SuperBikeMag.Com ข่าวมอเตอร์ไซค์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV ใหม่สเปกเรเดียลเพื่อรถสปอร์ตไม่เกิน 400 cc

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

ล่าสุดทางค่ายยางชั้นนำระดับโลกแบรนด์ตัว P ยาวหรือ Pirelli เปิดตัว Diablo Rosso IV ยางเรเดียลตัวใหม่สำหรับสปอร์ตคลาสไม่เกิน 400 ซีซี พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้สื่อได้ทดสอบในสนาม Mandalika International Street Circuit ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากจบศึกการแข่ง WorldSBK สนามที่ 11 ไปหมาด ๆ เรียกว่าได้ลองขี่ไลน์เดียวกันกับนักแข่งระดับโลกเลยล่ะครับ

เท้าความกันก่อน

Rosso Sport

Rosso III

เดิมทีแล้วยางของทางพีเรลลี่ที่รองรับรถสปอร์ตหรือเน็กเก็ดในคลาสไม่เกิน 400 ซีซีนั้นจะมีอยู่สองตัว คือ Diablo Rosso Sport (ยางแบบครอสพลาย) และ Diablo Rosso III (ยางเรเดียล) ซึ่งก็จะมีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ตอนนี้ก็จะมีเจ้า Rosso IV ในแบบเรท H (H-Rated) ที่สามารถรองรับความเร็วได้สูงถึง 210 กม./ชม. เหมาะกับรถพิกัดไม่เกิน 400 ซีซีนั่นเอง โดยก่อนหน้านี้รอสโซ่โฟร์นั้นจะมีแต่ยางไซส์ใหญ่ ๆ เรท ZR (ZR-Rated) ซึ่งเป็นเรทสูงสุดรองรับความเร็วได้เกิน 300 กม./ชม. หรือพูดกันง่าย ๆ คือเป็นยางสำหรับบิ๊กไบค์ระดับซูเปอร์สปอร์ต หรือระดับซูเปอร์ไบค์ขึ้นไปนั่นเอง

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

สังเกตเรทสปีดบริเวณที่วงไว้ (ยางหน้า)

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV
สังเกตเรทสปีดบริเวณที่วงไว้ (ยางหลัง)

ทั้งนี้ยาง Rosso IV ในแบบเรท H จะแตกต่างกับเรท ZR ตรงในส่วนของโครงสร้างคือใช้เส้นใยสังเคราะห์วางแบบ 0 องศากับหน้ายาง แทนที่จะเป็นใยเหล็กซึ่งวัสดุยางหลังนั้นจะช่วยให้รองรับความเร็วได้มากกว่า 210 กม./ชม. ทว่าก็จะมีข้อดีคือมีน้ำหนักเบากว่าและยืดหยุ่นได้มากกว่าแบบโครงสร้างใยเหล็ก ซึ่งจะเหมาะสมกับรถในพิกัด 125 – 400 ซีซีอย่างยิ่ง

ต่างกับ Rosso III ยังไง

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

สำหรับยาง Rosso IV H-Rated นั้นจะแตกต่างจาก Rosso III ในหลายจุดด้วยกัน ก่อนอื่นเลยที่เห็นได้ชัดคือลายดอกยาง แม้ว่าจะมีลายแฟลช หรือลายสายฟ้าอยู่เหมือนกัน แต่องศาของลายสายฟ้าก็ต่างกัน รวมไปถึงร่องรีดน้ำที่ไหล่ยางก็ต่างกัน หลัก ๆ คือเป็นผลมาจากการออกแบบให้มีอัตราส่วนของหน้าสัมผัสยางเทียบกับร่องดอกยางบริเวณไหล่ยางมากขึ้น 30% (ทั้งยางหน้าและยางหลัง) ซึ่งมีผลดีต่อการยึดเกาะในโค้ง แต่ต้องแลกมากับประสิทธิภาพการรีดน้ำที่ไหล่ยางทำได้น้อยลง ทว่ามันจะมีคนบ้าที่ไหนที่จะเอารถไปแบนโค้งตอนฝนตกหรือถนนเปียกกันล่ะ?

