มันเกินเลยที่จะเอ่ยคำว่า “จะสู้ทีมเมทแชมป์โลกได้ไหม” แต่จะเป็น “จะคว้าแชมป์ได้เมื่อไหร่” ซึ่งตอนนี้ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่า marc marquez world championship 2025 ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจบอันดับ 2 ของการแข่งขันในสนามโมเตกิที่ประเทศญี่ปุ่น เก็บคะแนนสะสมรวม 541 แต้ม ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างอเล็กซ์ มาร์เกซ 201 แต้ม ปิดจ็อบคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลเป็นสมัยที่ 7 รวมคว้าแชมป์โลกทั้งหมด 9 สมัย
@motogp A message from the 2025 MotoGP World Champion to the @marcmarquez93 of 2020 🥹 MoreThanANumber
หลังจากครองจ่าฝูงตารางคะแนนรวมในฤดูกาล 2025 กับชัยชนะ 11 สนาม 15 โพเดี้ยม (แข่งขันไปแล้ว 18 จาก 22 สนาม) มาร์ค มาร์เกซ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมดูคาติได้อย่างยิ่งใหญ่แม้จะทำงานร่วมกันเป็นปีแรกก็ตาม ก็นับว่าพิสูจน์ให้เห็นถึงสุดยอดระหว่างฝีมือและตัวแข่งเข้าด้วยกันลงตัว โดยปีนี้ มาร์ค สามารถปิดช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีคะแนนนำอันดับสองของน้องชายอย่างอเล็กซ์ มาร์เกซ และทีมเมทอย่าง เปกโก้ บัญญาญ่า ในอันดับที่ 3
ซึ่งรวมผลงานการคว้าแชมป์โลกของ มาร์ค มาร์เกซ ตามรุ่นปีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ปี | รุ่น | ทีม | ตัวแข่ง |
2010 | 125cc | Red Bull Ajo (Derbi) | Derbi RSA 125 |
2012 | Moto2 | CatalunyaCaixa Repsol | Suter (Moto2 chassis) |
2013 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2014 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2016 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2017 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2018 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2019 | MotoGP | Repsol Honda | Honda RC213V |
2025 | MotoGP | Ducati Lenovo Team | Ducati Desmosedici GP25 |
marc marquez world championship 2025 กับเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ผ่านเวลามา 2,184 วัน ของจุดเริ่มต้นฝันร้ายจากอุบัติเหตุในการแข่งขันเมื่อปี 2020 ที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปน (ช่วงยุคโควิด) ผลคือกระดูกต้นแขนขวาแตกและต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่ทำให้เจ้าตัวพลาดการแข่งขันในปีนั้น บวกกับอาการเรื้อรังและต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2023 ที่คิดว่ามาร์คนั้นน่าจะกลับมาฟิต 100% แล้วแต่ก็ยังไม่วายที่จะ “ล้ม” จนกระดูกมือแตกและต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง ซึ่งแค่นั้นไม่พอหลังจากการผ่านตัดมาร์คยังขี่พลาดล้มอีก จนทำให้เจ้าตัวฉุดคิดว่าสาเหตุหลักนั้นมาจาก “รถ” หรือเป็นที่ “คนขี่” กันแน่
สถานการณ์ความตึงเครียดในทีมยืดเยื้อจนเดือดถึงขีดสุด มาร์ค จึงตัดสินใจยอมทิ้งเงินก้อนโต ย้ายทีมจาก Honda Repsol สู่รั้วบ้านดูคาติ Gresini Racing ร่วมกับอเล็กซ์ มาร์เกซในปี 2024 เพื่อตามล่าฝันแชมป์โลกอีกครั้ง
สละ Honda เข้า Ducati
เข้าสู่จุดพลิกผันเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือในปี 2024 เมื่อ มาร์ค มาร์เกซ สามารถปรับตัวเข้ากับตัวแข่งได้อย่างรวดเร็วกับอันดับที่ 4 ของการแข่งขันที่การ์ตา รวมถึงอันดับ 3 คะแนนรวมในฤดูกาล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังมาร์คมาขี่ตัวแข่งให้กับทีมดูคาติแม้ว่าจะเป็นตัวแข่งสเปครองจากทีมโรงงานก็ตาม
เข้าสู่ทีมโรงงานดูคาติในปี 2025
มีฝีมือไม่พอโชคต้องเข้าข้างด้วย เมื่อเอเนีย บาสเตียนินี ทีมเมทของบัญญ่าหมดสัญญากับทีมโรงงาน ซึ่งนั่นก็เป็นที่น่าจับตามองว่าใครจะขึ้นมาแทน โดยกระแสหลักส่วนใหญ่แบ่งเป็นไป 3 ฝั่งได้แก่ การปั้นเด็กใหม่ดาวรุ่งใหม่ให้กับทีมอิตาลี การดึงฮอร์เก้ มาร์ตินจาก Pramac Racing หรือกระทั่งการเอามาร์ค มาร์เกซ อดีตศัตรูหลักตัวฉกาจมาเสริมทัพให้กับทีม แต่แล้วทางค่ายยืนยันที่จะเลือกมาร์คมาแข่งขันให้กับทีมในฤดูกาล 2025 นั่นเอง
เข้าสู่ปี 2025 กับบทบาทของนักบิดทีมโรงงานดูคาติ มาร์ค สามารถสร้างฟอร์มยอดเยี่ยมเสมือนย้อนวัยไปตั้งแต่ในช่วงดาวรุ่ง โดยแข่งขันเพียง 18 สนาม ทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งและคว้าแชมป์โลกในสมัยที่ 7 นับเป็นกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองให้กลับมาอีกครั้ง โดยผลงานรวมของมาร์คในการแข่งขันพรีเมียร์คลาส แชมป์โลก 7 สมัย ชัยชนะ 73 ครั้ง โพเดี้ยม 126 ครั้ง โพล 74 ครั้งและเรซการแข่งขันรวม 206 เรซ
ทำให้ มาร์ค มาร์เกซ มีผลงานรวมทั้งหมด แชมป์โลก 9 สมัย ชัยชนะ 99 ครั้ง โพเดี้ยม 165 ครั้ง โพล 102 ครั้ง ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 284 เรซ ซึ่งจำนวนแชมป์โลกเทียบเท่าตำนานอย่าง วาเลนติโน่ รอซซี่ แล้วนั่นเอง
ทั้งนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับแชมป์โลกคนล่าสุดอีกครั้ง และมาลุ้นกันว่าบทความท้าทายครั้งใหม่ของการชิงแชมป์ในฤดูกาล 2026 จะสร้างจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ทุบสถิติแซงตำนานแชมป์โลกได้หรือไม่ รอติดตามชม!!