Super Cub 125X ผลงานสุดแหวกจากการร่วมมือของ Honda อิตาลีและ MAAN Motocicli Audaci
หลังจากที่ทาง Honda ในยุโรปเปิดตัว Super Cub C125 2022 ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งแบบ 2 ตอนพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ฮอนด้า อิตาลี ก็ได้ไว้วางใจให้สำนักแต่งอย่าง Motocicli Audaci จาก Cagliari ได้ทำการคัสตอมโมเดลใหม่นี้ในแบบที่สนุกยิ่งกว่าที่เคย
โดยมี Nicola Manca รับผิดชอบออกแบบและประสานงานทั่วไป ขณะที่ Matteo Murgia ที่มีชื่อเรื่องผลงานกราฟิกมากมาย โดยมีพื้นฐานการตัดต่อตกแต่งรถของ Honda ให้กลายเป็นโมเดลที่น่าสนใจมากมายอาทิ Tokyo Legend, Rebel Mask และ Crazy Monkey
เป้าหมายของพวกเขาคือปรับคาแรกเตอร์ใหม่ให้กับรถ โดยให้มีความพอดิบพอดี ไม่มากจนเกินไป และการเปลี่ยนแปลงจะต้องไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับโครงสร้างของตัวรถ แต่ก็ต้องปรับเปลี่ยนส่วนระบบกันสะเทือนและหน้าตาภายนอกอยู่หลายกระบวนท่า
Super Cub 125X ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นั้นยังมีหลายชิ้นส่วนที่ยังคงเดิม อาทิไฟหน้า LED แต่ก็มีจุดเด่นใหม่เพิ่มเติมเข้ามา เช่นเบาะนั่งแบบ 2 ตอน ตอนนี้ก็ถูกปรับเป็นเบาะหนังอัลคันทาราและเรียวมากขึ้น บังโคลนหน้าเองก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสไตล์ของรถมากขึ้น
บังโคลนท้ายแบบตูดเป็ดก็เป็นงานโลหะคัสตอมจากทาง Serri Motorsport ซึ่งมีไฟท้าย LED อยู่ในตัว มีครอบดิสก์พลาสติกที่ออกแบบผ่านโปรแกรม CAD และพิมพ์แบบ 3 มิติออกมาจากทาง FabLab NAT14 ช่วยเสริมภาพลักษณ์ลุยๆ แบบเอ็นดูโร่ได้มากยิ่งขึ้นแถมยังกลมกลืนลงตัวกับครอบโช้คหน้าอีกด้วย
ในส่วนของระบบกันสะเทือนนั้นเป็นทาง Andreani Group ดูแลให้ มี Fabrizio Corda จาก Powermoto ทำหน้าที่ปรับแต่งให้เหมาะกับรถคันนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถที่จะขับขี่แบบออฟโร้ดได้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีระยะห่างระหว่างตัวรถถึงพื้นที่เหมาะสมด้วย การเซ็ตอัพครั้งนี้ทำให้มีระยะเพิ่มมากขึ้นถึง 40 ม.ม.
อีกจุดนึงที่เด่นมากๆ คือท่อไอเสียพร้อมกับการ์ดที่ใช้ชิ้นส่วนด้านข้างตัวรถให้เป็นประโยชน์ โดยเลือกใช้คาร์บอนมาทำตรงการ์ดปลายท่อซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามแต่ยังใช้งานได้จริง โดยเป็นผลงานจากทาง Il Sarto dei Metals
ล้อนั้นถูกทำสีขึ้นใหม่เป็นสีดำดูดุดันไม่กลัวเลอะ พร้อมกับใส่ยางหนามที่มีขนาดพอเหมาะเข้ากับรถมากขึ้น
ทั้งนี้รถเกือบทั้งคันใช้ของที่ทำขึ้นใน Sardinia และออกแบบมาให้สามารถลุยบนเส้นทางวิบากกว่า 500 กม.ของการแข่งขัน Dust’n Sardinia ได้อีกด้วย โดยการแข่งขันนี้จัดขึ้นโดย Audax1000 และยังเป็นสเตจแรกของการแข่งขันรายการ FMI Scrambler Trophy อีกด้วย แน่นอนว่าเจ้าคันนี้จะไปโชว์ในงานนี้ด้วย และหลังจากนั้นก็จะไปโชว์ตัวต่อใน EICMA อีกด้วยครับ