SuperBikeMag.Com ข่าวรถยนต์ รีวิวรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า ข่าวรถจักรยานยนต์

ข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ รถไฟฟ้า EV รถยนต์เปิดตัวใหม่

ข่าวรถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!

รีวิวรถยนต์

Coming soon…

รถยนต์ไฟฟ้า

No Posts Found!

  • All Posts
  • รถไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
WMC250EV

WMC250EV รถไฟฟ้าต้นแบบที่ตั้งเป้าทำสถิติ 400 กม./ชม. ล่าสุด White Motorcycle Concepts เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นโปรโตไทป์หรือรุ่นต้นแบบในชื่อว่า WM250EV โดยตั้งเป้าว่าจะทำลายสถิติด้วยการทำท็อปสปีดที่ 400 กม./ชม.  บริษัทดังกล่าวนั้นเป็นบริษัทน้องใหม่สัญชาติอังกฤษ มีเป้าหมายที่จะทำลายสถิติของอังกฤษและสถิติโลกภายในปี 2022 ด้วยเจ้าจรวดทางเรียบคันดังกล่าว ที่ทางค่ายทุ่มเทพัฒนามานาน 2 ปี และทำให้ทุกคนต้องทึ่งในเรื่องของแอโรไดนามิกส์และระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ  นอกจากเรื่องของดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อแอโรไดนามิกส์แบบจัดเต็มแล้ว ยังคำนึงถึงเรื่องสรีรศาสตร์หรือเออร์โกโนมิกส์อีกด้วยครับ โดยตำแหน่งท่านั่งของผู้ขับขี่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ต่ำๆ หรือนอนขับ ยังคงเป็นท่านั่งแบบปกติทั่วไป อย่างไรก็ตามต้องหมอบลงมา และตัวรถจะมีท่อกลวงขนาดใหญ่ที่ทางค่ายเรียกว่า V-Air ตัดผ่านรถตั้งแต่หัวจรดท้าย   ซึ่งเจ้าวีแอร์นี้มีการทดลองแบบจำลองในอุโมงค์ลม และคำนวณออกมาได้ว่าดีไซน์นี้สามารถลดแรงต้านจากลมได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับสตรีทไบค์ทั่วไป ตัวรถยังมีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเข้าไป หรือที่เรียกกันว่า F-Drive เป็นการขับด้วยโซ่ที่ใส่ไว้ภายในสวิงอาร์มซึ่งดูเหมือนว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีกว่าแบบทั่วๆ ไป  ส่วนชื่อโมเดลที่ดูแปลกๆ อย่าง WMC250EV นั้นมีที่มาครับ 250 คือความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือมากกว่า 400 กม./ชม.ที่เป็นเป้าหมายนั่นเองครับ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเร็วกว่าสถิติที่ Max Biaggi ทำไว้ด้วยรถ Voxan Wattman เมื่อปีที่แล้วที่ 366 กม./ชม. ส่วน WMC คือคำย่อของชื่อบริษัทนั่นเองครับ และ EV ด้านท้ายคือ Electric Vehicle หรือการบอกว่ามันคือรถไฟฟ้านั่นเองครับ  ในช่วงแรกนั้นทางแบรนด์จะเล็งทำสถิติความเร็วที่ 200 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 321 กม./ชม.ก่อน และถือว่าเป็นการทำลายสถิติของอังกฤษด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว (ด้านหลัง 2 ตัวและด้านหน้า 3 ตัว) ซึ่งให้กำลังรวมกันที่ 100 กิโลวัตต์หรือเทียบเท่า 134 แรงม้า จากนั้นจะไปทำลายสถิติอีกครั้งที่โบลิเวียในปีหน้า 2022 เพื่อเป้าหมายสถิติโลก  ทั้งนี้รถต้นแบบคันนี้ไม่ใช่แค่สร้างออกมาเพื่อทำสถิติเท่านั้น แต่ยังเป็นการหาวิธีที่จะเพิ่มระยะทางในการใช้งานด้วยการคิดหาวิธียังไงให้มันประหยัดมากที่สุด ก็เรียกว่าเป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจและน่าติดตามมากๆ ครับ ถือว่าเป็นความพยายามพัฒนาของรถไฟฟ้าให้มาเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปครับ  อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Mob-ion AM1

Mob-ion AM1 สกู๊ตเตอร์ต้นแบบพลังไฮโดรเจน หวังตัดปัญหาเสียเวลาชาร์จ ถ้าคุณกำลังรอคอยยานพาหนะที่แค่เติมน้ำก็ใช้งานได้แล้วอยู่ล่ะก็ ความฝันของคุณใกล้จะเป็นจริงแล้วล่ะ ล่าสุดบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสก็ได้ทำการเผยโฉมรถต้นแบบพลังงานไฮโดรเจนอย่าง Mob-ion AM1 ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์พลังงานทางเลือกเพื่อความยั่งยืนทางพลังงานในอนาคต ออกมาให้สาธารณชนได้ชมกัน ทางบริษัท Mob-ion นั้นคือบริษัทที่ธุรกิจกับนวัตกรรมและดีไซน์ทางไฟฟ้าซึ่งมีโปรดักต์ที่หลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเฟ้นหาโซลูชันที่จะผลิตยานพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่มาของสกู๊ตเตอร์พลังงานไฮโดรเจนคันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างการเดินทางที่สะอาดให้กับเมือง โดยทางบริษัทได้ทำการจับมือกับ STOR-H บริษัทพลังงานที่โฟกัสในเรื่องของพลังงานไฮโดรเจน สร้างรถต้นแบบอย่าง AM1 ขึ้นมา โดยใช้คาร์ทริดจ์ไฮโดรเจนหรือกระบอกบรรจุไฮโดรเจนที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ มาเป็นแหล่งพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3 กิโลวัตต์ แทนที่จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบในรถไฟฟ้าทั่วไป   โดยเจ้ากระบอกบรรจุไฮโดรเจนนี้เนี่ยมีขนาดประมาณกระป๋องน้ำอัดลมขนาดปกติ 2 กระป๋องซ้อนกัน ซึ่งจะทำหน้าที่จ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรง และยังทำหน้าที่ช่วยเป็นแหล่งพักพลังงานหรือเป็นบัฟเฟอร์ให้กับแบตเตอรี่เพื่อให้มั่นใจว่าเซลล์ไฟฟ้าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ซึ่งเจ้าคาร์ทริดจ์ที่ว่านี้มีข้อดีคือกินพื้นที่น้อยกว่าและมีน้ำหนักน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำให้รถมีน้ำหนักเบาะและมีพื้นที่สำหรับใส่สัมภาระได้มากขึ้นนั่นเอง ทางแบรนด์ยังระบุว่ามันเก็บก๊าซได้อย่างเสถียรและปลอดภัย และจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า  ซึ่งการใช้พลังงานไฮโดรเจนเนี่ยก็จะทำให้ไม่ต้องชาร์จไฟ แต่สิ่งที่ต้องทำคือการถอดกระบอกออกมาเปลี่ยนกับของใหม่ เหมือนคืนขวดน้ำอัดลมหรือถังก๊าซหุงต้มที่ใช้ทำกับข้าวนี่ล่ะครับ และอาจจะมีกระบอกสำรองเก็บไว้เผื่อเวลาเดินทางไกลๆ ด้วยก็ทำได้ ซึ่งทาง STOR-H มีแผนจะทำการวางจำหน่ายเจ้ากระบอกนี่ให้กับร้านค้าปลีกทั่วประเทศในอนาคต  ทั้งนี้รถโปรดักชันจริงๆ นั้นมีการตั้งเป้าไว้ว่าจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2023 แต่ว่าเราอาจจะได้เห็นรถต้นแบบนี้ทดสอบกันจริงๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ครับ ก็เรียกว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ ครับ แต่ก็ต้องดูถึงการกระจายตัวของแหล่งจำหน่ายกระบอกไฮโดรเจนรวมถึงราคารถ ราคาเชื้อเพลิง ตลอดไปจนถึงการเซอร์วิสอีกด้วยครับ  อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Piaggio One สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

Piaggio One สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หน้าตาดีจากอิตาลี และนี่คือความหวังใหม่ของพิแอ็กจิโอในการที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักบิดมือใหม่ที่ชื่นชอบในสกู๊ตเตอร์และนักบิดที่ต้องการรถที่จะใช้งานในชีวิตประจำวัน Piaggio One สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายกว่า Vespa Elettrica ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกัน ที่มีสนนราคาโดดไปไกลถึง 5,000 ปอนด์หรือราวๆ 220,000 บาท ซึ่งทำให้มันกลายเป็นรถที่คนกระเป๋าไม่หนักจริงจ่ายไม่ไหว โชคดีที่เจ้าหนึ่งเดียวคันนี้ราคาเริ่มต้นที่ 2,500 ปอนด์หรือราวๆ 110,000 บาท หรือครึ่งเดียวของเจ้าเวสป้าไฟฟ้า ทำให้มันน่าสนใจและอยู่ในราคาที่น่าเป็นเจ้าของมากกว่า  ถึงอย่างไรก็ดีสำหรับคนที่อยากจะเดินทางได้ไกลมากขึ้นหรือมีสเปกที่สูงขึ้นก็จำเป็นจะต้องเพิ่มเงินอยู่ดี แต่นั่นก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผลครับ  โดยเจ้าวันสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้จะมีให้เลือกสองสีด้วยกันได้แก่ สีเทาตัดด้วยสีเหลือง และสีขาว ซึ่งน่าจะถูกใจวัยรุ่นและนักบิดหน้าใหม่ไม่น้อยเลยล่ะครับ  ตัวรถนั้นโดดเด่นที่ช่องเก็บของที่ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้ 1 ใบ ซึ่งก็ถือว่าใหญ่สำหรับรถไฟฟ้าที่จำเป็นจะต้องมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และสำหรับเจ้าวันก็จะมีแบตเตอรี่แบบถอดไปชาร์จดได้ ซึ่งเป็นจุดขายที่ดีเลยล่ะครับ  สำหรับสเปกนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ สแตนดาร์ด พลัส และแอ็กทีฟ  สำหรับรุ่นสแตนดาร์ด จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 1.2 กิโลวัตต์หรือ 1.60 แรงม้าที่ให้ท็อปสปีดได้ที่ 45 กม./ชม. ใช้งานได้ 55 กม.ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 1.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดใน 3 รุ่น  รุ่นพลัส จะได้มอเตอร์ขนาดเดียวกันกับสแตนดาร์ดแต่แบตเตอร์รี่จะเพิ่มเป็น 2.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้สามารถทำความเร็วได้มากขึ้นเป็น 55 กม./ชม.และวิ่งได้ราวๆ 100 กม.ต่อ 1 การชาร์จ  สำหรับรุ่นแอ็กทีฟ จะเป็นรุ่นท็อปมาพร้อมมอเตอร์ขนาด 2 กิโลวัตต์หรือ 2.68 แรงม้า สามารถทำท็อปสปีดได้ที่ประมาณ 60 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่สามารถใช้งานได้ 80 กม./ชม.   โดยแบตเตอรี่นั้นเคลมมาว่าจะชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในราวๆ 6 ชม. ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าจะยังไม่ถูกใจคนไทยส่วนใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ก็ถือเป็นรถที่น่าสนใจเหมาะกับการใช้เดินทางระยะสั้นๆ ไปทำงานใกล้บ้านหรือไปร้านสะดวกซื้อได้สะดวกจริงๆ นะครับเนี่ย  อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

ราคาและสเปครถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!