สำหรับในคอลัมน์นี้ผู้เขียนจะขอพูดถึงรถจักรยานยนต์ในกลุ่มสกู๊ตเตอร์อีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตโดยแบรนด์สัญชาติไทยอย่าง GPX ที่ในครั้งนี้มาพร้อมกับโมเดลใหม่อย่าง GPX DZ2 สกู๊ตเตอร์พิกัด 150 ซีซีที่มาพร้อมฟังก์ชั่นให้มาอย่างจัดเต็ม เรียกว่าคุ้มกับราคาค่าตัว 73,500 บาทอย่างแน่นอน และในการทดสอบครั้งนี้ก็ได้ไปทดสอบที่สนามมอเตอร์สปอร์ต พาร์ค สุวรรณภูมิ
เริ่มกันที่เรื่องแรกในส่วนเครื่องยนต์ GPX DZ2 คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 149.6 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 14 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 13.5 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์แบบ CVT ที่ตอบสนองได้อย่างเร้าใจ
![]() |
![]() |
ในด้านของการออกแบบดีไซน์ของรถคันนี้เน้นไปที่ความเป็นสปอร์ตพรีเมียม พร้อมเส้นสายเฉียบคม มิติที่โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา และสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ต้องขอบอกว่ารถคันนี้ขับขี่ได้อย่างง่ายดาย เพราะความสูงจากพื้นเพียง 770 มม. เพียงเท่านั้น
![]() |
![]() |
อีกทั้งการออกแบบไฟหน้าของรถคันนี้มาในรูปแบบของ Full LED Projector ส่องสว่างคมชัด รวมไฟสูง และไฟต่ำไว้ในโคมเดียวกัน อีกทั้งในด้านท้ายยังมาในดีไซน์แบบ U Light LED ไฟท้ายดีไซน์เฉียบคมแบบ 3D U Light Tail / Stop Light Function ที่แฝงความสปอร์ตด้วยโคมไฟสีสโมคเพิ่มความพรีเมียม และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
และระบบกันสะเทือนของตัวรถคันนี้ก็ต้องขอเรียนให้ทุกท่านว่าเป็นแบบฉบับปกติของรถในกลุ่มเครื่องยนต์ 150 ซีซี ทั่วไป โดยช่วงล่างด้านหน้าเป็นโช้คอัพแบบเทเลสโคปิก ด้านหลังเป็นโช้คอัพแบบสปริงคู่ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม และอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของรถคันนี้ก็หนีไม่พ้นระบบเบรก เพราะเป็นดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และด้านหลังพ่วงด้วยระบบเบรก ABS แบบสองทาง อีกทั้งคาลิเปอร์ด้านหน้ายังเป็นเรเดียลเมาท์ ซึ่งประโยชน์ของคาลิเปอร์ประเภทนี้คือสามารถถ่ายเทความร้อนเกิดขึ้นจากการเบรกได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยลดระยะการเบรกเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากในพาร์ทของเครื่องยนต์ และระบบกันสะเทือนล่างแล้วนั้น ในส่วนของฟีเจอร์ฟังก์ชั่นเทคโนโลยีของรถคันนี้ก็เรียกได้ว่าทางผู้ผลิตจัดให้อย่างเต็มรูปแบบ เรียกได้ว่าเหนือเพื่อนในคลาสโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ TFT ขนาด 6 นิ้ว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้เพียงเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Carbit Ride โดยสามารถ Mirror Screen จากสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ขึ้นสู่หน้าจอได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น แผนที่นำทาง เพลง รายชื่อสายเรียกเข้า เพื่อให้การขับขี่สะดวกขึ้น ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
จุดเด่น :
- เครื่องยนต์พิกัด 150 ซีซี สามารถตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม อัตราเร่งในช่วงต้นสามารถทำได้ดี
