ยาง Pirelli SCX E0126 ผงาด !
พา Bulega คว้าแฮตทริกที่อิตาลี
โชว์ฟอร์มเจ้าบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับว่าที่แชมป์โลก Nicolo Bulega นักบิดขวัญใจแม่ยกหมายเลข 11 จากทีมโรงงานดูคาติ สามารถคว้าชัยชนะไปแบบเหมา ๆ ในศึก WSBK เฉือนคู่แข่งตุรกีในบ้านอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ด้วยยางหลังโปรโตไทป์ตัวใหม่อย่าง ยาง Pirelli SCX E0126 รุ่นพัฒนายอดฮิตของนักบิดมากมาย รวมถึงเจ้าตัวหมายเลข 11 เองที่สามารถทำแฮตทริกไปได้ในครั้งนี้เช่นกัน
หลังจบการแข่งขันที่สนาม Cremona Circuit ประเทศอิตาลี บูเรก้าสามารถคว้าชัยได้ทั้งสองเรซของวันอาทิตย์ด้วยรอบ Superpole Race และ Race 2 ต่อยอดจากการแข่งขันใน Race 1 ที่เจ้าตัวสามารถคว้าโพเดี้ยมอันดับที่ 1 ได้เช่นกัน โดยทั้งสามเรซการแข่งขัน นักบิดชาวอิตาลีเลือกใช้ยางหน้าสลิก Pirelli Diablo Superbike SC1 มิเดียมคอมปาวด์ และยางหลังรุ่นใหม่ภายใต้ SCX E0126 ซุปเปอร์ซอฟต์คอมปาวด์ เป็นตัวเลือกที่นักบิดเลือกใช้มากที่สุดในการแข่งขันของสนามแห่งนี้
@worldsbk DOUBLE at Cremona! 🏆🏆 #ItalianWorldSBK 🇮🇹 #WorldSBK #motorcycle #motorsport #racing #sportsontiktok
และไม่เพียงชัยชนะที่บูเรก้าสามารถคว้ามันได้ สถิติ Fastest Lap โดยรอบซูเปอร์โพล เรซ ยังสามารถทำเวลาดีที่สุดที่ 1’27.980 นาที ในรอบที่สี่ เร็วกว่าสถิติที่ Danilno Petrucci ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2024 ถึง 3 ใน 10 ทั้งซูเปอร์โพลเรซและ Race 2
Stefano Manzi เหมาโพเดี้ยมคู่ใน WorldSSP
ต่อด้วยไฮไลท์ที่น่าสนใจในรุ่น WorldSSP โดย Stefano Manzi จากยามาฮ่า ที่สามารถคว้าชัยชนะไปได้ทั้งสองเรซการแข่งขัน ซึ่งใช้ยางหน้า SC1 และยางหลัง SCX ส่วนผู้ที่สามารถทำ Fastest Lap ไปได้ก็คือ Jaume Masia ผู้ที่จบโพเดี้ยมอันดับ 3 ในการแข่งขัน ด้วยเวลาดีสุดต่อรอบที่ 1’32.001 นาที ลบสถิติเดิมที่ Yari Montella ทำไปในปี 2024 ด้วยเวลาเร็วขึ้นหนึ่งในสิบวินาที
ยาง SCX E0126 พิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเลือกที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง
ยางหลังรุ่นพัฒนา E0126 ซูเปอร์ซอฟต์ใหม่ เป็นตัวเลือกที่ชนะอีกครั้งทั้งในการแข่งขัน Superpole Race และ Race 2 โดยพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านเวลาต่อรอบ รวมถึงความทนทานและความสม่ำเสมอของฟอร์มการใช้งาน ผลการจับเวลาและความคิดเห็นจากนักแข่งมีความสม่ำเสมออย่างมากทั้งที่สนาม Assen ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรก และที่ Cremona ในครั้งนี้ นี่คือผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่งสำหรับเรา เพราะเป็นการยืนยันอย่างเด็ดขาดว่าแนวทางที่เราเลือกใช้ในโครงสร้างใหม่ของยางนั้นถูกต้อง
โดยสามารถมอบเสถียรภาพและฟีลลิ่งการขับขี่ที่ดีขึ้น และตัวเนื้อยางก็ทนทานแม้ในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างที่ Cremona แน่นอนว่าเราไม่คาดหวังให้ยางรุ่นนี้สามารถทำผลงานได้ดีเท่ากันทุกสนาม เนื่องจากแต่ละสนามมีลักษณะพื้นผิวที่ต่างกันและสภาพอากาศที่หลากหลาย ดังนั้นเราจะยังคงพิจารณาองค์ประกอบของการจัดสรรยางให้เหมาะกับแต่ละสนามอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อเรามีตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพในทุกช่วงความนุ่ม ทั้งแบบซอฟต์, มีเดียม และซุปเปอร์ซอฟต์ ซึ่งช่วยให้เรารองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุม พร้อมส่งมอบสมรรถนะที่เร็ว สม่ำเสมอ และทนทาน
สำหรับรอบการแข่งขันครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ Autodrom Most สาธารณรัฐเช็ก ในวันที่ 16-18 พฤษภาคมนี้ แฟน ๆ ห้ามพลาด
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
 |
 |
