ทดสอบ Grand Filano Hybrid น้ำมันถังเดียวเที่ยวเมืองเหน่อไหวมั้ยไปดู
วันนี้เราได้ภารกิจ ทดสอบ Grand Filano Hybrid ว่าจะประหยัดน้ำมันแค่ไหน สมกับที่คุยไว้หรือเปล่า งานนี้เราก็จะเลยไปเที่ยวเมืองเหน่อกัน โดยมีโจทย์ว่าใช้น้ำมันแค่ถังเดียวเท่านั้น ไปกลับได้มั้ย จะรอดหรือเปล่า ไปติดตามกันครับ
เราเริ่มเดินทางจากกรุงเทพ จุดเริ่มต้นของเรา ตั้งต้นกันที่ปั๊มน้ำมันปตท. วิภาวดีรังสิต ที่อยู่บริเวณกระทรวงพลังงานเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 เต็มถังก่อนเริ่มการเดินทางครั้งนี้เพื่อให้ได้ตัวเลขการใช้น้ำมันและอัตราสิ้นเปลืองที่แม่นยำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยเราตั้งจุดหมายปลายทางของเราไว้ที่อุทยานมังกรสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเราวัดกิโลเมตรจาก Google Map ไป-กลับ กินระยะทางโดยประมาณ 200 กิโลเมตร และเราก็คิดว่า แกรนด์ฟิลาโน่ไฮบริด ใช้ความเร็วขับขี่ใช้งานแบบปกติ จะสามารถไปกลับได้ เราก็เลยอยากจะชาเลนจ์กันดูหน่อยว่า 1 ถัง ไปกลับได้ไหม มาลุ้นกันหน่อย
เราเริ่มเดินทางรีเซ็ตทริปที่หน้าจอเรือนไมล์ TFT สุดสวยและมองเห็นได้ชัดเจนของเจ้าแกรนด์คันนี้ไว้ที่ 0 กิโลเมตรเพื่อบันทึกระยะทาง แล้วจึงออกเดินทางมุ่งหน้าถนนวิภาวดี ตัดเข้าแคราย แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าสุพรรณบุรี เป็นเส้นทางที่ตรงมาก ทำให้คันเร่งของเราตึงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเหลือบมองหน้าเรือนไมล์ท็อปสปีดสูงสุดได้ถึง 111 กิโลเมตร/ชั่วโมง (สำหรับตัวผมที่ตัวใหญ่หน่อย คนอื่นก็น่าจะไปได้มากกว่านี้)
ซึ่งนั่นกลายเป็นปัญหาแรก ที่เราเจอ คือ เห็นทางตรงยาว ๆ แล้วอดใจไม่ได้บิดหมดปลอก ทำให้เราสูญเสียน้ำมันมากขึ้น แต่ก็คือสภาพความเป็นจริง เผื่อใครอยากออกทริป เราก็จะพิสูจน์ให้ตรงนี้เลยว่าคันนี้ รุ่นนี้ไปได้จริง ๆ มั้ย ซึ่งเมื่อเราเดินทางมาถึง อุทยานมังกรสวรรค์แล้วเรียบร้อย ระยะทางที่วิ่งมาได้จากหน้าไมล์บอกเราว่าคือ 102 กิโลเมตร และเกจน้ำมันลงมาอยู่ที่ครึ่งถัง แต่นี่ก็เป็นแค่เพียงครึ่งทางเท่านั้น เรายังต้องเดินทางกลับกันต่อ…
ทั้งนี้สุพรรณบุรีเป็นอีก 1 จังหวัดที่มีสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัด อุทยาน บึงฉวาก และอื่น ๆ อีกมากมาย ระยะทางก็ไม่ไกล ใช้เวลาไม่นานมากถ้าเดินทางจากกรุงเทพมหานคร เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็น วันเดย์ทริปง่าย ๆ ของชาวไบค์เกอร์ที่จะมาท่องเที่ยวจังหวัดนี้ อยากให้มาลองเที่ยวที่นี้กันดู
