ซัคเซนริง ล้มยับ ! ด้านมาร์กเดินหน้าคว้าชัยสปรินท์-เมนเรซ

สิ้นสุดการแข่งขันในสนามที่ 11 ของฤดูกาลซึ่งทำการแข่งขันกันในรายการ Liqui Moly Grand Prix of Germany 2025 ที่สนามซัคเซนริง ประเทศเยอรมนี แน่นอนว่าการแข่งขันในสนามนี้ก็ยังคงการันตีความ ดุเดือด และท้าทายอยู่ไม่น้อย ด้วยเอกลักษณ์ของสนามที่เน้น ‘โค้งซ้าย’ เป็นหลัก

สนามซัคเซนริง ประเทศเยอรมนีมีระยะทางอยู่ที่ 3.67 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย 13 โค้งแบ่งเป็น 10 โค้งซ้าย 3 โค้งขวา ถือได้ว่าเป็นสนามแข่งขันที่เน้นโค้งซ้ายเป็นหลักซึ่งมีความแตกต่างออกไปจากสนามการแข่งขันอื่น ๆ อยู่พอสมควร
![]() |
![]() |
แบ่งเป็นโค้งซ้าย 10 โค้ง | แบ่งเป็นโค้งขวา 3 โค้ง |
ในรอบควอลิฟายเพื่อหาตำแหน่งออกตัวบนกริดสตาร์ท เจ้าของตำแหน่ง ‘โพล โพซิชั่น’ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ยังคงเป็นเจ้าของหมายเลข 93 จากทีม Ducati Lenovo Team มาร์ก มาร์เกซ ที่กดเวลาต่อรอบดีสุดอยู่ที่ 1:27.811 นาที

ซึ่งการได้ตำแหน่งโพล โพซิชั่นในหนนี้ของนักบิดสายเลือดกระทิงดุรายนี้ก็ถือเป็นการได้ออกสตาร์ทในลำดับที่ 1 ของฤดูกาลเป็นครั้งที่ 7 โดยก่อนหน้านี้สามารถทำได้ที่การแข่งขันที่ประเทศไทย, ประเทศอาเจนติน่า, ประเทศกาตาร์, ประเทศสเปน, ประเทศอิตาลี และครั้งล่าสุดในการแข่งขันที่ประเทศเยอรมนี
มาร์กประเดิมชัยด้วยการแข่งสปรินท์เรซ
ในฤดูกาลนี้หากจะบอกว่ามาร์ก มาร์เกซเป็นมิสเตอร์วันเสาร์ก็คงไม่ถูกซะทีเดียว ถ้าเรียกว่าเป็นมิสเตอร์ ‘เอเวอรี่เดย์’ น่าจะดูมีความเหมาะสมมากกว่า ซึ่งในการแข่งขันสปรินท์เรซที่สนามซัคเซนริงฤดูกาลนี้ ในช่วงก่อนการแข่งขันมาพร้อมกับสภาพอากาศที่มีฝนตก แทร็คเปียกซึ่งก็ถือว่าเป็นโจทย์ที่มีความหินมากยิ่งขึ้นไม่น้อยสำหรับเหล่านักแข่ง

การแข่งขัน 15 รอบสนามได้เริ่มต้นขึ้น ในช่วงแรกของการแข่งขันตัวเต็งประจำรายการอย่าง ‘มาร์ก มาร์เกซ’ ก็พลาดท่าคุมเจ้า GP25 ไม่อยู่ ทำให้เจ้าตัวบานโค้งออกเสียตำแหน่งผู้นำให้กับมาร์โก เบซเซคคี่จากทีมโรงงาน Aprilia ตั้งแต่หัวม้วน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเบซเซคคี่ได้รับโอกาสการขึ้นเป็นผู้นำก็สามารถรักษาไลน์การขับขี่ของเจ้าตัวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

แต่ถ้าใครได้ติดตามการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาล 2025 มาตั้งแต่ช่วงต้นก็มีจะมีประโยคนึงลอยเข้ามาในหัวว่า ‘มาร์กยังไงก็คือมาร์ก’ ใช่แล้วครับ คำนี้ไม่เกินจริง เพราะการแข่งขันในช่วงรอบสุดท้าย (Last Lap) มาร์กผู้พี่ก็ได้ทำการกระแทกคันเร่งแบบเนียน ๆ ขึ้นไปเทียบเท่าผู้นำอย่างเบซเซคคี่ ก่อนที่จะเร่งออกตัวไปอยู่ในตำแหน่งผู้นำอย่างหน้าตาเฉย พร้อมกับการรักษาไลน์การขับขี่แล้วฝ่าธงหมากรุกคว้าชัยเก็บ 12 คะแนนแรกไปนอนกอดได้อย่างสบายใจ

อันดับที่สองเป็นของมาร์โก เบซเซคคี่ จากทีมโรงงาน Aprilia และอันดับที่สามตกเป็นของของ ‘เอลดิอาโบล’ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่ ยอดนักบิดสัญชาติฝรั่งเศสจากทีมโรงงานยามาฮ่า Monster Energy Yamaha MotoGP

ซึ่งในการแข่งขันสนามนี้ก็ยังคงการันตีความร้อนแรงของแทร็ค เกิดอุบัติเหตุขึ้นอย่างรุนแรงกับฟรานโก้ โมบิเดลี นักแข่งเจ้าของหมายเลข 21 จากทีม Pertamina Enduro VR46 Racing Team ที่เกิดอุบัติเหตุโลว์ไซด์ ที่มาด้วยความเร็วสูงในโค้งที่ 8 หลังการแข่งขันผ่านไปเพียงแค่ 3 รอบสนามเท่านั้น

หลังจากเกิดอุบัติเหตุ โมบิเดลีก็ได้เข้าเช็คอาการที่ Medical Center ทันที เมื่อได้ทำการตรวจเช็คเรียบร้อย แพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยพบว่า โมบิเดลีมีรอยฟกช้ำที่กระดูกไหปลาร้าด้านซ้ายอย่างรุนแรง ซึ่งต้องอยู่ในระหว่างการพักฟื้นต่อไป
เมนเรซมาร์กคว้าชัยไม่พลาด

หลังจากผ่านการแข่งขันในช่วงวันเสาร์ไป แน่นอนว่าเมนเรซในวันอาทิตย์ก็ยังคงเร้าใจไม่แพ้กัน จะแตกต่างกันก็เพียงแค่การแข่งขันในวันอาทิตย์มันไม่มีฝน แทร็คแห้งสนิท แต่บรรยากาศกลุ่มเมฆก็ยังคงมีเมฆฝนที่มารอทำท่าว่าจะตก แต่สุดท้ายแล้วก็มาให้เห็นเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของสนามเท่านั้น
ลำดับออกสตาร์ทยังคงยึดจากผลในรอบควอลิฟายไม่มีเปลี่ยนแปลง มาร์ก มาร์เกซออกสตาร์ทด้วยความมั่นใจ พร้อมยึดตำแหน่งผู้นำได้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน เพราะสนามซัคเซนริง กับมาร์ก มาร์เกซ ก็เปรียบเหมือนสนามหลังบ้านของเจ้าตัว เพราะสถิติก่อนการแข่งขันที่สนามนี้ 15 ปีล่าสุดมาร์ก มาร์เกซสามารถเก็บชัยได้ถึง 11 ครั้ง และในปี 2025 นี้มาร์ก มาร์เกซก็สะสมเพิ่มเป็นครั้งที่ 12 ได้สำเร็จ
มาร์ก มาร์เกซเก็บชัยได้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเป็นการสื่อให้เห็นถึงสุดยอดความสามารถที่เจ้าตัวสามารถทำได้ แต่เรื่องราวของเลย์เอาท์สนามก็น่าสนใจไม่น้อย แม้จะไม่มีเรื่องของฝนมารบกวนการแข่งขันในรอบเมนเรซ แต่การแข่งที่ต้องวิ่งถึง 30 รอบสนามก็เป็นเรื่องที่ท้าทายไม่น้อย

และการแข่งขันที่สนามซัคเซนริงในโค้งที่ 1 ‘เหมือนจะเป็นโค้งปัญหา’ เนื่องจากเป็นโค้งที่ลงมาจากเนินแล้วต่อด้วยโค้งขวา แน่นอนครับว่าเมื่อการแข่งขันเดินทางมาถึงรอบที่ 20 ก็เรียกได้ว่า ‘ล้มกันกระจาย’ ล้มกันโดยไม่ได้นัดหมาย เริ่มที่ฟาบิโอ ดิ จินันอันโตนิโอ, มาร์โก เบซเซคคี่, ไอ โอกุระ, โจอัน เมียร์, โยฮันน์ ซาร์โก้ หรือแม้แต่ลอเลนโซ่ สาวาดอรี่

เมื่อสิ้นสุดการแข่งขันก็เหลือนักแข่งในสนามอยู่เพียง 10 คันเท่านั้น ได้แก่ มาร์ก มาร์เกซ (แชมป์ประจำสนาม), อเล็กซ์ มาร์เกซ, ฟรานเชสโก้ บัญญาย่า, ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่, เฟอร์มิน อัลเดเกร์, ลูก้า มารินี่, แบรด บินเดอร์, แจ็ค มิลเลอร์, ราอูล เฟอร์นันเดซ และอเล็กซ์ รินส์

และแน่นอนว่าก็ยังคงเป็นการแข่งขัน ซัคเซนริง ก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่มาร์ก มาร์เกซสามารถงัดฟอร์มเก่งของเจ้าตัวออกมาได้อีกครั้งหนึ่งกับการเก็บเพิ่มได้ 25 คะแนนหลังผ่านการแข่งขันในรอบเมนเรซ โดยปัจจุบันมาร์กสามารถสะสมคะแนนชิงแชมป์โลกเพิ่มได้เป็น 344 คะแนน นำหน้าน้องชายอย่างอเล็กซ์ มาร์เกซอยู่ -83 คะแนน และนำหน้าทีมเมทอย่าง ฟรานเชสโก้ บัญญาย่าอยู่ -147 คะแนน
โดยในสนามถัดไปก่อนปิดพักเบรกครึ่งฤดูกาลจะไปทำการแข่งขันสนามที่ 12 ของฤดูกาลในรายการ Tissot Grand Prix of Czechia ที่สนาม Automotodrom Brno (เบอร์โน) สาธารณรัฐเช็ก ในช่วงระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคมนี้ มาร์ก มาร์เกซ จะสามารถเดินหน้าคว้าชัยได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ต้องติดตาม
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก