SuperBikeMag.Com ข่าวรถยนต์ รีวิวรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า ข่าวรถจักรยานยนต์

ข่าวรถยนต์ รีวิวรถยนต์ รถไฟฟ้า EV รถยนต์เปิดตัวใหม่

ข่าวรถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!

รีวิวรถยนต์

Coming soon…

รถยนต์ไฟฟ้า

No Posts Found!

  • All Posts
  • รถไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
Sleek TYPE-V GT

Sleek TYPE-V GT รถไฟฟ้าอีกหนึ่งตัวเลือกยุคน้ำมันแพง เปิดตัวเปิดราคาไปแล้วกับแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่น่าจับตามอง สลีค กับโมเดลตัวแรงสเปกดีสุดของทางค่ายอย่าง Sleek Type-V GT ซึ่งเดิมทีใช้ชื่อว่า SWAG แต่ว่าทาง Geko สตาร์ทอัพฟินเทคที่ให้บริการเกี่ยวกับสินเชื่อของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ทำการซื้อกิจการมาและรีแบรนด์ใหม่ โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ โดยตัวรถจะมีอะไหล่จากหลาย ๆ ประเทศและนำมาประกอบและตรวจสอบคุณภาพตัวรถที่ประเทศไทย สำหรับโมเดลนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์โดดเด่นโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะไฟหน้าและไฟท้ายที่มีเส้นสายการออกแบบเฉียบคม ตัวรถออกมีลักษณะเป็นเหมือนกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่ใช้ระบบขับเคลื่อนสุดท้ายด้วยโซ่ ขุมพลังของรถเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าวางกลางตัวรถ มีกำลังขับ 4000 วัตต์ เคลมท็อปสปีดสูงสุดมาที่ 90 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเมืองได้แบบสบาย ๆ ส่วนระยะทางที่ทำได้นั้นเคลมมาที่ไม่น้อยกว่า 200 กม.เมื่อขับขี่ที่ 35 กม./ชม. ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีลิเธียมขนาด 35 แอมป์ชั่วโมง 2 ก้อน แบบถอดออกมาชาร์จได้ โดยใช้เวลาชาร์จประมาณ 3 – 4 ชม.ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ 1 ก้อน อย่างไรก็ดีระยะทำการจริง ๆ กับความเร็วที่มากกว่าคาดว่าคงจะต้องไปลองทดสอบกันดูอีกที แต่คาดว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน ตัวรถมีระบบกันสะเทือนแบบเทเลสโคปิกที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยว มีระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบเบรกแบบ CBS หรือระบบกระจายแรงเบรก ส่วนขนาดล้อและยางนั้นจะเป็น 120/70 – 12 นิ้วเท่ากัน โดยน้ำหนักตัวรถนั้นหนักเพียง 124 กก.เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นที่หน้าสนใจอย่างหน้าจอดิจิทัลเต็มระบบแสดงผลแบบเดียวกับหน้าจนรถยนต์และระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะที่เรียกว่า Human-computer Interaction Design เมื่อเข้าใกล้ตัวรถ รถทั้งคันจะปลดล็อกโดยอัตโนมัติ จากนั้นล็อคเองอัตโนมัติเมื่อออกห่างจากกุญแจและรีโมทคอนโทรล ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้เปิดราคาจำหน่ายด้วยกัน 4 สี ในราคาที่ 149,000 บาท โดยตอนนี้มีโปรโมชันพร้อมการรับประกันมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี 3 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปีแรกหรือ 15,000 กม. รับกิฟต์วอชเชอร์ 15,000 บาท และของสมนาคุณอีกกว่า 10,000 บาท สำหรับราคานั้นฟังดูอาจจะราคาแรงไปบ้าง แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานระยะยาวแล้วล่ะก็น่าจะมีความคุ้มค่าอยู่ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงดูแลรักษาอะไรมากเหมือนกับรถที่มีเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟก็ยังถูกกว่าเติมน้ำมันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปพรีออเดอร์ได้ที่ https://sleekev.com อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Energica Experia

Energica Experia ทัวริ่งไฟฟ้าวิ่งได้ 420 โล เปิดตัวแล้ว ล่าสุดค่ายรถไฟฟ้าสัญชาติอิตาลีก็ได้ทำการเปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง Energica Experia มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวริ่งที่เน้นทางดำเป็นหลักในช่วงการแข่งขัน MotoGP ที่ Mugello ประเทศอิตาลีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับเจ้าทัวริ่งไฟฟ้าคันนี้ถือว่ามีอะไรที่น่าสนใจมากมายเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ใหม่หมด ซึ่งตัวแบตเตอรี่ให้กำลังไฟมากถึง 22.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง และมอเตอร์ไฟฟ้าเองก็รีดกำลังได้สูงสุดเทียบเท่า 101 แรงม้าที่ 7,500 รอบ และแรงบิดสูงถึง 115.24 นิวตันเมตร (แรงบิด 900 นิวตันเมตรที่ล้อ) ซึ่งใช้ขับเคลื่อนรถที่หนักมากถึง 260 กก.ให้สามารถทำท็อปสปีดได้มากถึง 180 กม./ชม. สามารถเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม.ได้ภายใน 3.5 วินาที และเคลมมาว่าสามารถวิ่งได้ไกลมากถึง 420 กม.เลยทีเดียว โดยสามารถวิ่งแบบไม่ต้องสนใจเรื่องความเร็วได้มากถึง 246 กม. สำหรับเรื่องการชาร์จนั้นตัวรถมีการชาร์จ 3 ระดับ โดยสามารถชาร์จแบบฟาสต์ชาร์จได้ 80% ภายใน 40 นาทีที่การชาร์จระดับ 3 DC และทางค่ายยังเคลมมาว่าเป็นรถคันแรกที่ให้การชาร์จมาถึง 3 ระดับมาเป็นพื้นฐานเลย เรียกได้ว่าเร็วเลยทีเดียว ในส่วนของช่วงล่างที่ให้มานั้นก็ไม่ใช่ขี้ไก่ แต่จัดเต็มมาในระดับนึงเลยทีเดียว ด้านหน้าเป็นโช้คหัวกลับขนาด 43 มม.จาก Sachs ปรับแต่งได้ ซึ่งโช้คหลังเดี่ยวก็มาจาก Sachs เช่นเดียวกัน ขณะที่ระบบเบรกจัดการด้วย Brembo โดยด้านหน้าเป็นดิสก์คู่ 330 ม.ม.พร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 4 ลูกสูบและด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยว ปิดท้ายด้วยล้อขนาด 17 นิ้วทั้งด้านหน้าและด้านหลังรัดด้วยยาง Pirelli Scorpion Trail II ที่เหมาะกับการขี่ถนนเดินทางไกลออกทริปอย่างยิ่ง สำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็มีมาให้หลากหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ระบบครูซคอนโทรล ระบบเบรก ABS จาก Bosch 9.3MP ECU และระบบแทร็คชันคอนโทรลที่ทำงานร่วมกับตัวประมวลผลแรงเฉื่อย มีโปรไฟล์ผู้ขับขี่ให้เซ็ตถึง 7 โปรไฟล์แบ่งเป็น 4 พรีเซ็ต และอีก 3 ชุดโปรไฟล์ที่ปรับแต่งเองได้ โหมดการขับขี่อีก 4 โหมด ได้แก่ Eco, Urban, Rain และ Sport เท่านั้นยังไม่หมดยังมีแม็ปการรีเจเนอเรทีฟเบรกกิ้งอีก 4 รูปแบบ ซึ่งตรงนี้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามาลดความเร็ว และเปลี่ยนแปลงพลังงานเชิงกลที่จะสูญเสียไปขณะเบรกให้กลับมาช่วยชาร์จไฟเข้าระบบ ได้แก่ High, Medium, Low และ Off ปิดท้ายด้วยระบบเดินหน้าและถอยหลังความเร็วต่ำเพื่อใช้เวลาจอดรถ สำหรับสนนราคานั้นยังไม่ระบุแต่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว แต่ราคาคงไม่ถูกแน่นอน ด้วยเทคโนโลยีและขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าตอนนี้ รวมไปถึงภาษีนำเข้าต่าง ๆ แต่ก็เป็นสัญญาณอันดีที่รถไฟฟ้าจะสามารถมีระยะทำการได้ไกลมากขึ้น ชาร์จได้เร็วขึ้น และใกล้จะมาทดแทนมอเตอร์ไซค์แบบเดิม ๆ ได้ในอนาคตไม่ไกลนี้อย่างแน่นอนครับ อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป จี๊ดจ๊าดระดับ 720 นิวตันเมตร

XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป จี๊ดจ๊าดระดับ 720 นิวตันเมตร เปิดให้จองแบบพรีออเดอร์กันแล้วกับ XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป หรือก็คือโมโตครอสไฟฟ้าจากทางบริษัท EMX Powertrain บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนา วิศวกรรม สร้างระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารวมไปถึงยานยนต์ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์โลกในยุคใหม่ ยุคที่น้ำมันกำลังแพงหูฉี่ จากพิษของสงครามรัสเซีย-ยูเครนในตอนนี้ แถมล่าสุดยังซ้ำร้ายที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ระดับท็อป ๆ ของโลกที่เกาหลีใต้ดันระเบิดซะอีก หลังจากทุ่มเทการพัฒนากว่า 2 ปี ในที่สุดทาง EMX Powertrain ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดให้จับจองเจ้า XF30 โมโตครอสไฟฟ้าของทางค่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้แบบสาแก่ใจสายลุย ทั้งยังมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัยพร้อมกับความตื่นเต้นเร้าใจที่คุณจะได้จากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่แน่นอนว่าจี๊ดจ๊าดทันใจ แต่ก็ไม่มีไอเสียให้อากาศเป็นพิษ ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 30 กิโลวัตต์ที่สามารถรีดกำลังที่ล้อหลังคิดคำนวณออกมาได้มากถึง 40 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลมากถึง 720 นิวตันเมตร วางลงบนเฟรมแบบบีมคู่อลูมิเนียมและเลือกใช้ระบบกันสะเทือนจาก KYB ระบบเบรกจาก Nissin ล้อซี่ลวดจาก Excel ซึ่งช่วงล่างดังกล่าวน่าจะทำให้ผู้ขับขี่ในสายทางวิบากนี้ทำความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ซึ่งในส่วนของแชสซีนั้นมี Yamaha เป็นซัพพลายเออร์ให้ นอกจากนี้ตัวรถยังมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัย ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เองก็ถูกสร้างมาเพื่อให้สามารถตอบสนองกับสไตล์การขับขี่โมโตครอสที่ต้องการพละกำลังแบบตลอดเวลา ซึ่งสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 2.5 ชม. (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้งาน) และใช้ชาร์จจนเต็มเพียง 1.5 ชม.เท่านั้น ข้อดีของเจ้านี่ที่เป็นรถไฟฟ้าคือไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ทำให้คุณสามารถขับขี่มันได้มากเท่าที่ต้องการ ทั้งยังขับขี่ง่ายด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 115 กก.แม้ว่าจะรวมแบตเตอรี่แล้วก็ตาม สุดท้ายนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดายสักเล็กน้อยเพราะล็อตแรกที่พร้อมจะส่งมอบในปี 2023 จะมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน อันมีสาเหตุมาจากการผลิตด้วยมืออย่างปราณีตเสียเป็นส่วนใหญ่ และจะจำหน่ายในสหภาพยุโรป อิสราเอล นอร์เวย์ ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษเท่านั้น โดยจำหน่ายในราคา 18,750 ยูโร หรือราว ๆ 680,000 บาท ดูแล้วอาจจะแพง แต่ข้อดีของคันนี้ก็อย่างที่บอกมีชิ้นส่วนที่ต้องใช้แล้วหมดไปหรือสึกหรอน้อยกว่ารถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้เมื่อใช้ไประยะยาวแล้วจะมีความคุ้มค่ามากขึ้น อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่ รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

ราคาและสเปครถยนต์

No Posts Found!

No Posts Found!