Honda Freed e:HEV 2025 มินิแวนที่คนไทยถามหา
เข้าสู่ช่วงปลายปี 2568 ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก (Small MPV) ในประเทศไทยยังคงมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่มขุมพลังไฮบริด อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางตัวเลือกมากมายในตลาด ชื่อของ Honda Freed e:HEV 2025 ยังคงเป็นรถยนต์ที่ผู้บริโภคชาวไทยถามหามากที่สุดลำดับต้นๆ ด้วยความลงตัวด้านขนาดตัวถังและฟังก์ชันประตูสไลด์ที่เป็นเอกลักษณ์
ขุมพลัง e:HEV มอเตอร์คู่: หัวใจหลักที่เหนือกว่าคู่แข่ง
Honda Freed เจนเนอเรชันที่ 3 เปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อน e:HEV (Full Hybrid) ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลังสูงสุดรวม 131 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงในตลาดไทยที่ใช้ระบบไฮบริดเช่นกัน Freed e:HEV ให้การตอบสนองที่ฉับไวและความประหยัดน้ำมันที่ทำได้สูงสุดถึง 25.4 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน WLTC)
ดีไซน์ 2 สไตล์: Air และ Crosstar
Honda นำเสนอความแตกต่างเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย:
- Freed Air: เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่เน้นการใช้งานในเมือง
- Freed Crosstar: ตกแต่งสไตล์ Robust เสริมซุ้มล้อและราวหลังคา ให้ความรู้สึกพร้อมลุยแบบ SUV แต่ยังคงความสะดวกสบายของรถ MPV
ฟังก์ชันภายในและการใช้งานที่ ‘จิกกัด’ รถ SUV ทั่วไป
จุดตายที่ทำให้คนไทยยังไม่ปันใจให้รถรุ่นอื่นคือ “ประตูสไลด์ไฟฟ้า” ทั้งสองข้าง พร้อมพื้นห้องโดยสารที่ต่ำ (Low Floor) ทำให้การขึ้น-ลงของเด็กและผู้สูงอายุทำได้ง่ายกว่ารถทรง SUV อย่าง BR-V หรือ HR-V นอกจากนี้ยังมีระบบ Honda SENSING เวอร์ชันล่าสุดที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้ครอบคลุมทุกมิติ
วิเคราะห์โอกาสเข้าไทยในปี 2569
แม้ในงานมหกรรมยานยนต์ปลายปี 2568 ทาง Honda Thailand จะยังไม่มีการประกาศเปิดตัว Honda Freed อย่างเป็นทางการ แต่จากฐานการผลิตในภูมิภาคและการปรับตัวของคู่แข่ง ทำให้มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า Honda อาจจะพิจารณานำ Freed กลับมาทำตลาดอีกครั้งเพื่ออุดช่องว่างระหว่าง BR-V และ Step WGN หากมีการเปิดตัวจริง คาดการณ์ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 950,000 – 1,150,000 บาท ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ท้าชนกับ Toyota Veloz และ Mitsubishi Xpander HEV โดยตรง
อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์อื่นๆ คลิกที่นี่




