ไขความลับ !? Honda Scoopy สกู๊ตเตอร์ไซส์เล็ก ยอดขายไม่เล็กตาม ?

Honda Scoopy รถสกู๊ตเตอร์ไซส์มินิจากค่าย ‘ปีกนก’ Honda อีกหนึ่งโมเดลของทางค่ายที่เรียกได้ว่าครองตลาดรถสกู๊ตเตอร์ในพิกัดเครื่องยนต์ไม่เกิน 110 ซีซีมาอย่างยาวนาน อีกทั้งในตลาดรถจักรยานยนต์ในเมืองไทยที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งในด้านของราคา เทคโนโลยี รวมไปถึงการดีไซน์ออกแบบเพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคได้เลือกใช้ตามไลฟ์สไตล์ และความต้องการ แต่เจ้าของฉายา ‘ท้ายฮายา’ ก็สามารถสู้กับตลาดได้อย่างสบาย แล้วอะไรคือเบื้องหลังของความสำเร็จของโมเดลนี้
ก่อนที่จะไปเริ่มในเรื่องของเบื้องหลังความสำเร็จของโมเดลนี้ เดี๋ยวจะพาผู้อ่านทุกท่านไปทราบถึงประวัติของโมเดลนี้กันอย่างพอสังเขป เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทราบว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร มาตั้งแต่ตอนไหน และเริ่มทำตลาดในประเทศไทยมาเป็นระยะกี่ปีแล้ว
Honda Scoopy รถสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กจากค่ายฮอนด้า ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แนวเรโทร-โมเดิร์น (Retro-Modern) เริ่มเปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009 (ปี พ.ศ 2552) หรือย้อนไปเมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว เน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรือคนเมืองที่ต้องการความคล่องตัว และสไตล์ในการขับขี่ อีกทั้งยังมีการออกแบบดีไซน์หน้าตาให้เข้าถึงวัยรุ่น จึงอาจจะเป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำให้โมเดลนี้ขายดี แต่แท้จริงแล้วมันยังมีเหตุผลนัยอื่นอีก ดังนี้
ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ‘น่ารักแต่ไม่เด็ก’

การเปิดตัวของโมเดลนี้ไม่ใช่เป็นการเปิดตัวแต่รถจักรยานยนต์ แต่มันคือการแฝงไปด้วยความเป็น ‘แฟชั่นไอเทม’ ที่มีการสื่อถึงตัวตนของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน ด้วยเส้นสายตัวถังโค้งมน สไตล์เรโทรผสมโมเดิร์น ทำให้ตัวรถดูน่ารัก ทันสมัย และเข้ากับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่มองหารถเล็ก ๆ ใช้งานง่าย
อีกทั้งความพิเศษของรถจักรยานยนต์โมเดลนี้คือการ ‘คอลแลปส์’ หรือจับมือกับแบรนด์กีฬา สินค้า หรือการ์ตูนต่าง ๆ ทำให้ Scoopy ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือสไตล์ที่ขี่ได้จริง
ใช้งานง่าย วิ่งได้ทุกวัน
แน่นอนว่าการที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงที่รถติด ๆ หรือพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด หากใช้รถคันใหญ่ ๆ ก็อาจจะไม่ค่อยสะดวก และคล่องตัวเท่าที่ควร และหนึ่งใน ‘ข้อได้เปรียบ’ ที่ Scoopy ได้รับความนิยมสูงก็คือ ‘ความคล่องตัว’
ด้วยน้ำหนักรถเบาเพียงประมาณ 95 กิโลกรัม (รวมของเหลว) ก็ทำให้มือใหม่ หรือผู้หญิงสามารถขับได้ง่าย ขนาดตัวรถกะทัดรัดทำให้เลี้ยวง่าย เข้าโค้งสะดวก มุดซอกซอยในเมืองได้ดีเยี่ยม มุดช่องระหว่างรถ หรือวิ่งเข้าซอยต่าง ๆ ก็ทำได้อย่างไม่ติดขัด
ประหยัดน้ำมันยืนหนึ่ง

จุดเด่นนี้อาจจะเป็นจุดเด่นหลักของรถจักรยานยนต์ไซส์เล็ก อีกทั้งโมเดลนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ eSP ขนาดเครื่องยนต์ 110 ซีซี มาพร้อมกับระบบการจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดแบบ PGM-FI จึงทำให้เจ้า ‘สกู๊ปปี้’ เป็นหนึ่งในรถที่ประหยัดน้ำมัน และทางค่ายก็เคลมไว้ว่าสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 60 กม./ลิตร
ประหยัดจนขนาดที่ว่าเติมน้ำมันเพียงแค่ 50-60 บาทก็สามารถวิ่งได้หลายวัน น่าจะถูกใจกลุ่มที่ใช้รถขับไปเรียน ไปทำงาน หรือใช้ในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยีเกินตัว

ในช่วงก่อนหน้านี้อาจจะ 5-10 ปีก่อนหน้า เรื่องของเทคโนโลยีบนรถจักรยานยนต์อาจจะไม่เป็นที่หวือหวามากนัก ความคล่องตัว ดีไซน์การออกแบบ และเรื่องของการประหยัดน้ำมันอาจจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้โมเดลนี้สามารถติดตลาดได้ในระยะเวลาอันสั้น
![]() |
![]() |
หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอล | ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยระบบกุญแจ Smart Key |
แต่ในปัจจุบันเมื่อการเข้ามาของเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาในชีวิตประจำวัน เจ้าโมเดลนี้ก็ไม่พลาดที่จะได้รับการเสริมเทคโนโลยีเข้ามาบนรถจักรยานยนต์คันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบความปลอดภัยสมาร์ทคีย์แบบรถจักรยานยนต์ระดับไฮเอนด์, ระบบไฟหน้าแบบ Full LED ที่เพิ่มความสว่างชัดทั้งกลางวัน และกลางคืน, มาตรวัดเรือนไมล์แบบดิจิตอลแสดงข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ครบครัน, ช่องชาร์จไฟแบบ USB สำหรับการชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ และพื่นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สามารถใส่หมวกกันน็อค หรือสัมภาระต่าง ๆ ได้สบาย
ค่ายฮอนด้า อะไหล่เพียบ..
เรื่องนี้อาจจะเป็นนัยแฝงที่มีส่วนให้รถโมเดลนี้ขายดี แน่นอนว่าผู้บริโภคทุกคน การจะซื้อรถแต่ละคันความชอบอาจจะมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องที่เถียงไม่ได้ แต่ปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ ถ้านอกจากเรื่องของราคาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘การบริการหลังการขาย’
แน่นอนว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ Honda มักจะอุ่นใจในเรื่องของ ‘การบริการหลังการขาย’ เพราะค่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นค่ายนี้มีศูนย์บริการมากเป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ อะไหล่หาง่าย ไม่ต้องรอนาน และค่าบำรุงรักษาก็ไม่แพง และที่สำคัญแม้รถจะหมดระยะเวลา
ราคาคุ้มค่า ไม่ต้องคิดมาก

หากผู้บริโภคต้องการที่จะควักเงินจำนวนไม่เกิน 60,000 บาทในการื้อรถจักรยานยนต์สักหนึ่งคัน ให้เจ้าสกู๊ปปี้คันนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือก เพราะด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวไปข้างต้น รถที่ให้ทุกอย่างที่คนเมืองต้องการ ทั้งสไตล์ เทคโนโลยี ความประหยัด และการใช้งานง่าย ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้รถคุณภาพดีพร้อมใช้
แม้จะเป็น ‘รถเล็ก’ แต่ Honda Scoopy กลับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากตอบโจทย์ชีวิตคนใช้ได้ครบถ้วน และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ยอดขายของ Scoopy ไม่เคยเล็กเหมือนขนาดตัวรถเลยแม้แต่น้อย
ในยุคที่การขับขี่กลายเป็นเรื่องของแฟชั่น ความคุ้มค่า และความสะดวกสบาย Scoopy จึงยังครองใจผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย และดูเหมือนว่า “แชมป์รถเล็กยอดขายอันดับหนึ่ง” ที่ยากเกินที่ใครจะมาโค่น
สีสันที่วางจำหน่าย Scoopy Urban
โมเดลย่อยเริ่มต้นมาพร้อมกับล้อแบบซี่ลวด สีสันของรุ่นย่อยตัวเริ่มต้นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีชมพู-ขาว และสีเทา-ขาว การสตาร์ทยังคงเป็นระบบกุญแจไขบิด ราคาแนะนำอยู่ที่ 50,600 บาท
![]() |
สีชมพู-ขาว |
![]() |
สีเทา-ขาว |
สีสันที่วางจำหน่าย Scoopy Prestige
เหนือระดับจากรุ่นเริ่มต้นขึ้นมาอีกขั้น สีสันที่ใช้ของตัวรถเน้นไปที่ความเรียบหรู การสตาร์ทยังคงเป็นระบบกุญแจไขบิดเช่นเดียวกับรุ่นเริ่มต้น มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเหลือง, สีดำ-เทา และสีแดง-เทา ราคาแนะนำอยู่ที่ 53,700 บาท
![]() |
สีเหลือง |
![]() |
สีดำ-เทา |
![]() |
สีแดง-เทา |
สีสันที่วางจำหน่าย Scoopy Club12
รุ่นย่อยโฉมท็อปสุดของโมเดลสกู๊ปปี้ สีสันเน้นที่ความทันสมัย มีสไตล์ โดดเด่นด้วยระบบ Honda Smart Key ช่วยให้สตาร์ทรถได้โดยที่ไม่ต้องใช้กุญแจพ่วงมาด้วยการป้องกันการโจรกรรม ราคาแนะนำอยู่ที่ 55,100 บาท
![]() |
สีดำ-เทา |
![]() |
สีน้ำเงิน-เทา |
![]() |
สีแดง-เทา |
![]() |
สีขาว-เทา |
หากสนใจที่อยากมีไว้ประดับบ้าน หรือนำมาใช้ในชีวิตประจำวันสักคัน ก็สามารถไปได้ที่ศูนย์บริการ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่านได้เลย
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก