SuperBikeMag.Com ข่าวมอเตอร์ไซค์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์

Neander 1400 มอ’ไซค์ ดีเซลเทอร์โบ !?

Neander 1400

หากพูดถึง มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ดีเซลขึ้นมาละก็ คงจะนึกกันไม่ออกใช่ไหมครับ ว่ามันจะเป็นรถประเภทไหน มีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันรถ 2 ล้อที่เราใช้ ส่วนใหญ่แทบจะ 100% ล้วนใช้น้ำมันเบนซินทั้งสิ้น 

ครั้งนี้ SuperBike Thailand ก็ขอหยิบจับโมเดลที่เหล่าไบค์เกอร์ทั่วโลกให้การยอมรับและขนานนามว่าเป็น “King of Diesel Motorcycle” อย่าง Neander 1400 ครูเซอร์พิกัด 1,400 ซีซี จากประเทศเยอรมัน และความพิเศษนอกจากรูปลักษณ์ตัวรถที่มาในสไตล์ครูเซอร์จิ๊กโก๋ ๆ แล้ว ไฮไลท์ก็อยู่ที่ขุมกำลังดีเซลเทอร์โบนี่แหล่ะครับ นับว่าเป็นรุ่นเก๋าแต่พละกำลังไม่น้อยเลยทีเดียว 

Neander 1400

และด้วยตัวเครื่องยนต์ดีเซลที่มีน้ำหนักค่อนข้างพอตัว จึงมาพร้อมกับโครงสร้างที่แข็งแรง มีส่วนประกอบของเหล็กและอลูมิเนียมเพื่อรองรับน้ำหนักตัวรถ รวมถึงการออกแบบที่ดูโดดเด่นในสไตล์รถครูเซอร์ ด้วยไฟหน้าทรงกลม ถังน้ำมันทรงวงรีขนาดใหญ่ปาดเว้าสวยงามแถมช่องอากาศด้านข้าง แฮนด์ยกสูงดีไซน์แบบเฉพาะตัว เบาะออกแบบเว้าระดับ พักเท้าตำแหน่งด้านหน้า เพื่อรองรับท่านั่งขับขี่ให้ดูสมูทขึ้น

Neander 1400

นอกจากนี้ยังมีในส่วนอื่น ๆ เช่น ซับเฟรมอลูมิเนียมปาดโค้งสวยงาม เรือนไมล์อนาล็อกมาคู่กับจอดิจิทัล และอาร์มหลังที่ใช้เฟรมถักเป็นตัวยึด ทำงานร่วมกับโช้คช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมถึงท่อไอเสียชุบโครเมียมออกแบบปลายท่อแบบคู่ ดูสง่าและลงตัวสมกับเป็นโมเดลครูเซอร์ชั้นดี

เครื่องยนต์ Parallel-twin 2 สูบ ขนาด 1,430 ซีซี

สำหรับขุมพลังของเจ้า Neander 1400 ครูเซอร์ไซส์ใหญ่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยเครื่องยนต์ Parallel-twin 2 สูบ ขนาด 1,430 ซีซี ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มาพร้อมกระบอกสูบขนาด 108 x 78.2 มม. เสริมด้วยระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยสายพาน

และปรับอัตราทดเหมือนกับโมเดลสายสปอร์ตอย่าง Aprilia RSV1000R รวมถึงให้กำลังอัดที่ 16:1 โดยให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 113.5 แรงม้าที่ 4,200 รอบ มาพร้อมแรงบิดสูงสุด  214 นิวตันเมตรที่ 2,600 รอบ

รวมถึงฝาสูบเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับรถที่ BMW ใช้ในในการแข่งขัน Formula 2 ปี 1960 และเทอร์โบชาร์จเจอร์ ผลิตจาก Garrett ผู้ผลิตเทอร์โบชื่อดังในแถบอเมริกา แถมมากับความประหยัดด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันที่ 22.7 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร

ต่อด้วยระบบช่วงล่างด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม.จาก Pai oli โช้คเดี่ยว Ohlins ด้านหลัง พร้อมซับแทงค์ กับระบบเบรกด้วยดิสก์เบรกหน้าคู่ และดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลังขนาดเท่ากันที่ 300 มม. พร้อมปั๊มเบรก 4 ลูกสูบ ต่อด้วยล้ออลูมิเนียมหน้า-หลัง 18 นิ้ว และยางขนาด 130/60 และ 240/40 ตามลำดับ

โช้ค Ohlins พร้อมซับแทงค์ ปรับได้เต็มระบบ

ทั้งรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ และช่วงล่างมา มาพร้อมกับมิติที่มีขนาดยาว โดยมีความสูงเบาะที่ 648 มม. ระยะฐานล้อ 1,740 มม. รวม ๆ แล้วน้ำหนักตัวรถ 270 กก. ถือว่าเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย แต่สามารถทำท็อปสปีดได้มากกว่า 240 กม/ชม. ซึ่งเป็นพละกำลังที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ สำหรับครูเซอร์เครื่องดีเซลเทอร์โบรุ่นนี้อีกด้วย

Neander 1400

สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Neander 1,400 อยู่ที่ 85,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว ๆ 3 ล้านกว่าบาท นับว่าแพงหููฉี่กันเลยทีเดียว แต่อย่างว่าหล่ะครับ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ต้องใช้ต้นทุนวัสดุในการผลิตค่อนข้างสูงอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นระดับตำนานถึง King of Diesel Motorcycle มีไว้ประดับสักคัน ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว (แอดก็อยากได้เหมือนกัน) 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Joe Superbike

นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

บทความยอดนิยม

ข่าวล่าสุด

Neander 1400 มอ’ไซค์ ดีเซลเทอร์โบ !?

Neander 1400 มอ’ไซค์ ดีเซลเทอร์โบ !?

Neander 1400

หากพูดถึง มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ดีเซลขึ้นมาละก็ คงจะนึกกันไม่ออกใช่ไหมครับ ว่ามันจะเป็นรถประเภทไหน มีหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันรถ 2 ล้อที่เราใช้ ส่วนใหญ่แทบจะ 100% ล้วนใช้น้ำมันเบนซินทั้งสิ้น 

ครั้งนี้ SuperBike Thailand ก็ขอหยิบจับโมเดลที่เหล่าไบค์เกอร์ทั่วโลกให้การยอมรับและขนานนามว่าเป็น “King of Diesel Motorcycle” อย่าง Neander 1400 ครูเซอร์พิกัด 1,400 ซีซี จากประเทศเยอรมัน และความพิเศษนอกจากรูปลักษณ์ตัวรถที่มาในสไตล์ครูเซอร์จิ๊กโก๋ ๆ แล้ว ไฮไลท์ก็อยู่ที่ขุมกำลังดีเซลเทอร์โบนี่แหล่ะครับ นับว่าเป็นรุ่นเก๋าแต่พละกำลังไม่น้อยเลยทีเดียว 

Neander 1400

และด้วยตัวเครื่องยนต์ดีเซลที่มีน้ำหนักค่อนข้างพอตัว จึงมาพร้อมกับโครงสร้างที่แข็งแรง มีส่วนประกอบของเหล็กและอลูมิเนียมเพื่อรองรับน้ำหนักตัวรถ รวมถึงการออกแบบที่ดูโดดเด่นในสไตล์รถครูเซอร์ ด้วยไฟหน้าทรงกลม ถังน้ำมันทรงวงรีขนาดใหญ่ปาดเว้าสวยงามแถมช่องอากาศด้านข้าง แฮนด์ยกสูงดีไซน์แบบเฉพาะตัว เบาะออกแบบเว้าระดับ พักเท้าตำแหน่งด้านหน้า เพื่อรองรับท่านั่งขับขี่ให้ดูสมูทขึ้น

Neander 1400

นอกจากนี้ยังมีในส่วนอื่น ๆ เช่น ซับเฟรมอลูมิเนียมปาดโค้งสวยงาม เรือนไมล์อนาล็อกมาคู่กับจอดิจิทัล และอาร์มหลังที่ใช้เฟรมถักเป็นตัวยึด ทำงานร่วมกับโช้คช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมถึงท่อไอเสียชุบโครเมียมออกแบบปลายท่อแบบคู่ ดูสง่าและลงตัวสมกับเป็นโมเดลครูเซอร์ชั้นดี

เครื่องยนต์ Parallel-twin 2 สูบ ขนาด 1,430 ซีซี

สำหรับขุมพลังของเจ้า Neander 1400 ครูเซอร์ไซส์ใหญ่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยเครื่องยนต์ Parallel-twin 2 สูบ ขนาด 1,430 ซีซี ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มาพร้อมกระบอกสูบขนาด 108 x 78.2 มม. เสริมด้วยระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยสายพาน

และปรับอัตราทดเหมือนกับโมเดลสายสปอร์ตอย่าง Aprilia RSV1000R รวมถึงให้กำลังอัดที่ 16:1 โดยให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 113.5 แรงม้าที่ 4,200 รอบ มาพร้อมแรงบิดสูงสุด  214 นิวตันเมตรที่ 2,600 รอบ

รวมถึงฝาสูบเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับรถที่ BMW ใช้ในในการแข่งขัน Formula 2 ปี 1960 และเทอร์โบชาร์จเจอร์ ผลิตจาก Garrett ผู้ผลิตเทอร์โบชื่อดังในแถบอเมริกา แถมมากับความประหยัดด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันที่ 22.7 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร

ต่อด้วยระบบช่วงล่างด้วยโช้คหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มม.จาก Pai oli โช้คเดี่ยว Ohlins ด้านหลัง พร้อมซับแทงค์ กับระบบเบรกด้วยดิสก์เบรกหน้าคู่ และดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลังขนาดเท่ากันที่ 300 มม. พร้อมปั๊มเบรก 4 ลูกสูบ ต่อด้วยล้ออลูมิเนียมหน้า-หลัง 18 นิ้ว และยางขนาด 130/60 และ 240/40 ตามลำดับ

โช้ค Ohlins พร้อมซับแทงค์ ปรับได้เต็มระบบ

ทั้งรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ และช่วงล่างมา มาพร้อมกับมิติที่มีขนาดยาว โดยมีความสูงเบาะที่ 648 มม. ระยะฐานล้อ 1,740 มม. รวม ๆ แล้วน้ำหนักตัวรถ 270 กก. ถือว่าเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย แต่สามารถทำท็อปสปีดได้มากกว่า 240 กม/ชม. ซึ่งเป็นพละกำลังที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ สำหรับครูเซอร์เครื่องดีเซลเทอร์โบรุ่นนี้อีกด้วย

Neander 1400

สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Neander 1,400 อยู่ที่ 85,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว ๆ 3 ล้านกว่าบาท นับว่าแพงหููฉี่กันเลยทีเดียว แต่อย่างว่าหล่ะครับ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ต้องใช้ต้นทุนวัสดุในการผลิตค่อนข้างสูงอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นระดับตำนานถึง King of Diesel Motorcycle มีไว้ประดับสักคัน ก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว (แอดก็อยากได้เหมือนกัน) 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Share It:

Joe Superbike

นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

ข่าวล่าสุด

บทความยอดนิยม

Superbike Mag Thailand