
กลายเป็นข่าวใหญ่ส่งท้ายปี 2568 เมื่อค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีอย่าง BMW ได้ทำการยื่นจดสิทธิบัตรชิ้นส่วนเล็กๆ ที่อาจส่งผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อเจ้าของรถทั่วโลก นั่นคือ “สกรูดีไซน์พิเศษ” ที่นำเอาสัญลักษณ์ Roundel หรือโลโก้ใบพัดฟ้าขาวอันเป็นเอกลักษณ์ มาออกแบบเป็นหัวสกรูสำหรับยึดส่วนประกอบต่างๆ ของตัวรถ
ดีไซน์ที่เหนือชั้น หรือกับดักของศูนย์บริการ?
ตามรายละเอียดในสิทธิบัตรที่ถูกเปิดเผยโดยสื่อต่างประเทศอย่าง CarBuzz และ Autoblog ระบุว่า สกรูรุ่นใหม่นี้จะไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเฉพาะ (Proprietary Fasteners) โดยหัวสกรูจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วนตามลายโลโก้ ซึ่งจะมีเพียง 2 ส่วนเท่านั้นที่เป็นร่องลึก (Recessed) เพื่อให้เครื่องมือพิเศษสอดเข้าไปไขได้ ส่วนอีก 2 ส่วนที่เหลือจะถูกปล่อยให้เรียบเสมอหน้าสัมผัส หรือบางรุ่นอาจจะนูนขึ้นมา
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ “เครื่องมือช่างพื้นฐาน” ไม่ว่าจะเป็นไขควงแฉก, ประแจหกเหลี่ยม หรือแม้แต่หัว Torx ที่นิยมใช้ในรถยุโรป จะไม่สามารถจับหรือไขสกรูชนิดนี้ได้เลย หากไม่มี “บล็อกหัวสกรู” ที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องหมายการค้าของ BMW โดยเฉพาะ

เหตุผลด้านความปลอดภัย vs สิทธิในการซ่อมแซม (Right to Repair)
ในเอกสารสิทธิบัตร BMW ให้เหตุผลว่า การใช้สกรูลักษณะนี้จะช่วยป้องกัน “บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต” (Unauthorized persons) เข้าไปทำการคลายหรือขันสกรูในจุดที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของโครงสร้างรถ เช่น จุดยึดเบาะนั่ง หรือชิ้นส่วนในห้องโดยสารที่มองเห็นได้ชัดเจน หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามันจะมีความปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ได้จุดชนวนการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในกลุ่มผู้ใช้รถและสมาคมช่างอิสระ เพราะนี่ถือเป็นการขัดขวาง Right to Repair หรือสิทธิในการซ่อมแซมของผู้บริโภคอย่างชัดเจน การที่เจ้าของรถไม่สามารถขันน็อตเพียงตัวเดียวในรถของตัวเองได้โดยไม่มีเครื่องมือจากศูนย์บริการ อาจหมายถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงขึ้น และการผูกขาดบริการหลังการขายในระยะยาว
บทสรุปและทิศทางในอนาคต
แม้ว่าการจดสิทธิบัตรจะไม่ได้หมายความว่า BMW Roundel จะนำน็อตลักษณะนี้มาใช้กับรถทุกรุ่นในทันที แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับผู้ที่ชอบดูแลรถด้วยตัวเอง (DIY) ท่ามกลางยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เริ่มมีความซับซ้อนของระบบซอฟต์แวร์ที่ยากจะแก้ไขเองอยู่แล้ว หากแม้แต่ “ฮาร์ดแวร์” อย่างสกรูก็ยังถูกล็อกไว้อีกชั้น อนาคตของการซ่อมรถโดยอู่นอกอาจจะเข้าสู่ยุคที่ยากลำบากยิ่งขึ้น
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)
อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์อื่นๆ คลิกที่นี่

