SuperBikeMag.Com ข่าวรถยนต์ รีวิวรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า ข่าวรถจักรยานยนต์

ข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ รถไฟฟ้า EV รถยนต์เปิดตัวใหม่

ข่าวรถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!

รีวิวรถยนต์

Coming soon…

รถยนต์ไฟฟ้า

No Posts Found!

  • All Posts
  • รถไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
Sleek EV เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

Sleek EV เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมดันสถานีสลับแบตฯ ทั่วไทยในปี 2023 เปิดตัว SLEEK EV แบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย-สิงคโปร์ พร้อม เผยนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและกระบวนทัศน์การเดินทางของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งได้มีการนําเสนอข้อมูลรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า SLEEK ทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ SLEEK TYPE-V, TYPE-V GT, TYPE-S และ SLEEK ONE ที่ได้มีการเปิดให้จองล่วงหน้าเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดเผยอีก 3 รุ่น ในปี 2023 ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ นาย กันตินันท์ ตันวีนุกูล CO-Founder & Group CEO กล่าวว่า วันนี้ SLEEK พร้อมเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเดินทางและวิถีชีวิตของผู้คนใหญ่ดียิ่งขึ้น ด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้จริง พร้อมศูนย์ให้บริการอย่างครบวงจร การเข้าถึงบริการไฟแนนซ์ และสถานีสลับแบตเตอรี่ โดยยึดมั่นเป้าหมายหลักที่จะสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบโดยคํานึงถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คน ปัจจุบัน SLEEK EV ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใน Segment Home Scooter อย่าง TYPE-S และ SLEEK ONE ที่เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เหมาะสําหรับการใช้งานในเมือง และ Segment Urban Scooter ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อย่าง TYPE-V Series ที่ได้แบ่งเป็น TYPE-V และ TYPE-V GT โดย TYPE-V มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ถึง 3000 วัตต์ สามารถจุแบตเตอรี่ Lithium NMC ขนาดความจุ 60V 70Ah ทําความเร็วได้สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะเดียวกัน TYPE-V GT ก็ถูกออกแบบมาเอาใจนักเดินทาง ด้วยระบบ Mid-Drive Motor 4000 วัตต์ พร้อมจอแสดงผลแบบ Full Digital Display ที่รวบรวมข้อมูลสําคัญของการเดินทางไว้บนหน้าจอเดียว ในราคา TYPE-V 129,000 บาท และราคา TYPE-V GT 149,000 บาท ภายในงาน SLEEK EV ยังได้เผยโฉม S Pods, S Pods Home ที่เป็นสถานีสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยคาดการณ์ว่าจะกระจายติดตั้ง 225 จุด และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2023 ซึ่งจะมีการติดตั้ง S Pods ไว้ทุก ๆ 7-9 กิโลเมตร โดย S Pods จะสามารถเข้าถึงได้ในทุกไลฟ์สไตล์ ไม่เพียงแต่ปั๊มนํ้ามันเท่านั้น แต่จะกระจายไปตามห้างสรรพสินค้า  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบฟังก์ชันการใช้งานรถ ค้นหา ศูนย์บริการ และสถานี S Pods ในโอกาสนี้ SLEEK EV ได้จัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกับ Bosch Thailand ที่ให้ความสนับสนุนในด้านการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV และธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่มีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในการเริ่มต้นเส้นทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทั้งนี้ ลูกค้าของ SLEEK จึงสามารถเข้าถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษจากกรุงศรีได้อย่างราบรื่น พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศรายชื่อตัวแทนจำหน่ายชั้นนำของประเทศมากกว่า 22 จังหวัด และคาดการณ์ว่าภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 จะมีศูนย์บริการและดีลเลอร์ทั่วประเทศ ด้วยความเชื่อมั่นที่จะพัฒนาวงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงาน ให้สะอาดกว่า ง่ายกว่า และประหยัดกว่า ตามหลักสโลแกน “Lifestyle in Motion” ของเรา Sleek EV เปิดตัวอย่างเป็นทางการ อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Can-Am-เตรียมลุยตลาดสองล้อไฟฟ้า

Can-Am เตรียมลุยตลาดสองล้อไฟฟ้า ด้วย 2 โมเดลใหม่ ล่าสุด Can-Am เตรียมลุยตลาดสองล้อไฟฟ้า ด้วย 2 โมเดลสองสไตล์ได้แก่ Origin และ Pulse ซึ่งจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าล้วน ๆ 2 คันแรกของทางค่ายเลย ซึ่งงานนี้เป็นทาง Bombardier Recreational Products (BRP) เป็นผู้ที่ออกมาประกาศ ทั้งนี้ BRP คือบริษัทแม่ของค่ายรถ 3 ล้อสัญชาติแคนาดาของแบรนด์นี้นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทแม่กำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าเพื่อแผ้วถางทางต้อนรับนักบิดหน้าใหม่และแฟน ๆ ที่ชื่นชอบรถไฟฟ้าซึ่งกำลังเพิ่มสูงขึ้นในตอนนี้และในอนาคต “วันนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมของเราพัฒนาไปอีกระดับแล้ว พร้อมกันนี้เรายังได้เผยให้เห็นถึงโปรดักต์รถไฟฟ้าที่จะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของเรา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์บนท้องถนนให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี” José Boisjoli ประธานและซีอีโอของ BRP แถลง “ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ของเราประกาศชัยชนะทั้งในแทร็กและเส้นทางเทรล และวันนี้ตำนานบทใหม่กำลังได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ด้วย Origin และ Pulse สองโมเดลแรกในตระกูลรถไฟฟ้า 2 ล้อของเรา เรากำลังเสริมอาวุธเพื่อเรียกรากเหง้ามอเตอร์ไซค์ของเราด้วยการบรรจงสร้างประสบการณ์การขีบขี่อันตื่นเต้นเร้าใจให้กับคนเจ็นใหม่” โมเดล Origin จะเป็นโมเดลที่พร้อมจะตะลุยไปในทุกเส้นทาง ทั้งออนโร้ดและออฟโร้ด เพราะมันเป็นรถในสไตล์สองประสงค์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอความระทึกใจที่สดใหม่ให้กับทุก ๆ เส้นทาง ขณะที่ Pulse นั้นต่างออกไป มันคือมอเตอร์ไบค์ที่มีความสมดุล มีความแม่นยำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจและอยากที่จะเปลี่ยนการเดินทางธรรมดา ๆ ให้สนุกมากยิ่งขึ้น ทั้งสองโมเดลจะมาในสไตล์ร่วมสมัยและมีเส้นสายที่ดูล้ำยุค ออกแบบมาให้ขี่ได้ง่ายทั้งมือใหม่และมือเก๋า เหมือนกับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั่วไปที่เพียงแค่บิดก็สามารถทะยานออกไปโดยไม่ต้องใช้คลัตช์หรือเข้าเกียร์ ตัวรถยังมีการสั่นสะเทือนน้อยมาก นุ่มนวล และส่งกำลังได้อย่างแม่นยำ แม้ในตอนที่ความเร็วต่ำ ส่วนขุมพลังขับเคลื่อนคือมอเตอร์ไฟฟ้า Rotax E-POWER ซึ่งให้ความเร็วเพียงพอกับการขับขี่บนไฮเวย์ พร้อมทั้งแรงม้าและแรงบิดสูง ทั้งนี้แต่ละโมเดลจะมีดีไซน์ การยศาสตร์ และความสามารถที่เหมาะกับสไตล์ของตัวรถ ทั้งนี้ทางค่ายระบุว่าจะเปิดเผยสเปกโดยละเอียดในเดือนสิงหาคม 2023 และจะยังเปิดโมเดลใหม่ในปี 2024 อีกด้วย ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปติดตามข่าวสารโมเดลใหม่ได้ในเว็บไซต์ของทางค่ายได้เลยครับ อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Triumph TE-1

TRIUMPH TE-1 รถไฟฟ้าต้นแบบที่จะพาไทรอัมพ์มุ่งสู่อนาคตใหม่ เรียกได้ว่าเสร็จสิ้นการพัฒนากันแล้วกับ Triumph TE-1 รถไฟฟ้าต้นแบบที่ทางไทรอัมพ์พัฒนาร่วมกับหลาย ๆ ผู้ชำนาญการ รวมไปถึงทางหน่วยงานรัฐของอังกฤษอีกด้วย เจ้ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าต้นแบบคันนี้เกิดจากความร่วมมือของทางค่ายกับทาง บริษัท Williams Advanced Engineering บริษัท Integral Powertrain Ltd และศูนย์ WMG ของมหาวิทยาลัย University of Warwick และได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ Office for Zero Emission Vehicles ผ่านทางหน่วยงาน Innovate UK ซึ่งมีทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้า และทั้งทางภาครัฐของอังกฤษ ผลของการพัฒนาก็คือเจ้ารถต้นแบบคันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์บนพื้นฐานของ Street Triple แต่มีท่าทางการขับขี่คล้ายกับ Speed Triple เรียกได้ว่าถ่ายทอด DNA การออกแบบของไทรอัมพ์มาได้อย่างลงตัว โดยสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งลงไปนั้นเทียบเท่ากับ Speed Triple 1200 ซึ่งมีกำลังขับมากถึง 130 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 177 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 109 นิวตันเมตรในแบบที่รวดเร็วทันใจและควบคุมได้อย่างนุ่มนวลทุกช่วงความเร็วรอบ โดยทางค่ายระบุมาว่าสามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 96 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที และ 0 – 160 กม./ชม. ได้ภายใน 6.2 วินาทีเท่านั้น สำหรับแบตเตอรี่นั้นถือเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ สำหรับโมเดลนี้ โดยเป็นส่วนที่กินน้ำหนักมากที่สุดของรถ แต่ก็ช่วยให้รถคันนี้วิ่งได้ไกลมากถึง 161 กม. จากการทดสอบบนถนนปิดที่มีการจำลองให้เคียงกับการขับขี่บนถนนจริง และที่น่าสนใจคือการมีระบบชาร์จไฟแบบควิกชาร์จ จาก 0 – 80% ได้ภายใน 20 นาที ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมาก ๆ และแม้ว่าตัวรถจะมีน้ำหนักแบตเตอรี่ที่มาก แต่สำหรับเจ้าต้นแบบคันนี้กลับมีน้ำหนัก 220 กก. ฟังดูอาจจะเยอะ แต่หากเทียบกับรถไฟฟ้าที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันและมีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้แล้วจะพบว่ามันมีน้ำหนักเบากว่าถึง 25% เลยทีเดียว อีกจุดที่น่าสนใจคือเสียงเวลาขับขี่ ซึ่งทางค่ายยืนยันว่าจะไม่ใช่เสียงสังเคราะห์แบบรถยนต์หลาย ๆ แบรนด์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยเวลาขับขี่บนท้องถนน อีกทั้งทางยุโรปเองก็มีข้อบังคับให้ต้องมีระบบสร้างเสียงสังเคราะห์เพราะสาเหตุด้านความปลอดภัยด้วยเช่นกัน แต่ทางค่ายมีการออกแบบมาให้ตัวรถมีเสียงจากการอาศัยเฟืองเกลียวพิเศษในรถให้ได้สุ้มเสียงที่ตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้การขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์แบบสันดาปภายในจริง ๆ เลย และยังผ่านมาตรฐานเรื่องเสียงรบกวนต่าง ๆ แม้กระทั่งในเวลาที่เปิดคันเร่งหนัก ๆ ก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่โมเดลนี้จะเป็นต้นแบบและไม่ได้ขายจริง ๆ แต่ก็ถือว่าโมเดลนี้ช่วยให้ไทรอัมพ์ได้รับองค์ความรู้มากมาย อาทิเช่น ระบบขับเคลื่อน แบตเตอรี่และระบบชาร์จ รวมถึงองค์ความรู้อื่น ๆ ที่จะนำไปพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับขายจริงในอนาคตอันใกล้นี้ได้เป็นอย่างดีแน่นอน อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก  

ราคาและสเปครถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!