ทำความเร็วมาได้ทะลุ 230 กม./ชม. เบรกหนักๆ จนไฟ ESS ขึ้น แกน IMU ประมวลผลอย่างรวดเร็วไม่ให้ล้อหลังลอย แล้วพับเลี้ยวเข้าไปได้อย่างเนียนพร้อมกับเปิดคันเร่งออกได้อย่างไม่มีอาการสะบัดแต่อย่างใด และยังมีในส่วนของโค้ง Hi-speed ต่อเนื่องจากโค้ง 3 อย่างโค้ง 4 ที่ทำความเร็วทางตรงมาเลี้ยวซ้าย สามารถที่จะนอนรถเข้าไปได้เนียนนิ่งๆ เลย ทำให้รู้สึกได้ว่าการออกแบบตัวรถส่วนต่างๆ ที่มีน้ำหนักมากใกล้กับจุดศูนย์ถ่วงมาที่สุดรถจะมีบาลานซ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

**ในการทดสอบครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนยางเป็น Pirelli SuperCorsa SP ทำให้เลี้ยวได้มั่นใจ หนึบหนับขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเลย แค่นี้ก็เพียงพอแล้วจนรู้สึกได้ว่าขี่ดีจริงๆ

เครื่องยนต์ตัวใหม่แรงกว่าเดิม 

แน่นอนเลยว่ายังไงก็แรงขึ้นกว่าเดิมเพราะปรับเปลี่ยนใหม่ไปหลายจุด ทั้งฝาสูบ หัวฉีด หัวเทียน คันเร่งไฟฟ้าแบบรถ MotoGP ขี่ลงสนามไปบิดแรก คันเร่งอย่างเบาเลย ปกติเจอแต่คันเร่งสายในคลาสนี้ พร้อมกับเปิด Riding mode 1 (แรงสุด) แต่ไม่ได้ปิดแทร็คชั่นนะเพราะคิดว่าขอลองก่อนว่าทำงานตอนไหน คือต้องบอกเลยว่ากำลังเครื่องยนต์ทำได้ดีเลย เกียร์ 5 ยาวมาก อย่างกับรถแข่ง ทำความเร็วปลายเกือบจะสุดทางตรงได้ทะลุ 230+ กม./ชม. ถ้าจะขี่ในสนามอาจจะต้องเพิ่มสเตอร์ช่วยอีกหน่อย น่าจะขี่ได้ตึงมือมากขึ้น

แต่ถ้าใครจะใช้บนท้องถนนก็ถือว่าเพียงพออย่างแน่นอน เกียร์ 6 รอบไม่สูงมากนักไว้ประหยัดน้ำมัน ต่อๆในสนาม ช่วงที่เปิดคันเร่งออกจากโค้ง 12 ย่านรอบเครื่องยนต์ที่ให้กำลังที่ดีที่สุด อยู่ในรอบสูงๆ หน่อย ฟีลคล้ายรถรอบสูง ตอนเปลี่ยนเกียร์แรงม้าสูงสุดอยู่ช่วงย่านรอบความเร็ว 14,000 รอบ/นาที ช่วงรอบสูงขี่สนุกมาก Shift light กระพริบเตะตา เสียงท่อเดิมก็หวานหูเลยทีเดียว เป็นเครื่องยนต์ที่ขับขี่ได้สนุกติดมือสมคำล่ำลือเครื่องซูเปอร์สปอร์ต

รีวิว CBR600RR 2021

สรุปเลยแล้วกัน..!!

สำหรับใครที่กำลังมองหารถแข่ง เอ้ยไม่ใช่! ใครที่กำลังมองหารถซูเปอร์สปอร์ตขนาด 600 ซีซี ไว้ใช้งานในเมืองหรือจะเอาไว้มาขี่ Honda Track Day ในสนามแข่งก็เพียงพอแน่นอน ความหล่อไม่ต้องกล่าวถึงใหม่หมดจด เครื่องยนต์ความแรงใช้ไม่หมดแน่นอน ช่วงล่างปรับได้ ซื้อมาแล้วก็ไปปรับเพียงเล็กน้อยให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ของตัวเอง

ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 546,000 บาท พิเศษช่วงนี้ใครอยากได้ Quick Shifter ฟรี รีบซื้อเลย โปรโมชั่น 50 คันแรกแถมไปเลย พร้อมสิทธิ์การเข้าร่วมงาน Honda Track Day อีก 4 สนาม โคตรคุ้ม แต่ถ้าเป็นผมจากที่ลองขับมา เพิ่มท่ออีกสักใบก็ยังดีเห็นขายกันสามสิบกว่าๆ ใบเทา น่าจะเพียงพอแล้ว (เดิมๆ ขี่ไม่ได้)

และสุดท้ายยังไงก็ขอฝาก รีวิว CBR600RR คันนี้ไว้พิจารณาด้วยนะครับยังไงก็คุ้ม ของสดๆ ใหม่ๆ แบบนี้จัดไปครับ

รีวิว CBR600RR 2021

ขอบคุณหมวกกันน็อคสวยๆจาก Nolan Helmet Thailand
ที่ช่วยสปอนเซอร์หมวกกันน็อคสุดเบาอย่าง X-lite X803 RS

อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Share It:

Admin Superbike

ข่าวล่าสุด

บทความยอดนิยม

Superbike Mag Thailand