Kawasaki W800 Cafe กับ 5 เหตุผลว่าทำไมคุณต้องซื้อ

Kawasaki W800 Cafe กับ 5 เหตุผลว่าทำไมคุณต้องซื้อ

Kawasaki W800 Cafe

Kawasaki W800 Cafe นั้นคือเรโทรไบค์สุดเก๋าที่สืบทอดตำนานอันเป็นที่น่าจดจำมาจาก Kawasaki W1 ที่เปิดตัวครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1960 โดยยังคงถ่ายทอดความดั้งเดิมออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยรูปโฉมที่สวยงามคลาสสิกไร้ซึ่งกาลเวลา

Kawasaki W800 Cafe

และวันนี้เราจะมาอธิบาย 5 เหตุผลว่าทำไมคุณต้องซื้อ W800 Cafe ให้ฟังกันครับ

 

  • คลาสสิกสุดๆ

เป็นอีกเหตุผลแรกๆ เลยก็ว่าได้หากคุณเป็นสายคลาสสิกไบค์ ซึ่งจะซื้อรถย่อมมองในเรื่องความคลาสสิก ความดั้งเดิมมาเป็นอย่างแรก ซึ่งหากเป็นรถใหม่ในยุคนี้ ไม่มีคันไหนเกินคันนี้อีกแล้ว เพราะเจ้าคาเฟ่คันนี้มีให้แบบขีดสุด 

รูปลักษณ์ภายนอกของมันแทบจะไม่แตกต่างไปจากโมเดลดั้งเดิมเลยล่ะครับ มีเพียงแต่ชิ้นส่วนภายในและรายละเอียดในด้านวัสดุเท่านั้นที่มีการปรับปรุงพัฒนาและเปลี่ยนแปลงให้ทันยุคทันสมัยและเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์และการควบคุมรถ

Kawasaki W800 Cafe

ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า กระจกมองหลัง ไฟหน้าและไฟเลี้ยวกลมๆ มนๆ ตามแบบฉบับ โช้คแบบเทเลสโคปิกแบบมีซีลหุ้มกันฝุ่น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ ตัวเครื่องสองสูบวางตั้งระบายความร้อนด้วยอากาศ เดินท่อไอเสียคู่พร้อมปลายท่อคู่แบบสอบปลายหรือพีชูตเตอร์ ไปจนถึงล้อแบบซี่ลวดและลายดอกยางคลาสสิก เป็นต้น

 

  • โดดเด่น

Kawasaki W800 Cafe

แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่เลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานของตัวเอง หลายๆ คนมักเลือกกันที่ความแรง บ้างก็เลือกรถที่เน้นอรรถประโยชน์การใช้งาน และอีกเหตุผลคือเรื่องหน้าตา ความสวยงามและความโดดเด่น แต่น้อยคนนักที่จะเลือกรถคลาสสิก ดังนั้นเมื่อคุณขี่รถคลาสสิกคุณก็จะยิ่งโดดเด่น และเจ้า W800 Cafe คันนี้ไม่ได้แค่เด่นเพราะคนเล่นน้อยอย่างเดียว แต่มันยังสวยงามคลาสสิกแบบขนานแท้อีกด้วย


Kawasaki W800 Cafe

โดยรายละเอียดด้านความสวยงามต่างๆ ถูกใส่เข้ามาอย่างพอเหมาะพอเจาะ  ดูไม่เยอะสิ่งและเรียบง่ายสไตล์มินิมอล ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนโครเมียมแวววับจับทุกสายตาที่มองมา สีสันที่เลือกใช้บนตัวรถแม้ไม่ได้จัดจ้าน แต่ดูหรูหราทรงฐานะ เหมาะกับคนมีสไตล์ มีรสนิยม ทั้งยังแอบทันสมัยด้วยระบบไฟ LED ตามแบบสมัยนิยมอีกด้วย

 

