ครั้งก่อนแอดมินเคยเขียนบทความสำหรับทิศทางในอนาคตอันไร้วี่แววจากต้นสังกัดของต่อสัญญาของแชมป์โลก WSBK 2 สมัยจากทีมโรงงานดูคาติอย่าง Avaro Bautista #19 ซึ่งในที่สุดผลสรุปก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อยคือ ไม่ได้ไปต่อ กับทีมโรงงานแต่ทว่ากลับมีพิททีมอิสระสนใจในศักยภาพเจ้าตัวอย่าง Barni Spark Racing พร้อมที่จะพานักบิดวัย 40 ลุยศึกรถโปรดักท์ชันต่อในฤดูกาลหน้า ซึ่งเราจะได้เห็น Bautista WSBK 2026 กับสังกัดบ้านใหม่พร้อมตัวแข่งรุ่นเดิม (เวอร์ชันใหม่) นั่นเอง
Ducati เลือกเด็กใหม่จาก Honda แทน
อาจจะเป็นเรื่องของงบประมาณหรืออะไรคงไม่ทราบ แต่สำหรับเต็งทีมอันดับ 1 ของรายการอย่าง Arubu.it Racing ที่กุมบังเหียนโดย จีจี้ ลานินญ่า เลือกที่จะ ‘ปัดตก’ แชมป์โลกคนเก่าและเลือกเด็กใหม่ไฟแรงจากค่ายปีกนกอย่าง Iker Lecuona ขึ้นมานั่งเก้าอี้ทีมเมทร่วมกับนิโคโล่ บูเรก้า ในการแข่งขันฤดูกาล 2026
ซึ่งถ้าลองนึกแล้วคงเสียดายไม่แพ้กับข่าวการรีไทร์ของ โจนาธาน เรย์ เลยแม้แต่น้อย แต่ยังคงมีข่าวดีให้ยังพอชื่นใจเพราะยังไงเจ้าตัวก็คงได้ขี่ตัวแข่ง Ducati Panigale V4R ต่อ แต่คงเป็นบ้านใหม่ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย และเบาติสต้าเองก็ได้เข้าสวมเก้าอี้มาแทน Danilo Petrucci ที่เจ้าตัวย้ายซบทีมใบพัดสีฟ้า (BMW Motorrad) ถือว่าเบาติสต้ายังคงได้สานต่อความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง
ผมอยากพิสูจน์ว่าผมยังชนะได้ ผมอยากขอบคุณทีม Barni Spark Racing สำหรับความเชื่อมั่น และความสนใจที่เขาได้แสดงให้ผมเห็น ทันทีหลังจากที่ประกาศว่าผมจะว่างสำหรับฤดูกาล 2026 เขาติดต่อผมโดยไม่ลังเล และนั่นมีความหมายกับผมมาก ผมมีความสุขที่จะได้อยู่ในครอบครัว Ducati ต่อไป ที่ซึ่งผมเคยประสบความสำเร็จ
และผมเชื่อว่าร่วมกับ Barni เราจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม ทีมนี้กำลังเติบโตขึ้นในทุก ๆ ฤดูกาล และข้อตกลงนี้คืออีกก้าวหนึ่งไปข้างหน้า มันต้องใช้ความมุ่งมั่นเพราะผมจะทำงานกับผู้คนใหม่ ๆ แต่ผมมั่นใจเพราะผมเห็นแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่และจิตวิญญาณการแข่งขันที่แข็งแกร่งในตัว Barni ผมอยากพิสูจน์ว่าผมยังชนะได้ สองปีที่ผ่านมาไม่ง่ายเลยเพราะกฎระเบียบใหม่ แต่ตอนนี้ด้วย Panigale V4 รุ่นใหม่และการสนับสนุนจาก Ducati เราจะมีทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อจะมีการแข่งขัน เป้าหมายคือปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของเรา และจากตรงนั้นตั้งเป้าไปให้สูงยิ่งขึ้น”
เมื่อมองย้อนกลับไปที่เส้นทางของ Bautista นี่คืออาชีพที่เต็มไปด้วยรสชาติ ตั้งแต่การแจ้งเกิดใน MotoGP รุ่นเล็ก, การย้ายทีมแทบนับไม่ถ้วนใน MotoGP, ไปจนถึงการค้นหาตัวเองใน WorldSBK ที่กลายเป็นจุดสูงสุดในชีวิต และการเลือกย้ายไป Barni Ducati ถือการตอกย้ำคาแรคเตอร์ว่า น้าเบา ไม่เคยกลัวความท้าทาย เขายังอยากสู้ ยังอยากชนะ และยังอยากพิสูจน์ให้แฟน ๆ ได้กรี๊ดต่อไป มันอาจจะไม่ใช่การปิดฉากอาชีพในแบบโรงงานใหญ่ แต่เป็นการเปิดบทใหม่ที่เร้าใจกว่าเดิม เพราะนี่คือการกลับไปสู่รากเหง้าของความเป็นนักแข่งทีมเล็ก หัวใจใหญ่ และนักบิดที่ยังไม่หมดไฟ
ในปี 2026 ที่จะถึงนี้ เราจะได้เห็น “Bautista effect” อีกครั้งในสีสันของ Barni Ducati Team น้าเบาจะยังสามารถบิด Panigale V4 กดคู่แข่งลงไปยืนหอบอยู่ข้างล่างโพเดียมได้หรือเปล่า และจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะได้เห็นเขากลับมาคว้าชัยชนะ หรือแม้กระทั่งลุ้นแชมป์โลกในฐานะนักบิดทีมอินดี้ คำตอบทั้งหมดอยู่ที่แทร็ค และการันตีเลยว่าจะเป็นซีซันที่โคตรมันส์ทีเดียว ยังไงก็ดีใจด้วยครับ
หากย้อนประวัติหรืออยากทำความรู้จักนักแข่งคนนี้ก็คงจะร่ายยาวเกินไป อีกทั้งแอดมินก็เคยเขียนสตอรี่มาแล้ว (สามารถเข้าไปอ่านได้ คลิ๊กที่นี่
