รีวิว All New Yamaha Aerox 2025 ฟีลสปอร์ต พร้อมดิสก์หลัง ราคาน่าคบ
รีวิว Yamaha Aerox 2025 All New สกูตเตอร์ เปิดตัวพร้อมทดสอบ ครั้งแรกในประเทศไทยที่ อิมแพค สปีด พาร์ค ริมทะเลสาบเมืองทองธานี กับรถสกูตเตอร์ทรงสปอร์ตรุ่นชูโรงจากไทย ยามาฮ่า มาให้ชมและจับจองกันเป็นที่เรียบร้อย และนี่คือแอร็อกซ์เจนเนอเรชันที่ 3 ในสไตล์ ‘ซูเปอร์สปอร์ต’ ปรับใหม่ทั้งหมดเรียกได้ว่าเกือบยกคัน กับราคาแนะนำที่ 85,900 บาท จะมีอะไรน่าสนใจในรุ่นนี้ รวมถึงฟีลลิ่งขับขี่จะเป็นเช่นไร จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
รีวิว All New Yamaha Aerox 2025 ปรับใหม่ยกคัน
หากใครกำลังมองหารถสกูตเตอร์ใช้งานขับขี่ในเมืองซักคัน มี DNA ดีไซน์ในสไตล์สปอร์ตเต็มพิกัดและอยู่ในงบที่สามารถซื้อได้ไม่เป็นภาระหรือจ่ายผ่อนต่อเดือนค่อนข้างสบายกระเป๋า เจ้าแอร์ร็อกซ์รุ่นนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้วยคุณสมับติต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ประการแรกก็คือการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งชุด แฟริ่งออกแบบใหม่เดินเส้นสายสไตล์ซูเปอร์สปอร์ตฟูลแฟริ่ง
พร้อมติดชุดวิงก์เล็ตด้านหน้าซึ่งน่าจะเป็นรุ่นแรกที่มีระบบแอโรไดนามิกมาให้โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเจ้า R1 ถ่ายทอดผ่านลวดลายเส้นสายบนแฟริ่ง ไฟหน้า Dual Projector ไฟเลี้ยวและไฟเบรกแบบ LED ดีไซน์มาใหม่ และที่สะดุดตาคงเป็นไฟท้ายในลักษณะคล้ายคลึงตูดมดซึ่งดูเสมือนรถสปอร์ตของแท้เสียจริง
ต่อด้วยในเรื่องโครงสร้างความแข็งแรง รุ่นนี้จะใช้โครงสร้างแบบ Center Tunnel มีแกนเพิ่มระหว่างตรงกลางซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงและยังช่วยเพิ่มความสมดุลของการกระจายน้ำหนักตัวรถ บอดี้ตัวถังออกแบบใหม่พร้อมซับเฟรม รวมถึงมิติไดเมนชันตัวรถออกแบบให้สูงและกว้างกว่าเดิมราว ๆ 10 มม. ระยะเทรลเพิ่มขึ้นจากเดิม 98 มม. เป็น 102 มม. น้ำหนักตัวรถ (บวกของเหลว) 127 กก.
