CB1000R E-clutch
แตนยักษ์มาพร้อมคลัตช์ไฟฟ้า ?

เป็นระบบเทคโนโลยีที่เริ่มนำมาใช้แล้วส่งผลลัพธ์ที่ดีและน่าพอใจสำหรับผู้ใช้งาน สำหรับเจ้าระบบ E-Clutch ที่ทางค่ายได้ริเริ่มติดตั้งใช้งานโดยประเดิมตั้งแต่รุ่น CBR650R, CB650R และ Honda Rebel ไปแล้ว คราวนี้กลับเห็นความคืบหน้าและพร้อมต่อยอดในเซ็กเมนต์รุ่นอื่น ๆ เพื่อครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้นและล่าสุดมีข้อมูลพิมพ์เขียวแอบ (ไม่) หลุดเผยออกมากับโมเดลรุ่นใหม่อย่าง CB1000R Hornet E-clutch พร้อมติดชุดคลัตช์ไฟฟ้ามาให้ชมแล้ว
พิมพ์เขียว CB1000R Hornet E-Clutch

โดยดราฟรายเส้นเผยให้เห็นถึงรายละเอียดในจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะสิ่งแปลกใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตรงบริเวณชุดคลัตช์ก็คือ ชุดคลัตช์ทางฝั่งขวาแบบเดียวกันเหมือนโมเดลอื่น ๆ ประกอบไปด้วย ควิกชิฟเตอร์และชุดคลัตช์ โดยภายในชุดคลัตช์จะมีมอเตอร์ 2 ตัว และเฟืองเกียร์จำนวน 4 เฟือง ที่จะทำงานร่วมกับระบบคลัตช์ของเครื่องยนต์นั่นเอง
เอ๊ะ..เดี๋ยวก่อนนี่มันแตนเจ็นเก่า!
และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้แอบเอ๊ะ..สงสัยก็คือเจ้าแตนยักษ์ตัวพันในแบบร่างดันกลับเป็นรุ่นเก่า (ไฟกลม) ก็เลยแอบเอาสงสัยว่าถ้าหากเข้าสู่ไลน์ผลิตจริงจะออกมาเป็นในเวอร์ชันไหนกันแน่ ?
ไม่ว่าจะรุ่นเจ็นไหนที่เปิดตัวออกมาแต่ก็สามารถการันตีได้ว่า ความก้าวหน้าและการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของทางแบรนด์ที่จะมอบสิ่งใหม่ ๆ หรือฟีลลิ่งใหม่มาให้แฟน ๆ มอเตอร์ไซค์ได้สัมผัสกันอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในเรื่องของการใช้งานที่ง่าย ตอบโจทย์กับนักขับขี่ยุคใหม่อีกด้วย
แล้วทำไมถึงไม่ใช้ระบบ DCT

แล้วทำไมถึงไม่ใช้เป็นระบบ DCT (Dual Clutch Transmission)ทั้งที่มีอยู่แล้ว แถมเป็นตัวเลือกที่น่าใช้งานเลยไม่น้อย ตัวอย่างก็มีให้เห็นและติดตั้งใช้งานหลากหลายรุ่นเลยทีเดียว อาทิ ตระกูล CRF 1100 Affica Twin, NT1100, Rebel1100, GoldWing, X-ADV 750, Forza750 และ NC750X หรือว่าแทบจะทั้งหมดในคลาสบิ๊กไบค์ตัวใหญ่จากทางค่าย แล้วทำไมเจ้า CB1000 Hornet ถึงไม่มี ?
คำตอบก็คือ ด้วยสไตล์และคาแรคเตอร์การใช้งานของแตนยักษ์ที่ออกแบบมา เพื่อความสปอร์ต และความคล่องตัวในการใช้งาน บวกกับน้ำหนักของชุดเกียร์ DCT นั้นมีน้ำหนักมากถึง 10 กก. นี่จึงเป็นเหตุผลที่ค่ายมองว่า “ไม่เหมาะ” กับรถสปอร์ตเน็กเก็ด อีกทั้งอาจลดคาแรคเตอร์ฟีลลิ่งของการขับขี่ในแบบสปอร์ตมากกว่าระบบอีคลัตช์ก็เป็นไปได้ครับ
ในอนาคตเร็ว ๆ นี้ เราอาจได้ขี่เจ้าแตนยักษ์ในเวอร์ชันอีคลัตช์ แต่ไม่รู้ว่าเจ็นไหน..ก็ต้องรอเปิดตัวอีกที ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะมาในเจ็นไหนมองแล้วยังไงก็สวยทั้งคู่อยู่ดี อีกรุ่นนึงก็ Neo Classic ส่วนอีกรุ่นหน้าตาก็คล้ายคลึงตัวพันยักษ์เขียว (หยอกๆ) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับเจ้าดาบไฟ CBR1000RR Fireblade เป็นที่น่าขี่เลยไม่น้อย เริ่มชักจะอยากลองแล้วสิ ว่ามันจะขี่ง่ายขึ้นขนาดไหน ?
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก