ดุดัน ดิบเถื่อน คงไม่มีคำไหนที่จะนิยามความก้าวร้าวของรถจักรยานยนต์คันนี้ได้อีกแล้วกับโมเดล 2026 BRABUS 1400 R SIGNATURE EDITION ที่มาในสไตล์ของรถประเภท Hyper Naked-Luxury เฉดสีเน้นโทนสีดำเพื่อเพิ่มความดุดันของตัวรถ และที่สำคัญโมเดลนี้ถูกผลิตมาเพียงแค่ 100 คันทั่วโลกเท่านั้น
การออกแบบดีไซน์ของโมเดลนี้ถูกจัดการตบแต่งโดยสำนัก ‘BRABUS’ สำนักแต่งรถชื่อดังจากประเทศเยอรมนี ตัวรถคลุมโทนไปทางเฉดสีดำด้วยดีไซน์ Black and Bold อันเป็นเอกลักษณ์ที่มีการตัดสลับกับลวดลายคาร์บอนเพื่อให้ดูมีควาเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยการออกแบบอยู่ภายใต้แนวคิดของ ‘1-Second-Wow’ ที่พร้อมสะกดสายตาผู้ที่ได้เห็นตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ‘พละกำลัง’ และ ‘สไตล์’ ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
 |
 |
ซึ่งพื้นฐานของรถคันนี้มาจากโมเดล KTM 1390 SUPER DUKE R EVO มีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่หัวจรดท้ายตามสไตล์ของ BRABUS ไฟหน้าปรับใหม่ เฟรมตัวถังมีการปรับสีเป็นสีดำทั้งหมดเพื่อให้เข้ากันกับตัวรถ ล้อเปลี่ยนเป็นแบบฟอร์จสามก้านขอบ 17 นิ้ว น้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มเสถียรภาพ และการควบคุมให้ดีมากยิ่งขึ้น
ในพาร์ทของเทคโนโลยีคันนี้มาพร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมดได้แก่ STREET Mode พร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะขั้นสูง โดยระบบจะจำกัดการยกล้อหน้า และการตอบสนองคันเร่งมาตรฐาน ให้การขี่ที่มั่นใจ และควบคุมได้ง่าย, SPORT Mode ยกระดับความเร้าใจด้วยการตอบสนองคันเร่งที่รวดเร็วและเฉียบคมยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสปอร์ตในทุกจังหวะการเร่ง, RAIN Mode – ปรับการทำงานของระบบควบคุมรถให้เหมาะกับถนนเปียก เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะสูงสุด เพื่อความปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ
 |
 |
PERFORMANCE Mode – โฟกัสที่การส่งกำลังเต็มรูปแบบ พร้อมตัวเลือกการตั้งค่าการขี่ที่ละเอียดและปรับแต่งได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับสาย Performance ตัวจริง และ TRACK Mode – โหมดสำหรับสนามแข่งโดยเฉพาะ ให้ผู้ขี่สามารถตั้งค่าระบบต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด เพื่อการตอบสนองระดับ “สนามแข่งขัน” อย่างแท้จริง
อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอสีแบบ TFT ที่พร้อมบอกข้อมูลการขับขี่รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถไว้อย่างครบครัน และ ระบบ Quickshifter+ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วฉับไวโดยไม่ต้องบีบคลัตช์ ส่งผลให้การขับขี่ลื่นไหลและแม่นยำยิ่งขึ้น
สเปค และรายละเอียดของตัวรถ
| เครื่องยนต์ | เครื่องยนต์สองสูบ V 75 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,350 ซีซี |
| แรงม้า (เคลม) | 187 แรงม้า |
| แรงบิด (เคลม) | 145 นิวตันเมตร |
| ระบบวาล์ว | DOHC |
| ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 110 x 71 มม. |
| อัตราส่วนการอัด | N/A |
| ระบบเกียร์ | แมลนวลแบบ 6 สปีด |
| ระบบจุดระเบิด | ระบบจุดระเบิดคู่ |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีด |
| ระบบสตาร์ท | Electric starter |
| ระบบคลัตซ์ | คลัตซ์แบบเปียก (Wet Clutch) |
| ระบบส่งกำลังสุดท้าย | โซ่ |
| ขนาดยาง และล้อหน้า | 120/70-ZR17 |
| ขนาดยาง และล้อหลัง | 200/55-ZR17 |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | WP APEX-USD 48มม. Semi-Active ระยะยุบ 125 มม. |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | WP APEX-LINKAGE Shock Semi-Active ระยะยุบ 140 มม. |
| เบรกหน้า | ดิสก์เบรกคู่พร้อมคาลิเปอร์ Brembo Monoblock แบบสี่ลูกสูบขนาด 320 มม. |
| เบรกหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์จาก Brembo แบบสองลูกสูบขนาด 240 มม. |
| กว้าง x ยาว x สูง | 843 x 2,120 x 1,133 มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,491 มม. |
| ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ | 149 มม. |
| ความสูงเบาะ | 834 มม. |
| น้ำหนักตัวรถ | 212 กิโลกรัม |
| ความจุถังน้ำมัน | 17.5 ลิตร |
| ประเภทของน้ำมันที่เติมได้ | N/A |
| เทคโนโลยี |
|
สำหรับราคาวางจำหน่ายของโมเดล 2026 BRABUS 1400 R SIGNATURE EDITION ยังไม่มีเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าราคาน่าจะดุเดือดเอาเรื่องอยู่พอสมควร สำหรับสาวกค่ายเลือดส้มที่ชื่นชอบความแตกต่าง และอยากมีไว้ครอบครองไม่ควรพลาด
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