Suspension
ช่วงล่างยังคงเป็นโช้คเทเลสโคปปิกแต่ปรับขยายแกนโช้คจากเดิม 26 มม. เป็น 30 มม. (กระบอกโช้คจาก 34 เป็น 39 มม.) โช้คหลังสปริงคู่พร้อมซับแทงค์ปรับเซ็ตค่าละเอียดทั้ง ความยาว ความแข็งของสปริง เพิ่มน้ำมันโช้คมาให้เรียบร้อย และสิ่งสำคัญสำหรับสาวกแฟน ๆ แอร์ร็อกซ์เลยก็คือ รุ่นนี้อัปเกรดเป็นดิสก์เบรกหลังมาให้เรียบร้อยแล้ว (ขนาด 230 มม.) จากเดิมที่เป็นดรัมเบรก ส่วนล้อเและยางยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรจากเจ็นก่อนคือหน้า-หลัง 14 นิ้ว ไซส์ยาง 110/80 และ 140/70
Feature
หน้าจอ Negative LCD | |
ช่องชาร์จไฟ USB Type C | |
ช่องเก็บของใต้เบาะขนาด 25 ลิตร | |
กุญแจสมาร์ทคีย์ |
ระบบฟีเจอร์และฟังก์ชันความสะดวกสบายต่าง ๆ ทั้งจอ Nagative LCD ดีไซน์แบบรถสปอร์ตขนาด 4.2 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Y-Connect ดูข้อมูลต่าง ๆ ของรถบนมือถือ รวมถึงฟังเพลง รับสายโทรศัพท์และข้อมูลเซอร์วิสต่าง ๆ ตัวรถได้ ต่อด้วยช่องชาร์จไฟ USB ไทป์ C มีช่องเก็บของด้านหน้า U-BOX ใต้เบาะขนาด 25 ลิตร (เก็บหมวกกันน็อกเต็มใบ) และระบบกุญแจรีโมท
Engine
เครื่องยนต์บลูคอร์สูบเดียวขนาด 155 ซีซี SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ออกแบบแหวนรองนัทฝาสูบใหม่ ชุดปรับความตึงโซ่ราวลิ้นแบบไฮดรอลิกและใช้เสื้อสูบแบบไดอะซิลเพื่อเพิ่มความทนทานการทำงานของเครื่องยนต์ โดยแรงม้าให้มาที่ 15.1 แรงม้า ส่วนแรงบิดอยู่ที่ 14.2 นิวตันเมตร มาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 5.5 ลิตร
โดยการมาของเจ้าแอร์ร็อกซ์รุ่นนี้อาจจะรู้สึกว้าวสำหรับคนขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วไป เพราะมันมีอะไรอัปเดตมาให้ใช้งานมากมายทีเดียว แต่ถ้าเป็นสาวกแฟนพันธุ์แท้ของยามาฮ่าแอร์ร็อกซ์แล้วหล่ะก็ก็คงจะทราบกันดีหล่ะครับ ว่ามันเปิดตัวที่อินโดนีเซียมาแล้ว (ดูข้อมูล 2025 Yamaha Aerox) และแอร็ร็อกซ์รุ่นนี้ที่มีดิสก์เบรกหลังมาไทยแล้ว เหล่าสาวกเอฟซีคงจะหายบ่นกันนะครับ
ลุยทดสอบ ‘ครั้งแรก’
สำหรับเซกชันของการทดสอบในสถานที่ปิดที่สนาม อิมแพค สปีด พาร์ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นสนามโกคาร์ทที่ถือว่าเหมาะสมสำหรับการรีดสมรรถนะเจ้า Aerox รุ่นนี้ ด้วยความที่เป็นรถตลาด เข้าถึงง่าย มีฟีเจอร์รองรับสำหรับใช้งานขับขี่ทั่วไป การออกแบบมุมเมนชันท่านั่งต่าง ๆ ถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายในแบบรถสปอร์ตใช้งานทั่วไป ทั้งขนาดตัวเบาะ ฟุตเพจและระยะแฮนด์ให้ความกระชับ การแฮนด์เดอริ่งโดยรวมจึงดูขี่ง่าย ไม่ยากเย็น
แต่ถ้าจะดูให้มันสบายเกินไปในแบบรถทัวริ่ง นั้นก็คงไม่ใช่สไตล์ของเจ้าแอร์ร็อกซ์รุ่นนี้ใช่ไหมหล่ะครับ เรื่องความสูงแอดมินมองว่าไม่ใช่ปัญหา ปรับระยะท่านั่งได้สะดวกเพราะตัวเบาะเขาไม่มีตัวบล็อกหลังหรือพนักพิงมาให้ หากใครจะมองว่าเป็นข้อดีก็คือดีแหล่ะครับ แต่สำหรับนักเดินทางไกลคงคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาเช่นกัน
โดยรวมฟีลลิ่งเครื่องยนต์ให้ความสมูท ลื่นไหล สัมผัสตั้งแต่ออกตัวไม่ดึงกระโชกโฮกฮากซักเท่าไหร่ ความแรงยังคงตามสไตล์สปอร์ตสกูตเตอร์พิกัด 155 ซีซี แต่การทดสอบครั้งนี้ต้องเรียนว่า ‘ไม่มีเวลา’ ได้ใช้เจ้าระบบ VVA (ระบบเปิดวาล์วไอดีจากแคมป์ชาร์ฟตัวที่ 2 เพิ่มระยะลิฟต์วาล์ว และเพิ่มการจ่ายน้ำมันไปยังห้องเผาไหม้) เพราะช่วงกำลังจะหาจังหวะรีดหาแรงม้านั่น บิดไม่ทันระยะ 2 คืบความเร็วหน้าไมล์ 80 ถึงจุดเบรกหน้าโค้งเรียบร้อยแล้ว จากส่วนตัวที่ได้ขี่รถยามาฮ่าพิกัด 155 ซีซีใช้งานในชีวิตประจำวัน ฟีลลิ่งเครื่องยนต์อาจคงไม่ต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในแบบ 2 สเต็ปก็คือ เบาก่อน..แรงที่หลัง แต่สำหรับสายซิ่งที่ได้ไป บอกเลยเดิม ๆ โรงงาน..อยู่ได้ไง
ช่วงล่าง โครตฟิน
ประทับใจมากที่สุดคงจะเป็นในเรื่องระบบช่วงล่างทั้งปรับไซส์โช้คหน้า เซ็ตค่าความหนืดตัวสปริงและใส่น้ำมันโช้คเพิ่ม โดย “ระบบกันสะเทือน” ทำออกมาได้ประทับใจการซับแรงในสไตล์นุ่มหนึบซึ่งอาจไม่หวือหวาแต่ทว่าการเข้าโค้งนั้นทำได้ค่อนข้างเนียน โช้คไม่กระเด้งย้วยเหมือนสกูตเตอร์คลาส 155 ซีซีทั่วไป ถือว่าทำออกมาได้ดีและเป็นเอกลักษณ์ จุด ๆ นี้ทำให้แอดมินเองก็กล้ามั่นใจในการเทโค้งซึ่งสายเรซซิ่งที่อยากได้รถซ้อมขี่ไลน์ซักคัน รุ่นนี้เหมาะไม่เป็นรองใคร ส่วน ‘เบรกหลัง’ ที่รอมาเนิ่นนานกัน ใช้งานได้ตามปกติเหมือนรถดิสก์เบรกทั่วไป (ไม่มี ABS ล้อหลัง) ซึ่งแน่นอนว่าเบรกหนึบกว่ารุ่นก่อน ๆ ที่เป็นดรัมเบรกอย่างแน่นอนครับ
สีเทา-น้ำเงิน | |
สีดำ-เทา | |
สีน้ำเงิน |
โดยภาพรวมถือว่าเป็นรถสกูตเตอร์ที่น่าใช้งาน จะขี่ใช้งานทั่วไปก็ดีหรือจะขี่ในแทร็กก็มันส์ยิ่งไล่สเต็ปยิ่งมันส์เข้าไปใหญ่ ไม่ต้องอธิบายเยอะ ไปทดลองกันดีกว่า สำหรับเจ้า Yamaha Aerox รุ่นนี้ มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 สีได้แก่ เทา-น้ำเงิน, ดำ-เทาและน้ำเงิน พร้อมราคาแนะนำ 85,900 บาท พร้อมรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม. สามารถหาจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ศูนย์ ยามาฮ่า สแควร์ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทางไทยยามาฮ่า ที่เอื้อโอกาสมาให้พวกเราได้ทดสอบเจ้าแอร์ร็อกซ์รุ่นนี้ สำหรับโอกาสต่อไปจะเป็นกิจกรรมอะไร อย่าลืมติดตามข่าวสารทางเพจ SuperBike Thailand กันได้เลย