  • ขี่ง่ายขี่สบาย

คาวาซากิได้พัฒนาเจ้าคาเฟ่คันนี้ให้มีกลิ่นอายความสปอร์ตผ่านทางโม่งบังลมด้านหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นสปอร์ตหนักๆ เหมือนคาเฟ่เรซเซอร์ มีการออกแบบมิติตัวรถมาโดยคำนึงถึงหลักเออร์โกโนมิกดีไซน์หรือสรีรศาสตร์อีกด้วย

 

ตัวแฮนด์บาร์แบบคลับแมนรูปตัว M ให้ท่านั่งที่โน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยพอให้ได้สัมผัสความเป็นสปอร์ต แต่ก็ยังคงนั่งขับขี่ได้สบาย เพราะหลังไม่ก้มมาก

ตัวก้านเบรกและก้านคลัตช์ยังสามารถปรับระยะให้เข้ากับความชอบของผู้ใช้ได้อีกด้วย ช่วงล่างที่ให้มาก็มีขนาดใหญ่เพียงพอและโช้คหลังเองก็ปรับพรีโหลดได้ ช่วยให้ขี่ได้ดี ไม่ย้วย แต่ขณะเดียวกันก็ยังซับแรกกระแทกได้ดี

 

 

  • ไม่ละเลยความปลอดภัย

ไม่ใช่ว่าเจ้าคาเฟ่คันนี้จะมีดีแต่เรื่องความคลาสสิกและความสวยงามเท่านั้น ทางค่ายเขียวเขายังได้ใส่เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาให้ ทั้งระบบเบรก ABS และแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ 

ฟังดูมีแค่ 2 อย่าง อาจจะคิดว่าน้อยจัง ซึ่งจริงๆ แม้จะไม่มากมายอะไร แต่สำหรับคนที่ขี่รถสไตล์นี้ก็บอกได้เลยว่าเพียงพอแล้ว คนที่เลือกรถสไตล์คลาสสิกเขาก็เน้นการขี่แบบชิลล์ๆ มากกว่าที่จะเป็นความเร็วอยู่แล้ว ดังนั้นระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ กับระบบเบรก ABS ที่ทำงานร่วมกับดิสก์เบรกเดี่ยวขนาดใหญ่ด้านหน้าและดิสก์เบรกหลังนั้นก็เพียงพอกับใช้งานโดยทั่วไปแล้วครับ

 

  • เครื่องยนต์ทรงพลัง

แม้ว่าเครื่องยนต์ของ W800 Cafe จะไม่ได้เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงระดับชั้นแนวหน้าหรือแบบรุ่นเรือธง แต่เครื่องสองสูบระบายความร้อนด้วยอากาศขนาด 773 ซีซี แบบหัวฉีดก็ทรงพลังดีตั้งแต่ในช่วงรอบต่ำจนถึงกลาง โดยเคลมแรงม้ามาที่ 47 แรงม้าที่ 6,000 รอบและแรงบิดที่ 62.9 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบ 

Kawasaki W800 Cafe

ซึ่งเรียกว่ากำลังมาในรอบไม่สูงเลย ตัวรถจึงสามารถที่จะเร่งแซง หรือออกตัวได้ง่าย ไม่ต้องเค้นกันหนักๆ แต่ความเร็วยืนพื้นก็จะไม่สูงมากนัก ทว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถสไตล์นี้ครับ Kawasaki W800 Cafe

โดยสรุปแล้ว แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นรถที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่มันเป็นรถที่มีความคลาสสิก ความสวยงามไปตลอดจนถึงความโดดเด่นลงตัวในระดับต้นๆ บวกกับเป็นรถที่มีสตอรี่มีเรื่องราว

และหากคุณเป็นคนมีสไตล์ ชอบความโดดเด่น เรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ลืมเรื่องความปลอดภัยและรถที่ใช้งานได้ในทุกๆ วัน คุณยิ่งต้องมองเจ้าคาเฟ่คันนี้ครับ

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles