ผ่านเวลาราว ๆ ปีเต็มกับการเผยโฉมครั้งแรกของซูเปอร์ไบค์สายพันธ์อิตาลีจากค่ายดูคาติอย่าง Ducati Panigale V4 เวอร์ชันปี 2025 ที่พัฒนาปรับปรุงสำคัญหลายจุดให้กลายเป็นสุดยอดรถซูเปอร์ไบค์ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา แต่ในขณะเดียวกันทางค่ายก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์เล็กน้อย ๆ สำหรับการเปิดตัว “รถโปรดักท์ชันที่สุดมากกว่า” อย่าง Ducati Panigale V4R 2026 รถซูปเปอร์ไบค์ในเวอร์ชันรหัส R ที่ให้อะไรที่พิเศษมากกว่า 

Ducati Panigale V4R 2026 ดีไซน์

รูปลักษณ์การดีไซน์ภายนอกอาจดูไม่แตกต่างกับรุ่นมาตรฐานมากนัก แต่ถ้าหากลองสังเกตุดี ๆ สิ่งที่แบรนด์ปรับเปลี่ยนมาให้ก็คือ ชุดอลูมิเนียมตัวถังพร้อมลวดลายในลักษณะลวดลาย Rosso Ducati ที่อัปเดตในรถดูคาติรุ่นพิเศษสิ่งสำคัญต่อมาก็คือชิ้นส่วนแอโรไดนามิกตรงบริเวณแฟริ่งด้านข้างหรือ Corner Sidepods ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากสนามแข่งที่จะช่วยเสริมแรงกดอากาศในทางโค้ง ให้สามารถแบนรถในวงแคบและเลี้ยวคมมากยิ่งขึ้น รวมกับการออกแบบในส่วนอื่น ๆ เช่นวิงก์เล็ตด้านหน้า ด้านท้ายและชิลด์

ด้านโครงสร้างตัวถังจะใช้เฟรมแตกต่างจาก VR4 ในรุ่นก่อน ๆ โดยออกแบบให้ลดความแข็งด้านข้างลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของฟีลลิ่งการยึดเกาะและตอบสนองในโค้ง จับคู่กับสวิงอาร์มคู่ซึ่งถือเป็นการผสมผสานของสุดยอดแอโรไดนามิกและโครงสร้างตัวรถเข้าด้วยกัน บวกกับรายละเอียดชิ้นงานในส่วนอื่น ๆ อาทิ ลัคคี้นัมเบอร์บริเวณแผงคอ เบาะ และคลัตช์ใสซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์รถดูคาติ

Panigale V4R 2026 เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ Desmosedici Stradale V4 90 องศาขนาด 998 ซีซี มาพร้อมลูกสูบที่เบากว่าเดิม (-5.1%) ซึ่งจะช่วยลดแรงเฉื่อยกระทำต่อลูกสูบ และเพลาข้อเหวี่ยงใหม่มีโมเมนตัมการหมุนเพิ่มขึ้น ติด Dry Clutch หรือคลัตช์แห้งที่มีน้ำหนักเบากว่าดูคาติ V4 รุ่นอื่นราว ๆ 800 กรัม

ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ระบบวาล์ว Desmodromic 4 วาล์วต่อลูกสูบ ให้พละกำลังแรงม้า 218 แรงม้าที่ 15,750 รอบ แรงบิด 114.5 นิวตันเมตรที่ 12,000 รอบ (อัปชุดคิตทั้งท่อ + น้ำมันเครื่องจะสามารถรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 239 แรงม้า เรดไลน์ที่ 16,000 รอบ) มาพร้อมระบบเกียร์ 6 สปีดเกรดแข่งขัน (DRG) ปรับเกียร์ว่างไว้ใต้เกียร์หนึ่งซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นอื่นที่วางเกียร์ N ไว้ระหว่าง 1 และ 2 ควิกชิฟเตอร์สองทาง คันเร่งไฟฟ้ามาพร้อมโหมดการขับขี่และผ่านมาตรฐาน Euro5+ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 300 กม./ชม.

ช่วงล่าง

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นโช้ค Ohlins NPX แบบหัวกลับขนาดแกน 43 มม. ปรับอัตโนมัติเต็มระบบทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชันเช่นกัน โช้คหลัง Ohlins TTX36 ปรับได้เต็มระบบเช่นกัน ติดระบบเบรกดิสก์คู่แบบเซมิโฟลทติ้งหน้าขนาด 330 มม. ปั้ม Brembo Hypure รุ่นใหม่ขนาด 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 มม. ปั้ม 2 ลูกสูบ โดยพ่วงมาพร้อมระบบเบรกในโค้งหรือ Cornering ABS ใช้ล้อดีไซน์ 5 ด้านและยาง Pirelli Diablo Supercorsa SP V4 หน้า 120/70 หลัง 200/60 และล้ออลูมิเนียมฟอร์จขนาดเท่ากัน 17 นิ้ว

ระบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะใช้พื้นฐานเดียวกันกับรุ่นมาตรฐาน ทั้ง IMU 6 แกน ระบบ Riding Mode, Power Mode, ระบบสไลด์คอนโทรล แทร็คชันคอนโทรล Wheelie Control ระบบช่วยออกตัว ระบบเอ็นจิ้นเบรกและเบรกฉุกเฉิน และจอ TFT 6.9 นิ้ว

เปิดราคาเริ่มต้น 43,990 ยูโร หรือประมาณราว ๆ 1.6 ล้านบาท (งานประกอบอิตาลีหากนำเข้าก็ราว ๆ 3 ล้านบาท) กับสุดยอดซูเปอร์ไบค์เวอร์ชัน WSBK พร้อมพละกำลัง 239 แรงม้า ชุดแอโร่ช่วงล่าง และระบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มระบบ รุ่น V4R คือคำตอบ แต่จะมาไทยหรือไม่ เราก็มาลุ้นคำตอบกันว่าดีลเลอร์หลักเจ้าใหม่ในไทย จะใจปล้ำทำตามคำร้องของแฟน ๆ หรือไม่ ?

สเปคตัวรถ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก