ฮอนด้า เปิดตัว โมเดลรุ่นใหม่ CB1000GT
Honda จัดทัพไลน์อัพครั้งใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ระดับโกลบอล EICMA 2025 เปิดตัวโมเดลรุ่นใหม่ซึ่งเป็นตัวไฮไลท์หลักสำคัญของงานเลยก็ว่าได้ กับ Honda CB1000GT สปอร์ตทัวเรอร์คลาสพันซีซี ที่มีการปรับจูนในเรื่องของเครื่องยนต์โดยใช้พื้นฐานมาจากรุ่น Hornet หรือรถเน็กเก็ดไบค์จากทางค่าย ผสมผสานกับโครงสร้างและการออกแบบในลักษณะของรถสปอร์ตทัวริ่งรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์จากข้อมูลข่าวลือของต่างประเทศ สำหรับเจ้า CB1000GT มาพร้อมพื้นฐานเครื่องยนต์แบบสี่สูบเรียงขนาด 1,000 ซีซี แบบเดียวกับโฉมเน็กเก็ดของทางค่ายในรุ่น Hornet และแน่นอนว่าเรื่องกำลังทั้งหมดทั้งมวลทางแบรนด์ได้พัฒนาขุมพลังมาจากต้นเนิดในรุ่น CBR1000RR-R FireBlade หรือซูเปอร์ไบค์รุ่นชูโรงจากทางค่ายนั่นเอง โดยมีพละกำลังแรงม้าทั้งหมด 149.69 แรงม้าที่ 11,000 รอบ แรงบิด 102 นิวตันเมตรที่ 8,750 รอบ เคลมท็อปสปีดให้มาถึง 200 กม./ชม. มีน้ำหนักตัวรถรวมที่ 229 กก.
ติดตั้งระบบ Ride by Wire ระบบ IMU 6 แกน ควบคุมระบบต่าง ๆ ในตัวรถทั้งครูซคอนโทรล โหมดการขับขี่ 5 โหมด (Standard, Sport, Rain, Tour และ User) ระบบเอ็นจิ้นเบรก พาวเวอร์โหมด และแทร็คชันปรับได้ถึง 3 ระดับแมปปิ้งตามโหมดขับขี่ แอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้มากมายทั้ง หน้าจอ TFT สามารถเชื่อมต่อข้อมูลผ่านแอป Honda RoadSync และช่องชาร์จ USB-C
ภายใต้โครงสร้างแบบเดียวกับรุ่น Hornet ซึ่งใช้ไดมอนด์สตีลเฟรมเป็นโครงสร้างหลัก พร้อมซับเฟรมเสริมท้าย ในส่วนจีโอเมตริกปรับให้ดูเชปเพื่อการควบคุมและให้ท่านั่งขับขี่ที่สะดวกสบายกว่ารุ่นไหน ๆ พร้อมช่วงล่างปรับไฟฟ้าด้วยโช้คอัพจาก Showa และด้านหลังเช่นเดียวกัน (รุ่นโปรลิงค์) ใช้คาลิเปอร์เบรกเรเดียลเม้าท์ 4 ลูกสูบ จับคู่กับจานดิสก์ขนาด 310 มม.ด้านหน้าและด้านหลังเป็นขนาด 240 มม. ประกบคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ อีกทั้งยังเสริมด้วยระบบความปลอดภัยอย่าง Cornering ABS มาให้เต็มระบบ รวมถึงขนาดไซส์ล้อและยางด้านหน้า 120/70-17 ด้านหลัง 180/55-17
สำหรับเรื่องดีไซน์ภายนอกอาจจะดูคล้ายคลึงโฉม CBR1000RR-R ซูเปอร์ไบค์รุ่นชูโรงของค่าย แต่ปรับเสริมเติมแต่งนิดหน่อย หน้าเชิดขึ้นเหลาแก้มให้คม สวมชิลด์ขนาดใหญ่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ บอดี้ตัวถังออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เบาะ 2 ตอน และกิมมิกเล็กน้อยสำหรับการ์ดแฮนด์ให้ดูลุยมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นสปอร์ตทัวเรอร์อีกหนึ่งรุ่นที่มีสมรรถนะรองรับสายเดินทางที่ชื่นชอบความสปอร์ตไม่น้อยทีเดียว
![]() |
![]() |
โดยเปิดตัวมาทั้งหมด 3 สี ประกอบไปด้วย สีแดง-ดำ Red Grand Prix, สีเทา และสีดำ และพร้อมคอนเฟิร์มเปิดตัวขายในไทยในช่วงต้นปีอย่างแน่นอนครับ ไหนมีใครเห็นแล้วอยากได้เจ้าโมเดลรุ่นนี้กันบ้าง ? สามารถชมข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
| เครื่องยนต์ | 4 สูบเรียง |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,000 ซีซี |
| แรงม้า (เคลม) | 149.69 แรงม้าที่ 11,000 รอบ |
| แรงบิด (เคลม) | 102 นิวตันเมตรที่ 8,750 รอบ |
| ระบบวาล์ว | DOHC 4 วาล์วต่อสูบ |
| ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 76 x 55.1 มม. |
| อัตราส่วนการอัด | 11.7 : 1 |
| ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
| ระบบจุดระเบิด | อิเล็กทรอนิกส์ |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดไฟฟ้า |
| ระบบสตาร์ท | สตาร์ทมือ |
| ระบบคลัตซ์ | คลัตช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกัน |
| ขนาดยางและล้อหน้า | 120/70-17 |
| ขนาดยางและล้อหลัง | 180/55-17 |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คหัวกลับปรับไฟฟ้า (พรีโหลด) |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | โช้คเดี่ยวปรับไฟฟ้า (พรีโหลด) |
| เบรกหน้า | ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ Nissin (ABS) |
| เบรกหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มม. (ABS) |
| กว้าง X ยาว X สูง | 930 x 2,135 x 1,290 มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,465 มม. |
| ระยะห่างจากพื้นตัวรถ | 135 มม. |
| ความสูงเบาะ | 825 มม. |
| น้ำหนักตัวรถ | 229 กก. |
| ความจุถังน้ำมัน | 21 ลิตร |
| ประเภทของน้ำมันที่เติมได้ | NA |
| เทคโนโลยี |
|





