spot_img
spot_img
spot_img
spot_img

7 ประเด็นน่าสนใจ ทำไมต้องเลือก Italjet Dragster ซิ่งในงานแทร็กเดย์?

7 ประเด็นน่าสนใจ ทำไมต้องเลือก Dragster
ซิ่งในงานแทร็กเดย์?

Italjet Dragster
อิตัลเจ็ทพาสาวกร่วมหวดซิ่งในงาน SuperbikeMag.com Trackday & Trophy ที่สนามพีระ เซอร์กิต พัทยา

เราอาจปฎิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ งานแทร็กเดย์นั้นกลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตของชาวสองล้อยุคใหม่ไปซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายที่ขี่รถบิ๊กไบค์ รถสปอร์ตไบค์ หรือแม้แต่สายสกูตเตอร์ ก็ล้วนอยากปล่อยของกันในสนามแข่งขันที่ปลอดภัยและควบคุมได้ แต่ถ้าหากจะพูดถึง “รถออโต้ที่เกิดมาเพื่อสนาม” ก็คงนึกชื่อไปในทางเดียวกันก็คือเจ้า Italjet Dragster นั่นเอง แต่เดี๋ยวก่อน..ทำไมเจ้าแดร็กสเตอร์ มีดีอะไรถึงได้ดังขึ้นชื่อขนาดนี้ เรามาดูคำตอบในแบบ 7 ข้อสงสัยยอดฮิตที่จะทำให้เอฟซีเข้าใจว่า ทำไม Italjet Dragster จึงเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่คลั่งความมันส์ในสนามกันครับ

1.Italjet Dragster ไม่ใช่รถสกูตเตอร์ธรรมดา

Italjet Dragster

ถ้าหากจะเรียกว่ารถสกูตเตอร์..คุณอาจจะโดนซีเล็งโดยไม่รู้ตัว เพราะเจ้ารุ่นนี้เป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้มีเค้าโครงและระบบช่วงล่างแบบเดียวกันกับรถสปอร์ต และให้ฟีลลิ่งที่คล้ายคลึงกันแทบจะทั้งหมดแต่ต่างกันในเรื่องของระบบขับเคลื่อนที่เป็นสายพาน ประกอบกับตัวบอดี้และส่วนต่าง ๆ ก็คือเป็นรถออโต้แต่เป็นออโต้ที่ถูกออกแบบไม่เหมือนใคร ด้วยองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้

  • ดีไซน์ ‘แปลก’ จากคอนเซ็ปต์ความล้ำสมัย งานอิตาลีทั้งคัน
  • เฟรมถัก แลดูผ่าน ๆ เหมือน Bimota ย่อส่วน 
  • โช้คหน้าอยู่ที่แกนกลางลำตัว ส่วนโช้คหลังจะอยู่บริเวณด้านหลัง มีสวิงอาร์มหน้า
  • รายละเอียดชิ้นส่วนต่าง ๆ พรีเมียมทุกจุด แม้แต่ยางยังให้เป็นยาง Pirelli สัญชาติอิตาลี
  • เครื่องยนต์พื้นฐาน Vespa GTS 300 วางบล็อกเครื่องไว้ด้านหลัง

ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่แค่ ‘ดูเท่’ แต่ใช้งานได้จริงทีเดียวครับ

2.รถพิกัด 300 ซีซี มันจะมันส์หรอ ?

หากคนที่ลงแข่งขันรุ่นเล็ก 125 ซีซี 150 ซีซี หรือ Scooter Open 200 cc อาจไม่มีปัญหาในส่วนนี้ แต่ถ้าใครมือตึง ๆ ชอบขี่บิ๊กสกูตเตอร์คลาส 300 – 350 ซีซี แล้วมองว่า Dragster กำลังเครื่องมันจะพอหรือไม่ ? ขอตอบเลยว่าเพียงพออย่างแน่นอน และอาจสนุกมากกว่าเพราะได้เปรียบในช่วงทางโค้งซะด้วย เพราะในเรื่องจุดเด่นช่วงล่างและฟีลลิ่งการสัมผัสที่ให้ความสปอร์ตพิกัดและแตกต่างกว่ารถสกูตเตอร์ทั่วไปนั่นเองครับ

3.ขี่ในเมืองก็แรงอยู่แล้ว และลงสนาม..มันต่างกันยังไง?

Italjet Dragster

ต่างอย่างแน่นอน !! ในแทร็กคือพื้นที่ให้คุณแสดงศักยภาพได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวรถติด ไม่ต้องห่วงถนนลื่น (ถ้าฝนไม่ตก) บิดให้เต็มที่ เอาให้กระหน่ำ และที่สำคัญคุณจะได้ลองสัมผัส การเข้าโค้งด้วยความเร็ว เบรกลึก และเดินคันเร่งเต็มแรง ได้ในแบบรถบนถนนทั่วไปไม่สามารถทำได้

4.ขี่ยากไหม?

ด้วยผลลัพธ์ความเป็นสปอร์ตในการขับขี่ อาจเป็นเหตุเนื่องมาจากการออกแบบตัวโมเดลที่ไม่เหมือนใคร ช่วงแรกผู้ขับขี่อาจรู้สึกแปลกมือ เพราะการแฮนด์เดอริ่งบังคับของรถรุ่นนี้จะไม่เหมือนกับรถสกูตเตอร์ทั่วไปที่สามารถบังคับเลี้ยวได้ง่ายกว่า แต่ถ้าคุณใช้สกิลการขับขี่เรซซิ่งผสมผสานเข้าไปละก็.. มันจะกลายเป็นรถที่พาคุณไปในเส้นไลน์ที่ต้องการได้ดี การเข้าโค้งที่นิ่ง คม โดยไม่ต้องฝืนตัวเองเลยแม้แต่น้อย

5.ถ้าลงแทร็ก..จะต้องแต่งเพิ่มหรือไม่ ? 

ขอตอบเลยว่า..ไม่จำเป็น เพราะว่ารถแดร็กสเตอร์นั้นเกิดมาเพื่อสนามอยู่แล้ว ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโช้ค เบรก หรือโครงสร้างใด ๆ เลย แต่ถ้าอยากแรงขึ้นสามารถไล่สเต็ปเครื่องได้ หรือเสริมอุปกรณ์รองรับเพอร์ฟอร์มานซ์และความปลอดภัยในสนาม อาทิ ยาง Pirelli Rosso Scooter กันล้ม (ติดเพิ่มก็ดี) หรือท่อแต่ง เพื่ออยากได้เสียงเร้า ๆ หรืออัตราเร่งที่ดีขึ้น เอาตามความต้องการของผู้ขับขี่นั่นแหล่ะครับ แต่ถ้าเอารถเดิม ๆ ไปลงขี่สนาม มันก็พร้อมซิ่งอยู่แล้ว

6.ครั้งแรกของมือใหม่..จะเกร็งไหม ?

Italjet Dragster
รักเลย

สำหรับใครที่เป็นชาวแดร็กสเตอร์มือใหม่ที่พึ่งถอยรถและยังไม่เคยมาขี่ในแทร็ก ไม่ต้องกังวัลไปว่าจะเป็นก้างขวางไลน์รถคันอื่นในสนามหรือไม่ ที่งาน SuperBikeMag Trackday ก็พร้อมต้อนรับนักบิดหน้าใหม่ และให้คำแนะนำการขับขี่ในสนามอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและสร้างการรับรู้การขี่ในแทร็กผ่านสัญญาณธงต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังเปิดรุ่นรองรับการแข่งขันเฉพาะรุ่นรถออโตเมติก และรุ่น Dragster โดยเฉพาะ อีกทั้งการแข่งขันรถแดร็กสเตอร์จัดขึ้นในงานนี้เป็นงานแรกนับตั้งแต่เข้ามาขายในไทย เพราะฉะนั้นจึงวางใจได้ และปฏิเสธไม่ได้ว่ารถแดรกสเตอร์คือรถที่ “คนมอง” มากที่สุดในสนาม เพราะมันแตกต่างอย่างมีสไตล์ ดีไซน์ไม่เหมือนใครและเสียงเครื่องก็ดุดันในแบบของมันเอง

7.ถ้าอยากเริ่ม ต้องเริ่มยังไง ? 

เตรียมรถให้พร้อมและตรวจเช็คสภาพของเหลว ยาง เบรก อุปกรณ์ขับขี่ ไรดิ้งเกียร์ และที่สำคัญ เตรียมใจให้สนุกเพราะงานแทร็กเดย์คือสนามที่คุณจะได้รู้จักรถตัวเอง และพัฒนาทักษะการขับขี่แบบปลอดภัยและมีสไตล์ รวมไปถึงได้แข่งขันสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายเพื่อล่าโพเดี้ยมในสนามนั้น ๆ 

สำหรับสนามที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 8-10 สิงหาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่าน ช่องทางเว็บไซค์ https://www.superbikemag.com/trackday/ ได้โดยตรง หรือผ่านทางตัวแทน Italjet Thailand เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการร่วมลงกิจกรรมสนุก ๆ ในครั้งนี้ และนี่ก็คือ 7 ประเด็นน่าสนใจ ไขข้อสงสัยว่าทำไมต้องมีรถ Dragster ในงาน SuperBikeMag Trackday เมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้ว และคุณหล่ะอยากจะมีแดร็กสเตอร์สายพันธุ์อิตาลีเป็นของตัวเองแล้วหรือยัง ?

อ่านเนื้อข่าวต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Joe Superbike
Joe Superbikehttp://www.superbikemag.com
นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

บทความยอดนิยม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่