SuperBikeMag.Com ข่าวมอเตอร์ไซค์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์

XPENG MONA M03

หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบรุ่นท็อปในช่วงปลายปี 2568 XPENG MONA M03 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะในกลุ่ม C-Segment ที่มีการแข่งขันสูงที่สุด รถรุ่นนี้คือผลผลิตจากการร่วมมือระหว่าง XPENG และ Didi (ยักษ์ใหญ่ด้าน Ride-hailing) โดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าแต่ไม่ทิ้งเทคโนโลยีระดับสูง

ดีไซน์อากาศพลศาสตร์ที่ทำลายสถิติโลก

หนึ่งในจุดเด่นที่น่าทึ่งที่สุดของ MONA M03 คือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Drag Coefficient) ที่ต่ำเพียง 0.194 Cd ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในโลกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซีดานแบบ Mass Production การออกแบบนี้ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ช่วยเพิ่มระยะทางการวิ่ง (Range) ได้มากกว่า 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับรถที่มีดีไซน์ต้านลมทั่วไป นอกจากนี้ยังมีระบบกระจังหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active Grille Shutter) ที่ช่วยระบายความร้อนและจัดการทิศทางลมได้อย่างแม่นยำ

ขุมพลังและการขับเคลื่อนที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ทางค่ายแบ่งรุ่นย่อยของ MONA M03 ออกเป็น 3 รูปแบบ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

  • รุ่น Standard (515 กม. CLTC): มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาด 51.8 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก

  • รุ่น Long Range (620 กม. CLTC): อัปเกรดแบตเตอรี่เป็น 62.2 kWh และมอเตอร์ 218 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.4 วินาที

  • รุ่น 580 Max: รุ่นไฮไลต์ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ XNGP ที่ทำงานผ่านระบบ Vision-based (กล้องรอบคัน) โดยไม่ต้องพึ่งพา LiDAR ช่วยลดต้นทุนตัวรถแต่ยังคงความปลอดภัยระดับสูง

XPENG MONA M03

ห้องโดยสาร “Smart Cockpit” และพื้นที่เก็บสัมภาระเกินตัว

ภายในห้องโดยสารเน้นความมินิมอลแต่ทรงพลังด้วยหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 15.6 นิ้ว และระบบเสียงรอบทิศทาง 18 ลำโพง ที่ปรับแต่งมาเพื่อสร้างประสบการณ์แบบ Immersive Theater นอกจากนี้ XPENG ยังแก้ Pain Point ของรถซีดานด้วยการออกแบบฝาท้ายแบบ Hatchback เปิดได้กว้าง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 621 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่ารถ SUV ขนาดกลางหลายรุ่นในตลาด

วิเคราะห์ราคาและความเป็นไปได้ในการทำตลาดในไทย

ด้วยราคาเปิดตัวในจีนที่เริ่มต้นเพียง 119,800 หยวน (ประมาณ 5.7 แสนบาท) ทำให้ MONA M03 เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ BYD Dolphin และ MG4 หาก XPENG Thailand ตัดสินใจนำเข้ามาจำหน่ายในปี 2569 คาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 850,000 – 990,000 บาท (ขึ้นอยู่กับนโยบายภาษีสรรพสามิตใหม่ในปี 2569) ซึ่งจะทำให้มันกลายเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดในด้าน “เทคโนโลยีต่อราคา” ทันที

XPENG MONA M03

ก้าวสำคัญของ XPENG สู่ตลาดโลก

XPENG MONA M03 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่ง แต่มันคือการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี AI และระบบขับขี่อัตโนมัติไม่จำเป็นต้องสงวนไว้สำหรับรถหรูราคาแพงเท่านั้น ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย สเปกที่ใช้งานได้จริง และราคาที่เข้าถึงง่าย นี่คือรถอีวีที่พร้อมจะเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากการใช้รถน้ำมันมาสู่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)

อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์อื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

อ่านข่าวรถยนต์อื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่ 

GoKart SuperBike

ชื่นชอบทีมกีฬาที่มีสีแดงเป็นชีวิตจิตใจ เช่น Ducati Lenovo และสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

บทความยอดนิยม

ข่าวล่าสุด

XPENG MONA M03 รถไฟฟ้า 100% สเปกแรง เริ่มต้น 5.7 แสนบาท

XPENG MONA M03

หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเริ่มส่งมอบรุ่นท็อปในช่วงปลายปี 2568 XPENG MONA M03 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะในกลุ่ม C-Segment ที่มีการแข่งขันสูงที่สุด รถรุ่นนี้คือผลผลิตจากการร่วมมือระหว่าง XPENG และ Didi (ยักษ์ใหญ่ด้าน Ride-hailing) โดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าแต่ไม่ทิ้งเทคโนโลยีระดับสูง

ดีไซน์อากาศพลศาสตร์ที่ทำลายสถิติโลก

หนึ่งในจุดเด่นที่น่าทึ่งที่สุดของ MONA M03 คือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Drag Coefficient) ที่ต่ำเพียง 0.194 Cd ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในโลกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าซีดานแบบ Mass Production การออกแบบนี้ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ช่วยเพิ่มระยะทางการวิ่ง (Range) ได้มากกว่า 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับรถที่มีดีไซน์ต้านลมทั่วไป นอกจากนี้ยังมีระบบกระจังหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active Grille Shutter) ที่ช่วยระบายความร้อนและจัดการทิศทางลมได้อย่างแม่นยำ

ขุมพลังและการขับเคลื่อนที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ทางค่ายแบ่งรุ่นย่อยของ MONA M03 ออกเป็น 3 รูปแบบ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

  • รุ่น Standard (515 กม. CLTC): มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาด 51.8 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก

  • รุ่น Long Range (620 กม. CLTC): อัปเกรดแบตเตอรี่เป็น 62.2 kWh และมอเตอร์ 218 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.4 วินาที

  • รุ่น 580 Max: รุ่นไฮไลต์ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะ XNGP ที่ทำงานผ่านระบบ Vision-based (กล้องรอบคัน) โดยไม่ต้องพึ่งพา LiDAR ช่วยลดต้นทุนตัวรถแต่ยังคงความปลอดภัยระดับสูง

XPENG MONA M03

ห้องโดยสาร “Smart Cockpit” และพื้นที่เก็บสัมภาระเกินตัว

ภายในห้องโดยสารเน้นความมินิมอลแต่ทรงพลังด้วยหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 15.6 นิ้ว และระบบเสียงรอบทิศทาง 18 ลำโพง ที่ปรับแต่งมาเพื่อสร้างประสบการณ์แบบ Immersive Theater นอกจากนี้ XPENG ยังแก้ Pain Point ของรถซีดานด้วยการออกแบบฝาท้ายแบบ Hatchback เปิดได้กว้าง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุดถึง 621 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่ารถ SUV ขนาดกลางหลายรุ่นในตลาด

วิเคราะห์ราคาและความเป็นไปได้ในการทำตลาดในไทย

ด้วยราคาเปิดตัวในจีนที่เริ่มต้นเพียง 119,800 หยวน (ประมาณ 5.7 แสนบาท) ทำให้ MONA M03 เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ BYD Dolphin และ MG4 หาก XPENG Thailand ตัดสินใจนำเข้ามาจำหน่ายในปี 2569 คาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 850,000 – 990,000 บาท (ขึ้นอยู่กับนโยบายภาษีสรรพสามิตใหม่ในปี 2569) ซึ่งจะทำให้มันกลายเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดในด้าน “เทคโนโลยีต่อราคา” ทันที

XPENG MONA M03

ก้าวสำคัญของ XPENG สู่ตลาดโลก

XPENG MONA M03 ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่ง แต่มันคือการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี AI และระบบขับขี่อัตโนมัติไม่จำเป็นต้องสงวนไว้สำหรับรถหรูราคาแพงเท่านั้น ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย สเปกที่ใช้งานได้จริง และราคาที่เข้าถึงง่าย นี่คือรถอีวีที่พร้อมจะเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากการใช้รถน้ำมันมาสู่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่นี่ (คลิ๊ก)

อ่านข่าวมอเตอร์ไซค์อื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

อ่านข่าวรถยนต์อื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่ 

Share It:

GoKart SuperBike

ชื่นชอบทีมกีฬาที่มีสีแดงเป็นชีวิตจิตใจ เช่น Ducati Lenovo และสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ข่าวล่าสุด

บทความยอดนิยม

รีวิวมอเตอร์ไซค์

Superbike Mag Thailand CHANEL

รีวิวรถยนต์