Superbikemag

แฟนพันธุ์แท้มีช็อก! Yamaha เตรียมสละเอกลักษณ์ 4 สูบเรียง

Yamaha V4 MotoGP

ตัวแข่งจากค่ายยามาฮ่าพร้อมเอกลักษณ์เครื่องยนต์แบบสูบเรียงมามากกว่าสองทศวรรษเป็นระยะเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา Yamaha YZR-M1 คือรถแข่งที่ยึดมั่นในเครื่องยนต์แบบสี่สูบเรียงท่ามกลางคู่แข่งที่หันไปใช้เครื่องยนต์ V4 กันหมด ไม่ว่าจะเป็น Ducati, Honda, KTM หรือ Aprilia ซึ่งค่ายส้อมเสียงนี้ต้องการรักษา ‘Smooth power Delivery’ เพื่อให้ตัวรถสามารถรักษาสไตล์การขี่แบบ Corner Speed (การรักษาความเร็วในโค้ง) ซึ่งในสไตล์การขับขี่ดังกล่าวเคยพา ‘พ่อหมอ’ วาเลนติโน่ รอสซี่ และฆอร์เก้ ลอเลนโซ่ ผงาดคว้าแชมป์โลก

โดยในยุคปัจจุบันการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป แม้กระทั่งเหล่าตัวแข่งที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP ไม่ว่าจะเป็นในด้านของแอโร่ไดนามิก, เทคโนโลยีการปรับความสูงของตัวรถ (Ride-height device) และอัตราเร่งที่ตอบสนองแบบทันควันคือกุญแจสำคัญ ด้วยเหตุนี้การเปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แบบสูบเรียง ไปสู่ V4 จึงอาจเป็นก้าวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

โครงสร้าง และการจัดวางเครื่องยนต์

ความแตกต่างของเครื่องยนต์แบบ V4 จากค่ายฮอนด้า (ซ้าย) และสูบเรียงจากค่ายยามาฮ่า (ขวา)

เครื่องยนต์รูปแบบสูบเรียง (Inline-Four) มีลักษณะยาวกว่าหากเทียบกับเครื่องยนต์ V4 ทำให้การจัดวางเครื่องยนต์ในเฟรมค่อนข้างมีข้อจำกัด โดยเฉพาะในส่วนของตำแหน่ง จุดยึดและหมุนของสวิงอาร์มกับเฟรมรถ (Swingarm pivot) และน้ำหนักถ่ายไปล้อหลัง โดยการวางเครื่องสูบเรียงทำให้การรักษาบาลานซ์ค่อนข้างคงที่ แต่ยากจะปรับตามความต้องการแอโรสมัยใหม่

ผลต่อกลยุทธ์การแข่งขัน

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่ายังเป็นรองตัวแข่งจากค่ายดูคาติอยู่หลายช่วง

ใครที่ได้รับชมการแข่งขัน MotoGP ในช่วงหลังมานี้ก็อาจจะเป็นที่ทราบกันดีว่ารถจากค่ายส้อมเสียงนั้นปัญหาหลักตอนนี้คือ ‘แพ้ทางตรง’ และไม่สามารถ ‘เร่งออกโค้งได้ทัน’ ซึ่งถ้าใช้เครื่องยนต์ V4 ก็จะสามารถช่วยปิดจุดอ่อนนี้ได้ และการไล่ในทางตรงจะไม่รู้สึกเสียเปรียบเหมือนใช้เครื่องแบบอินไลน์

เกิดปัญหาในการแข่งขันสนามซิลเวอร์สโตนจึงทำให้ไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้

ในด้านของความสม่ำเสมอในรอบยาวแม้เครื่องยนต์แบบอินไลน์จะสามารถทำเวลาได้ดีในหลายการแข่งขัน แต่ยังขาดการโจมตีคู่แข่ง จึงทำให้มักเสียเปรียบคู่แข่งในบางเกมการแข่งขัน โดยข้อที่น่าสนใจหากเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ V4 ก็อาจทำให้ทีมโรงงานสีน้ำเงินค่ายนี้สามารถสู้แบบ ‘ตัวต่อตัว’ กับคู่แข่งได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงของการเบรก และการออกโค้ง

ภาพลักษณ์การตลาด และการพัฒนาสู่รถโปรดักส์ชั่น

หากโปรเจคเครื่องยนต์ V4 สำเร็จอาจจะได้เห็น Yamaha YZF-R1 ในรูปแบบเครื่องยนต์ V4

ต้องยอมรับว่าค่ายยามาฮ่ายอมเป็นค่ายเดียวที่ยึดมั่นในแนวทางเครื่องยนต์แบบ ‘สี่สูบเรียง’ มามากกว่าสองทศวรรษ แม้การที่จะต้องยอมปรับตัวให้เข้ากับโลกการแข่งขันในยุคปัจจุบันอาจจะทำให้แฟนพันธุ์แท้ของทีมรู้สึกเสียความเป็นเอกลักษณ์ไป แต่ในอีกแง่มุมนึงก็ต้องยอมรับว่า นี่คือการพิสูจน์ว่าทางค่ายพร้อมปรับตัวเพื่อที่จะชิงความเป็นใหญ่กลับมาอีกครั้ง 

และอีกหนึ่งจุดที่อาจะเป็นนัยแฝงของการปรับตัวครั้งนี้ คือการที่นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์จากรถสนามสู่รถถนน ซึ่งถ้าทาง Yamaha สามารถพัฒนาเครื่องยนต์ V4 ได้สำเร็จพร้อมใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็อาจจะนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์นี้ไปบรรจุลงรถในกลุ่มสปอร์ตโมเดลของทางค่ายอย่าง R-Series เหมือนที่ Ducati ทำกับรถในโมเดล Panigale V4

สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

Yamaha V4 MotoGP
โมเดลต้นแบบเครื่องยนต์ V4 มาลงทดสอบกันที่สนามเบอร์โน สาธารณรัฐเช็ก

แม้จะเป็นสิ่งที่ทางค่ายกำลังมุ่งพัฒนา แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง อันดับแรกก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของระยะเวลาที่อาจจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่า 2 ปีกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ ซึ่งถ้าใช้ระยะเวลาประมาณนั้นจริง ๆ ก็ถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของเครื่องยนต์ MotoGP ในฤดูกาล 2027 จากพันซีซีสู่ 850 ซีซี แบบพอดิบพอดี ถัดมาก็เป็นเรื่องของผลงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งทีมอาจตกหลุมดำในด้านของผลงานช่วงแรก และข้อสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือการที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลสำหรับการพัฒนา

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเครื่องยนต์สูบเรียง และ V4

หมวดหมู่ เครื่องยนต์สูบเรียง เครื่องยนต์ V4
โครงสร้างเครื่องยนต์ สูบเรียงตรง 4 สูบขนาดยาวกว่า สูบวางรูปตัว V กะทัดรัดมากกว่า
การกระจายแรงบิด สามารถทำได้อย่างเรียบเนียน และควบคุมง่าย แรงบิดในช่วงต้นมีรอบจัด และเป็นจังหวะ
สไตล์การขับขี่ที่เหมาะสม เน้นขับขี่สไตล์ Corner Speed เข้าโค้งเร็ว ลื่นไหล เน้นอัตราการเร่ง ออกโค้งดุดัน เบรกหนัก-เร่งหนัก
การออกแบบเฟรมตัวถัง จำกัดการวางตำแหน่งเครื่องยนต์มากกว่า ยืดหยุ่นกว่า สามารถออกแบบในส่วนของหลักแอโร่ไดนามิกได้ดีขึ้น
ข้อได้เปรียบ ควบคุมง่าย รอบกลาง-ปลายไหลเนียน แรงดึงออกโค้งดี เร่งแซงตรงยาวได้ ออกแบบตัวรถให้ก้าวทันยุคแอโรได้ง่าย
ข้อเสียเปรียบ ขาดแรงดึงออกโค้ง แพ้คู่แข่งในเส้นตรง ควบคุมยากกว่า ใช้เวลา R&D นาน ต้นทุนสูง
ตัวอย่างทีม/ค่าย Yamaha (จนถึงปัจจุบัน) Ducati, Honda, KTM, Aprilia

 

Yamaha V4 MotoGP
ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ นักบิดคนสำคัญของทีมโรงงานยามาฮ่า

ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก ‘สูบเรียง’ เป็น ‘V4’ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย จริงที่เครื่องยนต์แบบสูบเรียงอาจจะควบคุมง่ายเข้าและออกโค้งได้อย่างง่ายดายกว่า แต่ในช่วงทางตรงก็ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ V4 มีประสิทธิภาพเร้าใจกว่าเป็นเท่าตัว

อีกทั้งแรงดึงออกโค้งดี เร่งแซงตรงยาวได้ ออกแบบตัวรถให้ก้าวทันยุคแอโรได้ง่าย แม้จะควบคุมยากกว่าแต่ในด้านของประสิทธิภาพทำถึงอย่างแน่นอน

สรุป : แม้จะเสี่ยง แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่จำเป็น

การเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ จากเครื่องยนต์แบบสูบเรียงสู่เครื่องยนต์แบบ V4 นั้นไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่มันคือการปรับเปลี่ยนทั้งสไตล์การขับขี่ และกลยุทธ์ของทีม ซึ่งถ้าการเดิมพันความเปลี่ยนแปลงนี้สำเร็จค่ายส้อมเสียงก็อาจจะกลับมายืนอยู่ในจุดที่สามารถแย่งแชมป์กับทีม Ducati ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ถ้าไม่เป็นดังที่หวังก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะใหญ่สำหรับการพัฒนา

และสำหรับเหล่าสาวกทีมโรงงานสีน้ำเงินค่ายนี้ หากไม่อยากพลาดการลงสนามอย่างเป็นการของเครื่องยนต์ Yamaha V4 MotoGP ที่พัฒนาจากทางค่ายก็ติดตาม SuperBike Thailand ไว้ได้เลยจะมาอัปเดทให้ทราบอย่างแน่นอน

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Tags :

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here