บ่ายแล้วกลับดีกว่า ซดก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ไปคนละ 2-3 ชาม อิ่มได้ที่ก็พร้อมตั้งตัวเตรียมกลับกรุงเทพก่อนฝนตก ท้องฟ้าเริ่มมืดมัว เสี่ยงจะต้องตากฝน เดี๋ยวจะพาลทำให้ภารกิจไม่สำเร็จเอาในวันนี้ จึงเริ่มเดินทางกลับ แต่ขากลับเราขับด้วยความเร็วที่ช้าลงกว่าขามา ยืนพื้นอยู่ที่ 80 – 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือบมองหน้าจอเรือนไมล์ TFT แสดงอัตราบริโภคน้ำมันแบบเรียลไทม์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดูง่าย เด่นดี บิดเท่าไรกินเท่านั้น ถือว่าทำให้เรามองและสามารถคาดคะเนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้แบบคร่าว ๆ ได้ทันที
เส้นทางขากลับเรายังคงเป็นทางเดิม คือวิ่งเส้นทางหลวงหมายเลข 304 บางบัวทอง ตัดเข้าเส้นกรุงเทพ-นนท์ และวิ่งเข้ารัชโยธิน วิภาวดีรังสิต ถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อย ระยะทางรวม 214 กิโลเมตร กรุงเทพ – สุพรรณบุรี – กรุงเทพ แบบวันเดย์ทริป น้ำมันยังเหลือในถัง ทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ดี แต่จะดีไปกว่านั้น เราลองเติมน้ำมันเต็มถังใน ปั๊มเดิม หัวจ่ายเดิม เติมให้หัวจ่ายตัดพอ
ผลสรุปการเดินทางครั้งนี้ เราใช้น้ำมันในการเดินทางไปทั้งหมด 3.967 ลิตร คิดเป็นเงินทั้งหมด 150 บาท เท่ากับว่า 1 ลิตร สามารถวิ่งได้ 53.5 กิโลเมตร ถือว่าใช้งานออกทริปก็ประหยัดอยู่เหมือนกันนะเนี่ย ถือว่าเครื่องบลูคอร์ไฮบริด 125 ซีซีให้สมรรถเยี่ยมจริง ๆ ทางเคลมมาว่า 62.5 กม./ลิตร แต่เราเอามายิงยาว ๆ ตัวเลขก็ยังสูงอยู่ ถือว่าทำได้ดีไม่ผิดหวัง
แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว มันก็มีองค์ประกอบมากมายที่เป็นตัวแปรทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันเปลี่ยนไป น้ำหนักผู้ขับขี่ การเดินคันเร่ง สภาพอากาศ สภาพถนน ก็อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ แต่วันนี้เราได้ทดสอบกันแบบใช้งานจริง ก็ทำให้รู้ว่า New Grand Filano Hybrid ไปกลับสุพรรณบุรีได้ด้วยน้ำมันถังเดียว ถึงแม้จะเป็นรถสกู๊ตเตอร์ไซส์เล็กที่มีจุดประสงค์หลักสำหรับใช้งานในเมือง ก็สามารถนำมาใช้ออกทริปเดินทางได้อย่างสบาย ๆ วางแผนดี ๆ เที่ยวได้สบายแน่นอนครับ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ Stop & Start II System ระบบไฟ LED ดีไซน์สวยงามทั้งยังให้ทัศนวิสัยที่ดี ช่องเก็บของขนาดใหญ่ 27 ลิตรพร้อมไฟส่องสว่างแบบ LED ช่องจ่ายไฟสำรอง ระบบกุญแจรีโมท (เฉพาะรุ่น ABS) และช่องเติมน้ำมันด้านหน้า
สุดท้ายนี้ใครที่ยังไม่รู้ราคาก็บอกตรงนี้เลยครับ เริ่มต้นที่ 63,700 บาท สำหรับรุ่นสแตนดาร์ดที่มาระบบเบรก UBS และรุ่น ABS ราคาแนะนำที่ 68,200 บาท ครับ