จุดต่อมาคือเรื่องของคอมปาวด์ของยางหรือเนื้อยางนั่นเอง โดยตัวยาง H-Rated บริเวณหน้าสัมผัสยางจะมีเนื้อยางแบบคอมปาวด์เดียวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งจะเป็นเนื้อคาร์บอนแบล็กที่มีส่วนผสมของซิลิก้าจำนวนมาก และที่แก้มยางก็จะใช้เนื้อยางเป็นคอมปาวด์พิเศษที่จะช่วยเพิ่มความเสถียรหรือความนิ่งเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูง ๆ อีกด้วย

จุดสุดท้ายคือโปรไฟล์ของยาง ยาง Rosso IV H-Rated จะมีความสูงมากกว่าเล็กน้อย ทำให้พลิกรถได้ไว ทั้งยังมีไหล่ยางที่แบนกว่าช่วยให้การยึดเกาะและรักษาไลน์ในโค้งที่ดี

ทดสอบจริง

แน่นอนว่าเราได้ทำการทดสอบยาง Diablo Rosso IV H-Rate ในสนาม Mandalika International Street Circuit แห่งนี้ด้วย โดยตัวสนามมีความยาว 4.313 กิโลเมตร ซึ่งมีจุดเบรกหนักไม่กี่โค้ง ส่วนมากจะเป็นโค้งความเร็วสูง จากการได้ลองทดลองขับขี่ทดสอบสำหรับรถพิกัด 250-400 นั้นสามารถเปิดคันเร่งยาว ๆ ลากรอบขึ้นเรซไลน์เข้าโค้งได้เลย

ตัวยางนั้นให้การตอบสนองได้ยอดเยี่ยม จนลืมว่า นี่คือยางสำหรับขี่ถนนไม่ใช่ยางสนาม เวลาจะปิดคันเร่งเพื่อเปลี่ยนทิศทาง ยางก็สามารถพาได้ได้ตามจุดที่มองเรียกว่าแม่นยำ และยังสามารถกระแทกคันเร่ง 100% ก่อนจุดเอเป็กซ์ของโค้งโดยที่ยางไม่มีการเสียอาการใด ๆ ปิด-เปิดคันเร่งได้ต่อเนื่องรอบสนาม

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

ในโค้งหักศอกความเร็วต่ำ ที่ต้องเบรกหนักและเชนเกียร์จากเกียร์ 6 ลงมา 2 เพื่อให้ท้ายสไลด์ออก ก็ทำได้โดยที่ยางไม่มีอาการส่ายหรือลื่น ขณะเบรกหนัก ๆ ยางหน้าก็แข็ง จิกพื้นอยู่ ไม่ไหล ภาพรวมคือสามารถขี่แทร็กและคุมไลน์การขี่ได้แม่นยำตั้งแต่แล็ปแรก ๆ ยัน จนเซสชัน ถือว่าเป็นยางที่ขี่สนุก แต่ต้องย้ำอีกครั้งว่านี่คือยางสำหรับขี่ถนน แต่ก็สามารถเอามาสนุกกับแทร็กเดย์ แต่จะสนุกกว่าถ้าใช้ยางให้ตรงกับจุดประสงค์ที่แท้จริง

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบา ช่วยให้เร่งได้ดีขึ้น ขับขี่ได้ดีขึ้น
  • โปรไฟล์ยางสูง ช่วยให้พลิกรถได้ง่ายและรวดเร็วฉับไว
  • หน้าสัมผัสบริเวณไหล่ยางมากขึ้น เพิ่มการยึดเกาะและความมั่นใจเวลาเข้าโค้ง
  • เร่งออกจากโค้งได้เร็วขึ้น
  • ระยะเบรกสั้นลง
  • ให้ความนิ่งเสถียรเวลามากขึ้นเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูง
  • ลายดอกยางใหม่ช่วยให้มีการสึกหรอที่สม่ำเสมอกันตลอดทั้งยาง

จุดด้อย

  • ราคาแพงขึ้น
  • เหมาะสำหรับคนที่ขับขี่แบบสปอร์ตหรือชอบเล่นโค้งมากกว่า
  • อาจจะทำให้เกิดอาการเหวอได้สำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่คุ้นเคย

ไซส์ยางที่จะมีจำหน่าย

    • ยางหน้า 110/70 R 17 M/C 54H TL
    • ยางหลัง 140/70 R 17 M/C 66H TL
    • ยางหลัง 150/60 R 17 M/C 66H TL

อ่านรีวิวยางตัวอื่นที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Admin Superbike

บทความยอดนิยม

ข่าวล่าสุด

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV ใหม่สเปกเรเดียลเพื่อรถสปอร์ตไม่เกิน 400 cc

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV ใหม่สเปกเรเดียลเพื่อรถสปอร์ตไม่เกิน 400 cc

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

ล่าสุดทางค่ายยางชั้นนำระดับโลกแบรนด์ตัว P ยาวหรือ Pirelli เปิดตัว Diablo Rosso IV ยางเรเดียลตัวใหม่สำหรับสปอร์ตคลาสไม่เกิน 400 ซีซี พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้สื่อได้ทดสอบในสนาม Mandalika International Street Circuit ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังจากจบศึกการแข่ง WorldSBK สนามที่ 11 ไปหมาด ๆ เรียกว่าได้ลองขี่ไลน์เดียวกันกับนักแข่งระดับโลกเลยล่ะครับ

เท้าความกันก่อน

Rosso Sport

Rosso III

เดิมทีแล้วยางของทางพีเรลลี่ที่รองรับรถสปอร์ตหรือเน็กเก็ดในคลาสไม่เกิน 400 ซีซีนั้นจะมีอยู่สองตัว คือ Diablo Rosso Sport (ยางแบบครอสพลาย) และ Diablo Rosso III (ยางเรเดียล) ซึ่งก็จะมีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ตอนนี้ก็จะมีเจ้า Rosso IV ในแบบเรท H (H-Rated) ที่สามารถรองรับความเร็วได้สูงถึง 210 กม./ชม. เหมาะกับรถพิกัดไม่เกิน 400 ซีซีนั่นเอง โดยก่อนหน้านี้รอสโซ่โฟร์นั้นจะมีแต่ยางไซส์ใหญ่ ๆ เรท ZR (ZR-Rated) ซึ่งเป็นเรทสูงสุดรองรับความเร็วได้เกิน 300 กม./ชม. หรือพูดกันง่าย ๆ คือเป็นยางสำหรับบิ๊กไบค์ระดับซูเปอร์สปอร์ต หรือระดับซูเปอร์ไบค์ขึ้นไปนั่นเอง

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

สังเกตเรทสปีดบริเวณที่วงไว้ (ยางหน้า)

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV
สังเกตเรทสปีดบริเวณที่วงไว้ (ยางหลัง)

ทั้งนี้ยาง Rosso IV ในแบบเรท H จะแตกต่างกับเรท ZR ตรงในส่วนของโครงสร้างคือใช้เส้นใยสังเคราะห์วางแบบ 0 องศากับหน้ายาง แทนที่จะเป็นใยเหล็กซึ่งวัสดุยางหลังนั้นจะช่วยให้รองรับความเร็วได้มากกว่า 210 กม./ชม. ทว่าก็จะมีข้อดีคือมีน้ำหนักเบากว่าและยืดหยุ่นได้มากกว่าแบบโครงสร้างใยเหล็ก ซึ่งจะเหมาะสมกับรถในพิกัด 125 – 400 ซีซีอย่างยิ่ง

ต่างกับ Rosso III ยังไง

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

สำหรับยาง Rosso IV H-Rated นั้นจะแตกต่างจาก Rosso III ในหลายจุดด้วยกัน ก่อนอื่นเลยที่เห็นได้ชัดคือลายดอกยาง แม้ว่าจะมีลายแฟลช หรือลายสายฟ้าอยู่เหมือนกัน แต่องศาของลายสายฟ้าก็ต่างกัน รวมไปถึงร่องรีดน้ำที่ไหล่ยางก็ต่างกัน หลัก ๆ คือเป็นผลมาจากการออกแบบให้มีอัตราส่วนของหน้าสัมผัสยางเทียบกับร่องดอกยางบริเวณไหล่ยางมากขึ้น 30% (ทั้งยางหน้าและยางหลัง) ซึ่งมีผลดีต่อการยึดเกาะในโค้ง แต่ต้องแลกมากับประสิทธิภาพการรีดน้ำที่ไหล่ยางทำได้น้อยลง ทว่ามันจะมีคนบ้าที่ไหนที่จะเอารถไปแบนโค้งตอนฝนตกหรือถนนเปียกกันล่ะ?

จุดต่อมาคือเรื่องของคอมปาวด์ของยางหรือเนื้อยางนั่นเอง โดยตัวยาง H-Rated บริเวณหน้าสัมผัสยางจะมีเนื้อยางแบบคอมปาวด์เดียวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งจะเป็นเนื้อคาร์บอนแบล็กที่มีส่วนผสมของซิลิก้าจำนวนมาก และที่แก้มยางก็จะใช้เนื้อยางเป็นคอมปาวด์พิเศษที่จะช่วยเพิ่มความเสถียรหรือความนิ่งเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูง ๆ อีกด้วย

จุดสุดท้ายคือโปรไฟล์ของยาง ยาง Rosso IV H-Rated จะมีความสูงมากกว่าเล็กน้อย ทำให้พลิกรถได้ไว ทั้งยังมีไหล่ยางที่แบนกว่าช่วยให้การยึดเกาะและรักษาไลน์ในโค้งที่ดี

ทดสอบจริง

แน่นอนว่าเราได้ทำการทดสอบยาง Diablo Rosso IV H-Rate ในสนาม Mandalika International Street Circuit แห่งนี้ด้วย โดยตัวสนามมีความยาว 4.313 กิโลเมตร ซึ่งมีจุดเบรกหนักไม่กี่โค้ง ส่วนมากจะเป็นโค้งความเร็วสูง จากการได้ลองทดลองขับขี่ทดสอบสำหรับรถพิกัด 250-400 นั้นสามารถเปิดคันเร่งยาว ๆ ลากรอบขึ้นเรซไลน์เข้าโค้งได้เลย

ตัวยางนั้นให้การตอบสนองได้ยอดเยี่ยม จนลืมว่า นี่คือยางสำหรับขี่ถนนไม่ใช่ยางสนาม เวลาจะปิดคันเร่งเพื่อเปลี่ยนทิศทาง ยางก็สามารถพาได้ได้ตามจุดที่มองเรียกว่าแม่นยำ และยังสามารถกระแทกคันเร่ง 100% ก่อนจุดเอเป็กซ์ของโค้งโดยที่ยางไม่มีการเสียอาการใด ๆ ปิด-เปิดคันเร่งได้ต่อเนื่องรอบสนาม

Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

ในโค้งหักศอกความเร็วต่ำ ที่ต้องเบรกหนักและเชนเกียร์จากเกียร์ 6 ลงมา 2 เพื่อให้ท้ายสไลด์ออก ก็ทำได้โดยที่ยางไม่มีอาการส่ายหรือลื่น ขณะเบรกหนัก ๆ ยางหน้าก็แข็ง จิกพื้นอยู่ ไม่ไหล ภาพรวมคือสามารถขี่แทร็กและคุมไลน์การขี่ได้แม่นยำตั้งแต่แล็ปแรก ๆ ยัน จนเซสชัน ถือว่าเป็นยางที่ขี่สนุก แต่ต้องย้ำอีกครั้งว่านี่คือยางสำหรับขี่ถนน แต่ก็สามารถเอามาสนุกกับแทร็กเดย์ แต่จะสนุกกว่าถ้าใช้ยางให้ตรงกับจุดประสงค์ที่แท้จริง

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบา ช่วยให้เร่งได้ดีขึ้น ขับขี่ได้ดีขึ้น
  • โปรไฟล์ยางสูง ช่วยให้พลิกรถได้ง่ายและรวดเร็วฉับไว
  • หน้าสัมผัสบริเวณไหล่ยางมากขึ้น เพิ่มการยึดเกาะและความมั่นใจเวลาเข้าโค้ง
  • เร่งออกจากโค้งได้เร็วขึ้น
  • ระยะเบรกสั้นลง
  • ให้ความนิ่งเสถียรเวลามากขึ้นเวลาขับขี่ที่ความเร็วสูง
  • ลายดอกยางใหม่ช่วยให้มีการสึกหรอที่สม่ำเสมอกันตลอดทั้งยาง

จุดด้อย

  • ราคาแพงขึ้น
  • เหมาะสำหรับคนที่ขับขี่แบบสปอร์ตหรือชอบเล่นโค้งมากกว่า
  • อาจจะทำให้เกิดอาการเหวอได้สำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่คุ้นเคย

ไซส์ยางที่จะมีจำหน่าย

    • ยางหน้า 110/70 R 17 M/C 54H TL
    • ยางหลัง 140/70 R 17 M/C 66H TL
    • ยางหลัง 150/60 R 17 M/C 66H TL

อ่านรีวิวยางตัวอื่นที่นี่

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก Pirelli พัฒนา Diablo Rosso IV

Share It:

Admin Superbike

ข่าวล่าสุด

บทความยอดนิยม

Superbike Mag Thailand