
ผู้อ่านหลาย ๆ คนอาจจะคุ้นชินกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์บ้าน ๆ อย่างฮอนด้าเวฟ, หรือยามาฮ่า ฟีโน่ หรือแม้แต่กลุ่มบิ๊กไบค์คลาสพันก็อาจจะคุ้นชิ้นการสตาร์ทรถด้วยกุญแจไข แล้วใช้คันสตาร์ทเท้า หรือการสตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ แต่ในโลกของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกอย่าง MotoGP รถโปรโตไทป์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความล้ำสมัยของเทคโนโลยี แต่เรื่องของการสตาร์ทเครื่องยนต์กลับไม่ใช่การใช้กุญแจ แล้วตัวแข่งเหล่านี้มันสตาร์ทยังไง บทความนี้ SuperBike Thailand จะพาผู้อ่านทุกท่านมาไขความลับไปพร้อมกัน
ทำไมรถแข่ง MotoGP ถึงสตาร์ทเองไม่ได้?

เพราะเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP มีขนาดความจุอยู่ราว ๆ 1000 ซีซี (ก่อนที่ในปี 2027 จะถูกปรับลดขนาดเครื่องยนต์เหลือเพียง 850 ซีซี) 4 สูบเรียงหรือเครื่องยนต์ V4 แล้วแต่ค่าย แต่สิ่งที่ทำให้มันต่างคือ กำลังอัดสูงมาก (Compression Ratio มักจะเกิน 14:1) ซึ่งต่างจากรถบ้านที่อยู่ราว ๆ 10 – 12:1 เท่านั้น โดยกำลังอัดที่สูงทำให้ได้แรงม้าเกิน 250 ตัว แต่ก็มาพร้อมปัญหา คือ สตาร์ทติดยากมาก นอกจากนี้ ตัวรถไม่ได้ติดตั้ง “สตาร์ทเตอร์ไฟฟ้า” หรือ “แบตเตอรี่ขนาดใหญ่” เหมือนรถทั่วไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้

- น้ำหนักต้องเบาที่สุด เพราะการแข่งขันเรื่องของน้ำหนักมีผลเป็นอย่างมาก ต่างเพียงแค่กรัมเดียวก็มีผลกับเวลาที่ใช้ในการแข่งขัน อีกทั้งการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับสตาร์ทมันคือสิ่งที่ทำให้ ‘เปลืองพื้นที่’ ในตัวรถ
- อุปกรณ์สำหรับสตาร์ทรถจักรยานยนต์ทั่วไป ไม่สามารถหมุนเครื่องยนต์ที่มีกำลังแรงอัดสูงได้ จึงต้องสตาร์ทผ่านอุปกรณ์ภายนอก
- แบตเตอรี่มีขนาดเล็กมาก โดยระบบไฟจะใช้เพียงแค่เลี้ยงระบบ ECU, ปั้มน้ำมัน และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของตัวรถเพียงเท่านั้น
ขั้นตอนการสตาร์ทรถแข่ง MotoGP

- การเตรียมเครื่องยนต์

ก่อนเริ่มสตาร์ท ทีมงานจะเสียบ External Starter ซึ่งเป็นแท่นหมุนขนาดใหญ่เข้าไปที่เพลาหรือสเตอร์หลังรถ เครื่องนี้จะมีมอเตอร์กำลังสูงเชื่อมกับแบตเตอรี่ภายนอก เพื่อหมุนเครื่องยนต์ให้แรงพอจนติด
- การอุ่นเครื่อง (Warm-up)
เมื่อเครื่องติดแล้ว ทีมงานจะปล่อยให้เดินเบา หรือเร่งรอบเล็กน้อย เพื่อให้น้ำมันหล่อลื่นและน้ำหล่อเย็นไหลเวียนเต็มระบบ อุณหภูมิของเครื่องยนต์ต้องถึงระดับที่เหมาะสม (มากกว่า 70°C ขึ้นไป) เพราะหากออกวิ่งตอนเครื่องยังเย็น จะเสี่ยงเครื่องพังหรือดับกลางสนาม
- ยกเครื่องสตาร์ทออก
เมื่อเครื่องยนต์พร้อมใช้งาน ทีมงานจะถอด External Starter ออก รถก็จะอยู่ในสภาพพร้อมลงแทร็กเต็มที่
แล้วถ้าเครื่องดับในสนามล่ะ?

อย่างที่ทราบกันดีว่าในการแข่งขันอุบัติเหตุ หรือปัญหาเกี่ยวกับตัวรถไม่ใช่สิ่งที่สามารถคาดเดาได้ และเหตุนี้ นี่คืออีกหนึ่งความแตกต่างที่ทำให้การแข่งขันมีความตื่นเต้นเสมอ เพราะถ้ารถดับกลางสนาม นักแข่ง ไม่สามารถกดปุ่มสตาร์ทใหม่ได้
วิธีแก้คือ “Bump Start” หรือ “ดันติด”
- เจ้าหน้าที่สนาม (Marshals) จะช่วยดันรถให้นักแข่ง
- นักแข่งเข้าเกียร์สองหรือสาม แล้วปล่อยคลัตช์พร้อมบิดคันเร่ง
- แรงหมุนของล้อจะไปหมุนเครื่องยนต์แทนเครื่องสตาร์ท โดยจะทำให้เครื่องติด
แต่ถ้าเครื่องพังจริง ๆ หรือระบบไฟมีปัญหา รถก็ไม่สามารถกลับมาแข่งได้ ต้องออกจากการแข่งขันทันที
การสตาร์ทรถแข่งระดับโมโตจีพีไม่ได้ง่ายเหมือนมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้ทุกวัน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ อุปกรณ์เฉพาะทาง ทีมงานมืออาชีพ และการวางแผนล่วงหน้า เครื่องยนต์ที่ทรงพลังระดับกว่า 250 แรงม้า ไม่สามารถพึ่งพาปุ่มสตาร์ทเล็ก ๆ ได้เลย แต่ต้องใช้ External Starter Machine ในการปลุกให้สัตว์ร้ายตื่นขึ้นมาพร้อมคำราม
และหากเครื่องดับกลางสนาม กฎก็ชัดเจนว่าไม่มี “ปุ่มโกง” นักแข่งต้องดันรถเอง (พร้อมความช่วยเหลือจาก Marshals) ทำให้ทุกวินาทีในสนามแข่งเต็มไปด้วยความกดดันและความจริงจัง