- ระบบเบรกให้มาแบบเกินคลาสโดยเป็นดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และพ่วงมาด้วยระบบเบรก ABS หน้า-หลัง แต่พิเศษกว่าด้วยด้านหน้ามาพร้อมกับคาลิเปอร์แบบเรเดียลเมาท์ ที่ช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีกว่า และระยะเบรกสั้นกว่า
คอมเมนต์จากผู้ขับขี่ :
ในส่วนนี้จะเป็นการคอมเมนต์เกี่ยวกับภาพรวมตัวรถของโมเดล GPX DZ2 ที่โกคาร์ท SuperBike ได้มีโอกาสไปทดสอบขับขี่ที่สนามทดสอบ มอเตอร์สปอร์ต พาร์ค สุวรรณภูมิ โดยทุกคอมเมนต์นั้นไม่มีเจตนาลบใด ๆ ทั้งสิ้นทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ที่เกิดจากการขับขี่เพียงเท่านั้น
ท่านั่งระหว่างขับขี่
ระยะสั้น หรือเน้นใช้งานในเมืองทั่วไป ไม่มีปัญหาในเรื่องของอาการเมื่อย ถ้าหากขับขี่ในระยะที่มากกว่า 150 กิโลเมตรขึ้นไปต้องมาลุ้นกันอีกครั้งว่านั่งสบายหรือไม่ฃ
Engine
อัตราเร่งของรถคันนี้สามารถทำได้ดี ในช่วงต้นตอบสนองได้อย่างไร้ข้อสงสัย แต่ในการทดสอบครั้งนี้ยังเหลือในช่วงรอบกลาง และรอบปลายว่าจะสามารถทำได้ดีมากน้อยเพียงไหน เพราะโกคาร์ท SuperBike ได้ทดสอบเพียงแค่ในแทร็คเท่านั้น ซึ่งสนามมอเตอร์สปอร์ต พาร์ค สุวรรณภูมิอย่างที่ทราบกันดีว่ามีเส้นทางการขี่เล็ก ๆ เหลือระยะทางยาว ๆ ที่ต้องทดสอบว่าในช่วงปลายจะไหลได้มากน้อยเพียงใด
Suspension
เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพการรองรับแรงกระแทกที่ดีกว่านี้ก็เปลี่ยนโช้คอัปหลังเพียงแค่คู่เดียวเห็นผลเลย
Brake
อย่างที่ได้เรียนแจ้งให้ทราบไปในข้างต้นกว่าสถานที่ทดสอบนั้นเล็กเกินไปหน่อย เล็กจนไม่ได้มีโอกาสในการเทสต์เบรกหนัก ๆ แม้มีบางช่วงที่ลองกำเร็ว ๆ แรง ๆ คาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ชิ้นนี้ก็สามารถทำได้งานได้อย่างดี
Tyre
ในส่วนนี้เอาจริง ๆ ก็อยากเรียนให้ผู้อ่านทุกท่านทราบตามตรงว่า ‘ขี่จนยางหมดเดี๋ยวว่ากัน’ เพราะอยากจะนำยางคู่นี้ที่เป็นยางติดรถจากแบรนด์ Vee Rubber ไปลองในทุก ๆ สภาพอากาศ และสภาพถนน ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าหากใช้ในชีวิตประจำวันตามปกติก็เพียงพอต่อการใช้งานแต่ถ้าหากเป็นสายประสิทธิภาพ หรือชื่นชอบลายยางที่มีความเร้าใจ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการ เพราะอย่างที่ทราบกันว่ายางเดิมติดรถ ‘เพียงพอต่อการใช้งาน’
แล้วถ้าถามว่าซื้อไหมกับราคา 73,500 บาท ก็บอกเลยว่าซื้อครับ ด้วยราคาที่ไม่สอดคล้องกับฟังก์ชั่น (ฟังก์ชั่นเกินราคา) การันตีเลยว่าคุ้มกับเงินทุกบาทที่จ่ายไปเพราะฟังก์ชั่นที่ได้มา มันเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้จริง
สีสันที่วางจำหน่าย
สำหรับโมเดลรถจักรยานยนต์ GPX DZ2 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีน้ำตาล-ดำ (Matte BROWN), สีเทา-ดำ (Crayon Grey), สีแดง-ดำ (Lava RED) และสีดำ (Super BLACK)
![]() |
MATTE BROWN (สีน้ำตาล-ดำ) |
![]() |
CRAYON GREY (สีเทา-ดำ) |
![]() |
LAVA RED (สีแดง-ดำ) |
![]() |
SUPER BLACK (สีดำ) |
สำหรับใครที่มองหาสกู๊ตเตอร์ใช้งานในชีวิตประจำวันไปทำงาน ไปเที่ยว หรือขับขี่ชิลๆ แต่ต้องการเน้นความคล่องตัว GPX DZ2 คันนี้ถือว่าตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย โดยมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 73,500 บาท (เจ็ดหมื่นสามพันห้าร้อยบาทถ้วน) สนใจสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บริการ และตัวแทนจำหน่าย GPX ใกล้บ้านท่านได้เลย














