Panigale V4 SP รุ่นใหม่ รองท็อปแรงน้องๆ รถแข่ง มีอะไรใหม่บ้าง

Panigale V4 SP รุ่นใหม่ รองท็อปแรงน้องๆ รถแข่ง มีอะไรใหม่บ้าง

Panigale V4 SP

Panigale V4 SP น้องใหม่พิกัดซูเปอร์ไบค์ ทำให้ตอนนี้ซูเปอร์ไบค์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบวีของดูคาตินั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 โมเดลด้วยกัน โดยเจ้าน้องใหม่คันนี้ถือเป็นตัวรองท็อปเป็นรองแค่เพียงรหัส R เท่านั้น 

โดยตัวอักษร SP ที่เป็นเหมือนรหัสใหม่นี้ ย่อมาจากคำว่า Sport Production แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ใหม่อะไร เนื่องจาก Ducati เพราะมีการใช้มาก่อนแล้ว โดยมีใช้ครั้งแรกใน Ducati 851 นั่นเอง ซึ่งคำว่า Sport Production สื่อถึงรถโปรดักชันที่มีของแต่งที่เหมาะสำหรับใช้ขับขี่ในสนามได้ดีขึ้นนั่นเอง

โมเดลนี้จะแตกต่างกับโมเดล S 2021 อยู่หลายจุด ตั้งแต่ชุดสีลวดลายกราฟิกในแบบของเดียวกับรถแข่งช่วงวินเทอร์เทสต์ (Winter Test) เป็นสีดำด้านพร้อมกับดีเทลสีแดงสด และถังน้ำมันอลูมิเนียมปัดเงา

Panigale V4 SP

แผงคอบน CNC มาพร้อมซีเรียลนัมเบอร์ พร้อมกับของแต่งต่างๆ ในส่วนของช่วงล่างและเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ในแบบสนาม โดยของแต่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้น้ำหนักรถเบากว่าโมเดล S อยู่ 1 กิโลกรัม น้ำหนักรถเปล่าจึงเหลือเพียง 173 กิโลกรัม

อย่างไรก็ดีเครื่องยนต์ของโมเดลนี้จะไม่อยู่ในพิกัด 1000 ซีซี เหมือนรหัส R จะยังเป็นเครื่องขนาด 1103 ซีซี แต่จะให้กำลังแรงม้าน้อยกว่าโมเดล R โดยเคลมแรงม้ามาที่ 214 แรงม้าที่ 13,000 รอบและแรงบิดที่ 124 นิวตันเมตรที่ 9,500 รอบ 

ของแต่งที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเปรียบเทียบกับโมเดล S มีดังต่อไปนี้ 

Panigale V4 SP

  • ปีกคาร์บอนไฟเบอร์
  • บังโคลนหน้าคาร์บอนไฟเบอร์
  • คลัตช์แห้ง STM-EVO SBK

  • โซ่เบอร์ 520 น้ำหนักเบาพิเศษ
  • ล้อคาร์บอนไฟเบอร์แบบ 5 ก้านคู่ เบากว่าล้อฟอร์จเดิม 1.4 กก.

Panigale V4 SP Panigale V4 SP

  • คาลิเปอร์เบรกหน้า Brembo Stylema
  • ปั๊มเบรกหน้า Brembo MCS 19.21
  • พักเท้าอลูมิเนียมปรับตำแหน่งได้พร้อมการ์ดคาร์บอน

  • ระบบ DDA หรือ Ducati Data Analyzer พร้อม GPS สำหรับบันทึกข้อมูลการขับขี่ไว้ใช้วิเคราะห์ประเมินผลการขับขี่ในสนามภายหลังได้
  • ครอบคลัตช์แบบเปิด
  • ชุดอุดท้ายหลังจากเอาที่ยึดป้ายทะเบียนออก
  • ชุดอุดรูกระจกอลูมิเนียม

 

ส่วนที่ยังคงเดิมๆ นอกจากเครื่องยนต์ที่กล่าวไปแล้วก็เช่น โช้คหน้า Öhlins NIX-30 โช้คหลัง Öhlins TTX36 และกันสะบัด Öhlins ซึ่งควบคุมผ่านระบบ Öhlins Smart EC 2.0 หรือปรับไฟฟ้าได้ทั้งหมด 

ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็จัดเต็ม มีหน่วยประมวลผลแรงเฉื่อย หรือ IMU แบบ 6 แกน ทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ช่วยให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้แม่นยำมากขึ้น

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้ก็ได้แก่ 

  • ระบบเบรก Bosch EVO Cornering ABS
  • แทร็คชั่นคอนโทรล
  • ระบบควบคุมการสไลด์
  • ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ
  • ระบบช่วยออกตัว Power Launch
  • ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง
  • ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก
  • ระบบกันสะเทือนปรับไฟฟ้า 

ซึ่งหลายๆ ระบบพัฒนาใหม่ให้ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่ขอละเอาไว้เพราะยิบย่อยมากๆ ครับ

สนนราคาก็แน่นอนว่าถ้าเข้าไทยจะต้องแพงกว่า 1,249,000 บาทที่เป็นราคาของโมเดล S อยู่แล้ว แต่ก็ต้องไม่เกิน 2,990,000 บาทเพราะเป็นราคาของรุ่น R 

โดยผมเองประเมินไว้ที่ราวๆ 1,690,000 บาทบวกลบกว่านี้นิดหน่อย แต่ขอย้ำนี่ไม่ใช่ราคาอย่างเป็นทางการนะครับ เป็นราคาคาดการณ์เท่านั้น 

สำหรับคนที่ซื้อมาขี่สนามก็ถือว่าคุ้มค่าเลยล่ะครับ ส่วนคนที่ซื้อมาขับขี่ทั่วไปอาจจะเกินตัวไปหน่อย แต่ถ้าใจรักล่ะก็มันก็ต้องจัดแล้วล่ะครับ เพราะหล่อจริง ของแต่งก็จัดจริงครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles