รีวิว Speed Triple 1200 RS แรงเต็มพิกัด แต่เบาจัดทั้งน้ำหนักทั้งราคา
และนี่ก็คืออีกหนึ่งบทความทดสอบ จากการที่ทางไทรอัมพ์ประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้เราได้เข้าร่วมทดสอบ 2 โมเดลใหม่กันถึงที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และด้วยโอกาสนี้นี่เองเราก็ได้ถือโอกาสจัดการ รีวิว Speed Triple 1200 RS เน็กเก็ดไบค์เรือธงลำใหม่ของทางค่าย ซึ่งขอเกริ่นไว้ก่อนสั้น ๆ ว่า เบา แต่แรงจริง ๆ ครับ
โดดเด่นเป็นที่จดจำ
บิ๊กไบค์สไตล์เน็กเก็ดคันนี้โดดเด่นที่ไฟหน้าคู่ทรงเฉียบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางค่ายสูงมาก ระดับที่เห็นแล้วต้องร้อง อ๋อ..!! ดีไซน์ของตัวรถมีความดุดันเอาเรื่องตั้งแต่หัวจรดท้าย ใครเห็นก็ต้องบอกว่าหล่อ
![]() |
![]() |
ถัดเข้ามาที่ด้านในเล็กน้อยมีเรือนไมล์สี TFT สวยเด่น ส่วนในด้านท้ายจะมีอีกจุดเด่นของความหล่อคือสวิงอาร์มแบบเดี่ยวหรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่าโปรอาร์มนั่นเอง
ทั้งนี้โมเดลนี้จะแตกต่างจาก RR ที่เป็นแนวเรซเซอร์คาเฟ่ โดยในโมเดลนี้ตัวรถจะมีแฮนด์แบบแฮนด์บาร์ ไม่มีแฟริ่งหน้าหรือโม่งช่วยบังลม แต่ก็จะได้เปรียบเรื่องน้ำหนักที่เบากว่า แต่ก็อ็อปชันน้อยลงตามมาด้วย โดยน้ำหนักเคลมมาว่าเบากว่าโมเดลเดิม 1050 ถึง 10 กก. ทำให้มีน้ำหนักแค่ 198 กิโลกรัม แม้ว่าจะมาในพิกัดรถขนาด 1200 ซีซี ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะจะช่วยให้ควบคุมขับขี่ได้ง่ายและคล่องตัวขึ้นกว่าเดิม
แรง บิดเป็นมา..!!
สำหรับเครื่องยนต์นั้นจะเป็นเครื่องสเปกเดียวกับ RR กล่าวคือจะเป็นเครื่อง 3 สูบเรียงขนาด 1,160 ซีซี ที่เคลมแรงม้าสูงสุดมาที่ 180 แรงม้าที่ 10,750 รอบและแรงบิดสูงสุดที่ 125 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบ เปิดรอบเครื่องยนต์สูงขึ้น 650 รอบ/นาที เกียร์บ๊อกซ์ใหม่
สำหรับโมเดลนี้จะมีระบบควิฟชิฟเตอร์ที่ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ตัวรถใช้ระบบคันเร่งไฟฟ้า คันเร่งไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่หรือ Riding mode ที่สามารถปรับเลือกได้ 5 โหมด ได้แก่ Track, Sport, Road, Rain และ Rider (โหมดที่ตั้งค่าเองได้)
ตรงนี้ตอนที่ผมขับขี่ในสนามได้ทดลองขับขี่ 2 โหมด คือ Track และ Sport ทำให้ตัวรถบิดได้แบบสุดพลัง สามารถที่จะทำความเร็วสูงสุดหรือ Top speed ในช่วงทางตรงสนามช้างฯ ได้มากถึง 255 กม/ชม ถือว่าเร็วมาก ๆ สำหรับรถประเภทนี้
แต่จะมีช่วงที่เปิดคันเร่งออกโค้งหนัก ๆ จะทำให้ล้อหน้าลอยหน่อย ๆ สาเหตุจากหน้ารถที่เบา แต่ในส่วนตรงนี้จะมีระบบแทร็คชันคอนโทรลเข้ามาช่วยไว้ได้เยอะเลย เพราะรถคันนี้ซีซีเยอะบวกกับสไตล์ของตัวรถที่หน้าเบากว่าพวก ผู้ขับอาจจะต้องทำความคุ้นชินหรือเปิดระบบช่วยรักษาอาการของตัวรถไว้ จะทำให้ตัวรถขี่ง่ายขึ้นอีกเยอะเลย แนะนำว่าเปิดเถอะช่วยได้ เพราะเจ้าคันนี้แรงจริง!!
ช่วงล่าง ฟิต เฟิร์ม
![]() |
![]() |
มาถึงช่วงล่าง ทางค่ายให้แต่ของดีมาจากโรงงานเลย แบบไม่ต้องมาหาใส่เพิ่ม ระบบกันสะเทือนจะเป็น Ohlins เต็มระบบ ด้านหน้าจะเป็นโช้คอัพหัวกลับ ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวพร้อมซับแทงค์ ทั้งหน้าและด้านหลังสามารถปรับแต่งได้เต็มระบบ ทั้งนี้ตัวนี้จะต่างจากตัว RR ที่เป็นปรับไฟฟ้าปรับอัตโนมัติ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ถ้าใครชอบสไตล์ที่ทางค่ายให้มา ตัวนี้ก็เพียงพอแล้วฟีลลิ่งดีเยี่ยมไม่ต่างกัน เรายังสามารถปรับเองได้ ทั้งการกด การคืน ความแข็งอ่อนของสปริง ครบจบไม่มีงอแง
![]() |
![]() |
ส่วนระบบเบรกก็จะมาเต็มระบบเช่นเดียวกับ RS ด้านหน้าจะเป็น Brembo Stylema ซึ่งจะเป็นคาลิเปอร์เบรกแบบโมโนบล็อกมั่นใจได้ ด้านหลังเองก็เป็น Brembo เช่นกัน แต่ยางที่ให้มาจะเป็นยางสปอร์ตจาก Metzeler
มาถึงตรงนี้ผมจะเหลาให้ฟังเกี่ยวกับฟีลลิ่งช่วงล่างคันนี้ ที่ได้ทดสอบในสนาม เดิม ๆ จากโรงงานก็ให้ฟีลลิ่งที่นุ่มนวล ขี่ง่ายสบาย ๆ แต่ครั้งนี้ลงทดสอบในสนามก็ขอปรับนิด ๆ เพราะเน้นไปที่สมรรถนะเต็ม ๆ หรือเน้นไปที่ช่วงความเร็วสูง ๆ ก็สามารถตอบสนองได้ดี
ผมได้มีการลองปรับความหนืดเพิ่มขึ้น แล้วเพิ่มค่าการกดของตัวโช้ค ทำให้การเข้าโค้งความเร็วสูง ๆ ทำได้ดี ถึงดีมาก เอาจริง ๆ โช้คที่เห็น ถ้าสังเกตดี ๆ สามารถเอาไปใส่ในรถใช้ลงแข่งได้เลยนะ ตรงนี้ถือว่าเพียงพอเหลือใช้เลยละ นี่อยู่ในสนามยังใช้งานได้ดี บนถนนก็หายห่วงแน่นอน แต่จะมีก็แค่เพียงเปิดคันเร่งแรง ๆ หน้าลอย ตรงนี้อาจจะต้องเป็นคนที่มีทักษะระดับนึงเลยที่จะแก้อาการหรืออาจจะติดตั้งกันสะบัดเพิ่มเติมเข้ามาช่วยในส่วนตรงนี้
โดยรวมช่วงล่างที่ติดรถให้มาจากโรงงาน เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ถ้ามี Triumph Track Day ก็เอาลงมาจอยกันได้แบบสบาย ๆ ไร้กังวล..!!
นั่งสบาย ถูกใจพ่อบ้าน
แน่นอนว่าสำหรับรถในสไตล์เน็กเก็ดไบค์แบบนี้ มันก็ต้องตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ๆ เลยละ ทั้งใช้งานในเมือง ซอกแซก บังคับเลี้ยวทำได้ดีกว่าสไตล์สปอร์ตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อบวกด้วยด้วยช่วงล่างที่ทางไทรอัมพ์ใส่ให้มา เป็นของระบบท็อปวงการ ที่เป็นตัวแปรช่วยให้คอนโทรลตัวรถได้ดีขึ้น ทั้งโช้คและยาง ตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่ให้มากว้างระยะลงตัว ทำให้รถขี่ง่าย ท่านั่งก็จะออกมาในแบบที่หลังไม่ก้มมากในแบบสปอร์ตซึ่งตรงนี้ก็ทำให้ขี่ไกล ๆ เป็นเวลานาน ๆ ได้สบายกว่า
อย่างการทดสอบในสนามความเร็วทะลุ 200 กม./ชม. จะรู้สึกได้ถึงลมที่ปะทะลำตัวมากพอสมควร อันนี้จะแตกต่างจากตัว RR ที่มีแฟริ่งช่วยลดแรงลมปะทะได้ แต่ด้วยสไตล์ตัวรถอาจจะต้องเลือกความชอบมาก่อนเสมอ ตรงนี้ก็คงไม่แปลก ถ้าจะซิ่งให้สุดก็ต้องมาจุกที่อกแทนครับ ฮา ทว่าเครื่องแรง คนต้องมีแรงและทักษะการขับขี่ที่สูงตามไปด้วยนะบอกก่อน
สรุป เบา แรง ต้องคันนี้
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับการ รีวิว Speed Triple 1200 RS ครั้งนี้ผมบอกเลยว่า มือเก๋าต้องมี มือใหม่ต้องลอง มันเป็นเน็กเก็ดไบค์ที่ดีไซน์มาได้หล่อเหลาเอาการ เทคโนโลยีเต็มคัน ไม่ว่าจะหน้าจอสี TFT ไรดิ้งโหมด แทร็คชันคอนโทรล ระบบเบรก ABS ระบบควิกชิฟเตอร์ เครื่องยนต์ 3 สูบแรงจี๊ดติดใจ ช่วงล่างสเปกพร้อมซิ่ง แม้จะยังไม่สุดในส่วนของโช้คที่ไม่ได้ปรับไฟฟ้า แต่เท่านี้กับราคา 699,000 คันนี้ ผมว่ามัน ครบจบ ตอบโจทย์กับการใช้งานในเมือง หรือจะขี่แทร็กเดย์หล่อ ๆ ก็สามารถทำได้ แค่ช่วงล่างกับเครื่อง ก็คุ้มสุด ๆ ไปแล้ว อยากให้ทุกคนได้ลองคันนี้ สุดจัดเลย..!!
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
![]() |
![]() |