ในโลกของการแข่งขัน MotoGP หากจะพูดถึงนักบิดที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ ชื่อของ “วาเลนติโน รอสซี” (Valentino Rossi) และ “มาร์ค มาร์เกซ” (Marc Marquez) มักจะถูกยกมาเปรียบเทียบกันเสมอ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในปี 2568 ประเด็นนี้ถูกจุดชนวนขึ้นอีกครั้งโดย “อันเดรีย เอียนโนเน” นักบิดชื่อดังที่ออกมาให้ความเห็นเชิงวิจารณ์ที่อาจทำให้แฟนคลับของมาร์เกซต้องมีเคือง อีกทั้งยังเหมือนเป็นการปลุกกระแส มาร์ค มาร์เกซ vs วาเลนติโน รอสซี อีกด้วย
ฝีมือระดับเทพ แต่เสน่ห์ยังตามหลัง
อันเดรีย เอียนโนเน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงมุมมองที่มีต่อนักแข่งรุ่นน้องอย่าง มาร์ค มาร์เกซ โดยเขายอมรับอย่างเต็มปากว่า มาร์เกซคือนักแข่งที่มีศักยภาพสูงที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โลกเคยมีมา ทั้งความกล้าหาญ การควบคุมรถ และเทคนิคการแซงที่ดุดัน แต่เอียนโนเนกลับมองว่ามาร์เกซยังขาด “บางอย่าง” ที่สำคัญมากในแง่ของภาพลักษณ์สาธารณะ
เขาระบุว่า มาร์เกซเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ถูกสร้างมาเพื่อชัยชนะ แต่ขาดมนต์เสน่ห์ (Charisma) ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ วาเลนติโน รอสซี มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม “รอสซีเปลี่ยนจากกีฬาแข่งรถให้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม เขาทำให้คนที่ไม่ดูรถแข่งหันมาเชียร์เขาได้ นั่นคือสิ่งที่มาร์เกซทำไม่ได้แม้จะมีแชมป์กี่สมัยก็ตาม” เอียนโนเนกล่าว
“ไม่มีใครสงสัยในพรสวรรค์ของเขา และไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นนักบิดที่รวดเร็ว”
“แต่เขาไม่ใช่นักบิดคนโปรดของผม เพราะผมชอบ [เควิน] ชวานซ์ หรือ [มาร์โก] ลุคคิเนลลี มากกว่า — นักบิดที่มีทั้งมนต์เสน่ห์ คาแรกเตอร์ และคาริสม่า ไม่ใช่แค่ทักษะในการขี่เท่านั้น
“ผมนึกถึงตัวอย่างอย่าง วาเลนติโน รอสซี มาร์คไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันนั้น”
ปี 2025 กับความพยายามกอบกู้สถานะ
![]() |
![]() |
ปัจจุบันในฤดูกาล 2025 มาร์ค มาร์เกซ กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับการย้ายมาร่วมทีมโรงงานอย่าง Ducati ซึ่งถือเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดในยุคนี้ เอียนโนเนมองว่าแม้การคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 9 อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากด้วยศักยภาพของรถและฝีมือของมาร์เกซ แต่นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่าเขาชนะด้วย “เครื่องมือ” และ “ฝีมือ” เท่านั้น
“ต่อให้มาร์เกซจะชนะอีกกี่สนาม หรือได้แชมป์โลกแซงหน้ารอสซีไปได้ในเชิงตัวเลข แต่มันจะไม่เกิดการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่เหมือนตอนที่รอสซีคว้าชัย” นี่คือคำพูดที่ดุดันจากเอียนโนเนที่มองว่า บารมี (Legacy) ไม่ได้สร้างกันได้เพียงแค่การกดเวลาให้เร็วที่สุดในรอบควอลิฟาย
การเปรียบเทียบข้ามยุค: บารมีที่สร้างไม่ได้ด้วยตัวเลข
หากมองย้อนกลับไปในช่วงพีคของ วาเลนติโน รอสซี เราจะเห็นอัฒจันทร์ที่กลายเป็นสีเหลืองทั่วโลก ซึ่งเอียนโนเนชี้ให้เห็นว่านั่นไม่ใช่แค่เรื่องของการชนะการแข่งขัน แต่มันคือการสร้างบุคลิกที่ทำให้คนเข้าถึงได้ ความขี้เล่น และสตอรี่การต่อสู้ที่ครองใจแฟนคลับ
ในขณะที่ มาร์ค มาร์เกซ มักจะถูกจดจำในฐานะนักแข่งที่ “ทำทุกอย่างเพื่อชนะ” จนบางครั้งถูกมองว่าขาดน้ำใจนักกีฬาในสายตาของแฟนคลับฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะเหตุการณ์ดราม่าในอดีตที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2015 ซึ่งยังคงเป็นตราบาปที่ทำให้เขาไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงความเกลียดชังของแฟนคลับบางกลุ่มได้จนถึงปัจจุบัน
บทสรุปของสถานะตำนาน
การออกมาวิจารณ์ของเอียนโนเนในครั้งนี้เป็นการจุดประเด็นเรื่อง Greatness Of All Time (GOAT) ว่าแท้จริงแล้ววัดกันที่อะไร? ระหว่างสถิติบนกระดาษกับความศรัทธาของผู้คน สำหรับแฟนคลับมาร์เกซ ความเห็นของเอียนโนเนอาจถูกมองว่าเป็นเพียงความคิดเห็นของนักแข่งที่อิจฉาในความสำเร็จ แต่สำหรับมุมมองของคนกลาง นี่คือการตั้งคำถามที่น่าสนใจว่า มาร์ค มาร์เกซ จะสามารถสลัดภาพลักษณ์เครื่องจักรสังหารบนแทร็ก เพื่อก้าวขึ้นมาเป็น “ขวัญใจมหาชน” ได้จริงๆ หรือไม่ในบั้นปลายอาชีพ
ท้ายที่สุดแล้ว ในสายตาของเอียนโนเน มาร์เกซอาจเป็นนักบิดที่เก่งที่สุด (The Best Driver) แต่ วาเลนติโน รอสซี คือตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (The Greatest Legend) ซึ่งเป็นสองสถานะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่แล้วการวัดกันระหว่าง มาร์ค มาร์เกซ vs วาเลนติโน รอสซี คงอยู่ในใจของแต่ละคนแล้วว่าชอบทางไหน
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)
อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์อื่นๆ คลิกที่นี่





