
Kawasaki ประกาศเปิดตัวไลน์อัพโมเดลรุ่นปี 2026 ในเซ็กเมนต์สปอร์ตไบค์ ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมมาเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงเป็นโฉมโปรดักท์ชันคลาสซูเปอร์สปอร์ตขนาดกลางอย่าง Kawasaki ZX6R ปี 2026 ที่มาพร้อมการปรับปรุงซึ่งมิใช่เพียง All New สติ๊กเกอร์สีใหม่อีกต่อไป แต่คราวนี้กลับอัปเกรดในเรื่องเทคโนโลยีช่วยเหลือขับขี่ติดตั้งรองรับความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
Kawasaki ZX6R ปี 2026 กับการปรับปรุงครั้งใหม่
สำหรับการมาของเจ้า Kawasaki ZX-6R ปี 2026 ซูเปอร์สปอร์ตไซส์กลางกับรูปลักษณ์ยังคงให้กลิ่นอายคล้ายคลึงรถซูเปอร์ไบค์รุ่นพี่อย่าง ZX-10R เต็มระบบ พร้อมองค์ประกอบสำคัญกับโฉมหน้าใหม่ด้วยไฟหน้าไฮบริดแบบโปรเจกเตอร์ มีวิงก์เล็ตสปอยเลอร์พร้อมช่องแรมแอร์อัดอากาศภายในตัว วินชิลด์ทรงสปอร์ตต้านแรงดันอากาศในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ในขณะที่บอดี้เลเยอร์สัดส่วนต่าง ๆ ยังถูกออกแบบรายละเอียดการดีไซน์ด้วยระบบ 3D Effect สู่รถซูเปอร์สปอร์ตที่ดึงดูดสายตาตั้งแต่หัวจรดท้าย
New Feature
หน้าจอสี TFT 4.3 นิ้ว พร้อมระบบช่วยเหลือขับขี่ พร้อมประเด็นหลักสำคัญกับสิ่งที่อัปเดตมาใหม่ก็คือหน้าจอสี TFT (4.3 นิ้ว) ติดตั้งมาพร้อมโหมดขับขี่ 4 โหมด (Sport, Road, Rain และ Rider) ระบบพาวเวอร์โหมด แทร็คชันคอนโทรล 3 ระดับตามโหมดขับขี่ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ควิกชิฟเตอร์ (Up-Down) และแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตซ์
เครื่องยนต์สี่สูบเรียง 636 ซีซี และบล็อกเครื่องยนต์ปรับมาใช้เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาด 636 ซีซี DOHC 16 วาล์ว ใช้ระบบหัวฉีด และขนาดลิ้นปีกผีเสื้อ 38 มม. เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าสูงสุด 129 แรงม้าที่ 13,000 รอบ แรงบิด 69 นิวตันเมตรที่ 10,800 รอบและติดตั้งถังน้ำมันมาให้ขนาด 17 ลิตร ซึ่งสรุปโดยรวมด้านเครื่องยนต์ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปจากเดิมจากการปรับเปลี่ยนมาใช้บล็อกเครื่อง 636 จากเดิม 599 ซีซีในรุ่นปี 2024
เฉกเช่นเดียวกันกับช่วงล่างที่ให้โช้คอัพจาก Showa SFF-BP ขนาดแกน 41 มม. ปรับคอมเพรสชันและรีบาวด์รวมถึงพรีโหลด ส่วนโช้คอัพหลังใช้เป็นโช้คเดี่ยวปรับได้เต็มระบบเช่นเดียวกัน ติดคาลิเปอร์โมโนบล็อกเรเดียลเม้าท์ขนาด 4 ลูกสูบประกบจานดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 310 มม.แบบ Dual (ระบบ ABS) ปั้มหลังใช้ลูกสูบเดียวติดจาน 220 มม.ใส่ขนาดล้อ 17 นิ้วหน้า-หลังและยางขนาดไซส์ 120/70 และ 180/55 น้ำหนักรวม 198 กก.
![]() |
![]() |
Lime Green | Matallic Matte Graphenesteel Gray |
แม้จะออกมาเพียง 2 สีก็คือสี Lime Green (สีเขียวดั้งเดิม) และสีดำ-เทา เมทัลลิกคาดสีเขียว พร้อมระบบเทคโนโลยีติดตั้งเสริมรองรับการใช้งานทั่วไป แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะระดับการแข่งขันบนสนามแข่งอย่างที่ใคร ๆ รู้กัน สำหรับการเข้ามาขายในไทยก็อาจมีลุ้นในช่วงปีหน้า สำหรับปีนี้ยังมีรุ่นปี 2025 จำหน่ายในราคา 399,000 บาท ที่ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายคาวาซากิ ประเทศไทย
สำหรับฟีดแบคโดยรวมจากแฟน ๆ ถือว่าค่อนข้างไปในหลากหลายทางอาทิ อยากให้มี IMU 6 แกนเหมือน CBR600RR ระบบ Ride by Wire วิลลี่คอนโทรลหรือบางรายอาจจะชอบฟีลเครื่องยนต์ 599 ซีซีที่ให้เสียงจี๊ดโดนใจมากกว่า (อ่านคอมเม้นต์เพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่ ) ใครอ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงก็ลองคอมเม้นต์มาได้