Royal Enfield Classic650 พร้อมพาทดสอบครั้งแรก
พร้อมที่จะสร้างเรื่องราวสุดพิเศษไปพร้อมกัน กับการมาร่วมทดสอบขับขี่ รีวิว Royal Enfield Classic 650 ซึ่งหลังเปิดตัวไปเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางแบรนด์ RE ก็จัดกิจกรรมให้สื่อได้มาสัมผัสตัวเป็นๆ บนรูทเส้นทางธรรมชาติที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา กับบรรยากาศที่ต้องเกริ่นก่อนว่าเหมือนพาเจ้าคลาสสิกเดินทางย้อนเวลาสู่ยุคช่วงศตวรรษที่ 19 ไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว
สืบทอดจากตำนานรถคลาสสิกแห่งยุคโบราณอย่าง Royal Enfield Bullet ส่งต่อผ่านรายละเอียดมายังรุ่นหลัง ๆ และรุ่น Classic เช่นเดียวกันที่ได้ริเริ่มทำการตลาดในไทยด้วยรถตระกูล J-Series รุ่น Classic 350 ในปี 2021 และต่อยอดในรุ่น 650 กับรถสองสูบในปี 2025 โดยอาศัยแพลตฟอร์มเครื่องยนต์และเมนเฟรมแบบเดียวกับเจ้า Super Metoer และ Shotgun ผสานเครื่องยนต์สูบคู่ขนาด 648 ซีซี เครมตัวเลขสเปคแรงม้า 46.4 แรงม้า ที่ 7,250 รอบ และแรงบิด 52.3 นิวตันเมตร ที่ 5,650 รอบ
การดีไซน์ยังคงให้ความสวยงามเอกลักษณ์ตามฉบับ RE โดยสิ่งที่ชื่นชอบและทางแบรนด์ทำออกมาได้ดีเลยก็คือ วัสดุการออกแบบทุกชิ้นล้วนเป็นงานพรีเมียม ตั้งแต่โคมไฟหน้ายันบังโคลนหลัง เป็นรูปลักษณ์งานแรร์น่าจับต้องซื้อเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรุ่นโครเมียมที่ส่วนตัวได้ขับขี่ทดสอบ ซึ่งนอกจากจะเห็นความสวยงามเหมือนสาวลูกครึ่งในสเปคที่ตัวเองชอบแล้ว ตัวรถยังโดดเด่นดูเงาสะท้อนวิบวับ ต่อให้มองระยะไกล 300 เมตร ก็ยังรู้ว่าเป็นคลาสสิก 650 รุ่นนี้ มันจ้าซะเหลือเกิน..
Royal Enfield Classic 650 ดีไซน์องค์รวม
ไฟทรงกลม พร้อมกรอบไฟหน้า มีไฟหรี่ด้านข้าง | |
ตัวถังทรงหยดน้ำ กับลวดลายงานเพ้นท์ฝีมือจากช่างมากประสบการณ์จากทาง RE | |
เบาะตอนเดียวขนาดใหญ่ ตัวรถรองรับติดตั้งเบาะคนซ้อน | |
ท่อคู่แบบ Peashooter |
ตัวรถมาในสไตล์เรโทรย้อนยุค ไฟกลมด้านหน้าติดครอบสั้น ไฟหรี่ด้านข้าง ตัวถังทรงหยดน้ำเป็นลักษณะงานเพนต์โดยช่างมากประสบการณ์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ ที่ประดับผลงานลงลวดลายตัวถังดูมีความขลัง สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบวกกับเบาะชิ้นเดียวในแบบคลาสสิกและบังโคลนหลังขนาดใหญ่ แต่ถ้าจะติดเป็นเบาะหลังก็สามารถทำได้ แล้วแต่คนเลือก อ๊ะ..อีกส่วนหนึ่งที่ชื่นชอบเลย ท่อไอเสียทรง Peashhooter ในลักษณะท่อคู่สไตล์คลาสสิกและเนื้องานเป็นโลหะอลูมิเนียมชุบโครเมียม ซึ่งดูโดยรวมสวยงามทั้งคันแล้วเสมือนเพชรเม็ดงามรุ่นโบราณร้อยปีอะไรแบบนั้นก็ว่าได้
มิติท่านั่ง
โดยรูทเส้นทางขับขี่คือ ขี่ขึ้นยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเช็คอินที่อ่างเก็บน้ำสายศรแล้ววนกลับมายังโรงแรม รวมระยะราว ๆ กว่า 150 กม. สำหรับคาแรคเตอร์ที่ทางแบรนด์ได้ตั้งใจออกแบบให้แตกต่างไปจากคาแรคเตอร์ของเจ้า Interceptor / Shotgun / Super Metoer อีกนัยความหมายก็คือ รถเครื่องเดียวกันแต่คลาสสิกคนละแบบ อันนี้คลาสสิกมาก อันนี้คลาสสิกน้อย อันนี้คลาสสิ๊กกคลาสสิก เอ๊ะ.. ?
และเพื่อให้เทียบได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางผู้จัดก็ได้นำเจ้า Interceptor และรุ่น Shotgun มาให้สัมผัสภายในกิจกรรม ซึ่งแอดมินก็ไม่พลาดที่จะลองเพราะอยากรู้ฟีลความต่าง เผื่อใครจะได้แยกแยะตอนตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้น แถมได้รถตรงสเปคกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเองอีกด้วยครับ
- Interceptor 650 : มาแนวคลาสสิกจ๋า ๆ จะใช้เฟรมคนละตัวกับ 2 รุ่นบวกกับแฮนด์ตรงยกเยื้องเล็กน้อย พร้อมระยะกว้างให้ฟีลลิ่งการขับขี่มั่นคง เน้นโชว์รูปลักษณ์ความหล่อ ความคลาสสิกเฮอร์ริเทจ
- Shotgun 650 : รุ่นนี้อาจถูกใจวัยรุ่น หรือสายที่ชื่นชอบความคล่องตัว สายเพอร์ฟอร์มฯ เลี้ยวง่าย สนุก เพราะใช้เฟรมตัวใหม่ เบาะ แฮนด์ระยะไม่กว้างมากนัก เหมาะกับการขี่แฮนด์เดอริ่งในแบบ Cafe Racer และน้ำหนักเบากว่ารุ่นอื่น ๆ ด้วยวัสดุการออกแบบ
- Classic 650 : รุ่นนี้จะเน้นไปทางคลาสสิกพรีเมียม + ทัวริ่ง ใช้เฟรมตัวเดียวกันกับรุ่น Shotgun และ Super Metoer ระยะแฮนด์ให้มาดี บวกบอดี้ที่ดูกำยำ วัสดุแต่ละชิ้นดูมีความพรีเมียม ดูแพง จึงเป็นรถที่เหมาะกับการขับขี่ออกทริปทางไกลเป็นอย่างยิ่ง
การแฮนด์เดอริ่ง
อย่างกล่าวมาก็คือ การใช้เฟรมสันกลางแบบท่อเหล็กแบบเดียวกันกับรุ่น Shotgun โดยตัวเฟรมนั้นมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และน้ำหนักเบากว่าเมื่อเทียบกับเฟรมเปลคู่ (หุ้มเครื่อง) โดยพัฒนามาใหม่เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สนุกเพลิดเพลินไปกับความคล่องตัว การเลี้ยวซึ่งทำให้รับรู้ได้ว่า เออ รถคันนี้มันขี่สนุกแถมซับแรงกระแทกได้ดี ส่วนท่านั่งขับขี่จะค่อนข้างให้กลิ่นความเป็นรถทัวริ่งนิด ๆ แขนกว้าง หลังตรง องศาตั้งฉาก เป็นคลาสสิกที่แฮนด์เดอริ่งที่สนุกอีกคันหนึ่งทีเดียว
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์สองสูบ Pararell Twin ขนาด 648 ซีซี ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้ซุ้มเสียงทุ้มไพเพราะเหมือนเจ้า 350 แต่อัดแน่นยิ่งกว่า ตัวเครื่องให้ความสมูท มีกำลังแรงบิดตั้งแต่รอบต่ำ แนะนำสำหรับช่วงออกตัวหรือเดินเบาให้ดึงหน้าแอ็คหล่อได้เลยครับ เพราะรถมันสวย คลาสสิก เสียงเพราะ ประมาณฟีลหนุ่มอินดี้มาดเซอร์ สะอาด เทสดี..ใคร ๆ ก็มองอยู่แล้ว
อาการต่อมาที่พบเจอก็คือเครื่องแอบสั่น ค่อนข้างสังเกตได้ชัดช่วงรอบราว ๆ 5,500 – 6,000 rpm จะมีอาการสั่นที่สัมผัสได้ หลังจากนั้นจะกลับมาเป็นปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ถือเป็นเรื่องปกติของเครื่อง Parallel Twin 270 ซึ่งไม่ต้องตกตระหนักไป
ความเร็วปลายถือว่าทำได้ดีจนน่าแปลกใจ ปกติรถทรงคลาสสิกหรือเรเซอร์ เรโทร คาแรคเตอร์ไม่ได้ออกแบบทำมาให้เร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เจ้ารุ่นนี้ทำให้ฟีลลิ่งนั้นดูแต่ต่างกันออกไป มันเป็นรถคลาสสิกที่สามารถปะทะลมได้ไม่แพ้รถเน็กเก็ดทีเดียว (ฮ่าๆ) รอบปลายมีให้เล่นได้สนุกสปีดเร่งปลายที่ขี่ได้ก็ราว ๆ 150 ปลาย ๆ และยังไหลไปต่อได้ แต่อย่างว่าหล่ะครับรถคลาสสิกกับความเร็วเท่านี้มันก็สนุกเกินคาดแล้วจริงๆ
ช่วงล่างโช้คหน้าเป็นแกนใหญ่แบบหัวกลับ โช้คหลังสปริงคู่ จุดนี้ขอชื่นชมเพราะเขาพัฒนาร่วมกันปรับมาใช้เป็นโช้คจากแบรนด์ Showa (ต่อจากรุ่น Shotgunแล้ว) และสามารถปรับแต่งตัวสปริงได้ ซึ่งองค์ประกอบ 3 อย่างทั้ง เฟรม ช่วงล่าง น้ำหนัก พอเวลาเติมคันเร่งในโค้งทำให้ฟีลลิ่งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ย้วยเหมือนรถคลาสสิกรุ่นอื่น ๆ ที่ขี่มา ถือว่าทำมาได้ดีในจุดนี้ ล้อซี่ลวด 19 หลัง 18 นิ้ว ยางให้เป็นแบรนด์ MRF จากอินเดีย พร้อมกับระบบเบรก ABS Dual Channal และช่องชาร์จไฟ USB-C ซึ่งเป็นระบบจำเป็นสำหรับบิ๊กไบค์ในยุคใหม่แล้วนั่นเอง
ข้อดี
- ดีไซน์คลาสสิก สวยงาม วัสดุแท้ทั้งคัน
- บอดี้กำยำ นั่งขี่สบาย เลี้ยวโค้งง่าย
- เครื่องยนต์รอบปลาย ไปไกลได้เกินคาดแถมปรับช่วงล่างมาใหม่ ขี่สนุกขึ้น
ข้อสังเกตุ
- เครื่องสั่น ขึ้นก้น ขึ้นมือ เป็นเฉพาะช่วงรอบพีค
- น้ำหนักอาจไม่เอื้อต่อคนแรงน้อย ต้องอาศัยเทคนิคมาช่วย
- ระบบเทคโนโลยีอาจไม่มีเยอะเหมือนแบรนด์อื่น ๆ เช่น แทร็คชัน ซึ่งอาจเป็นความตั้งใจที่จะคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้
- ไม่ปลอดภัยสำหรับคนขี่ที่ใส่ขาสั้นหรือสวมรองเท้าแตะ แคร้งแท้..ร้อนแน่นอน
ข้อมูล สเปค ราคา Royal Enfield Classic 650 Twin คลิ๊กที่นี่
ใครที่อยากได้คลาสสิกแท้ ๆ รุ่น 650 จาก RE ดีไซน์สวยงามซึ่งมี 2 รุ่นให้เลือกกับ Standard และ Chrome ในราคาค่าตัวเริ่มต้น 2.5 แสน ทอน 100 ขับขี่แล้วรู้สึกเป็นลุคคุณชายหรือตัวเอกละครทีวี เครื่องยนต์ เฟรม ช่วงล่างออกแบบให้ขี่สนุก เหมาะกับสไตล์การเดินทางแถมดูหล่อ ก็ลองเลือกเป็นข้อพิจารณาหรือลองไปทดสอบขับขี่ได้ที่ศูนย์บริการตัวแทนจำหน่าย รอยัล เอ็นฟีลด์ ทั่วประเทศ