New Honda CUV:e ล้ำหรือหลุด (จากอนาคต)

0
942

New Honda CUV:e ล้ำหรือหลุด (จากอนาคต)

New Honda CUV:e
เพราะเทรนด์ปัจจุบันของวงการยานยนต์ คือการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

New Honda CUV:e สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 100% จากค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ทำการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Show 2025 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยการเปิดตัวดังกล่าวก็ได้รับการสนใจจากเหล่าสาวกสกู๊ตเตอร์ชาวไทยอยู่ไม่น้อย ซึ่งในในครั้งนี้ทางเรา SuperBikeMag ก็ได้ร่วมทดสอบอย่างเป็นทางการของเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาครับ จะมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

New Honda CUV:e
รู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ ขอร่วมเฟรมด้วยหน่อย

ก่อนที่จะไปเริ่มกัน ก่อนอื่นต้องขอบอกกับผู้อ่านทุกท่านเลยว่าส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกตื่นเต้นกับเจ้าโมเดลนี้เป็นอย่างมาก เพราะครั้งแรกที่ได้เห็นดีไซน์การออกแบบตอนที่เจ้าโมเดลนี้ยังไม่ได้เข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศไทยก็มีความรู้สึกว่าถ้าได้เอามาลองใช้จริง วิ่งจริง ๆ บนถนนกรุงเทพมหานครที่รถติด ๆ มันจะฟีลลิ่งยังไง ซึ่งครั้งนี้ทางทีม SuperBike ได้มีโอกาสได้ร่วมทดสอบขับขี่กับทางฮอนด้า ซึ่งเส้นทางที่ได้วิ่งทดสอบก็ต้องขอบอกเลยว่า ‘เส้นทางสำหรับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า’ ของวัยรุ่นเมืองหลวงโดยแท้

New Honda CUV:e
ขบวนเริ่มออกจาก One Bangkok เพื่อออกไปซิ่งกันในเมือง

โดยเส้นทางที่ได้ไปทดสอบขับขี่นั้นจะเริ่มต้นกันที่ One Bangkok ตัดเข้าถนนวิทยุ ต่อไปที่สาธร ขับขี่ไปเรื่อย ๆ จนถึงถนนเจริญกรุง บางรัก เยาวราช ออกมาที่สนามหลวง เสาชิงช้า ก่อนที่จะแวะดื่มเครื่องดื่มแบบสโลว์ไลฟ์ แล้วขับขี่ไปกันต่อที่หัวลำโพง แล้วไปสาธิตการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ Block28 ย่านจุฬา แล้วขับขี่กลับมาที่ One Bangkok ซึ่งระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

จาก Route การขับขี่ดังกล่าวที่ได้แจ้งไปเมื่อข้างต้น แน่นอนว่าพวกเราขับขี่กันในช่วงเวลาประมาณบ่ายสามกว่า ๆ ค่อนไปทางสี่โมงเย็น จากเวลาดังกล่าวหากมีความคิดว่ารถติดไหม ? บอกได้เลยครับว่า ‘มาก’ มากที่แปลว่าติดมาก แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่่ท้าทายไม่น้อย เพราะพลังงานจาก 100% โดยที่ไม่เปลี่ยนแบตเตอรี่เลยจะเอาอยู่หรือไม่

มอเตอร์ไฟฟ้า 6 กิโลวัตต์กำลังวิ่งสนุก

แกล้ง ๆ ขับผ่านในโซนหัวลำโพง

เริ่มกันที่สเปคขุมพลังของเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า Honda CUV:e ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 6 กิโลวัตต์ ถ้าเทียบเป็นขนาดเครื่องยนต์จะเทียบเท่าเครื่องยนต์ประมาณ 110 ซีซี ด้วยความเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเรื่องแรงต้นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เมื่อไหร่ที่เปิดคันเร่งขุมพลังมอเตอร์ก็พร้อมมอบประสิทธิภาพให้กับผู้ขับขี่

หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานจริงก็การันตีเลยว่าพละกำลังของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ มอเตอร์เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะหลังจากที่ได้ทดสอบขับใน Route ที่กล่าวไปเมื่อข้างต้น แน่นอนว่ารถติดมาก และต้องมีการเปิดคันเร่ง และผ่อนคันเร่งอยู่เป็นระยะ

ซึ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ก็สามารถตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงจังหวะไหล ๆ ค่อยเปิดคันเร่ง คันเร่งก็เดินได้อย่างสมูท ไหลลื่นไม่มีสะดุด จังหวะไหนที่ต้องการเร่งแซง ทอร์กมาดีมาก ๆ เปิดคันเร่งแซงสามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา

ท้องฟ้ายามเย็นกับการขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าชิล ๆ ย่านเสาชิงช้า

เมื่อมาถึงเรื่องขุมพลังมอเตอร์ก็ขอพูดถึงเจ้า ‘โหมดการขับขี่’ สักหน่อย ซึ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมกับโหมดขับขี่สามรูปแบบได้แก่ Normal Mode (ธรรมดา), ECON Mode (ประหยัด) และ Sport Mode (สปอร์ต) 

เริ่มจากโหมดธรรมดา เพราะเป็นโหมดเริ่มต้นเมื่อเราสตาร์ทรถโหมดนี้ก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติการพละกำลัง อัตราเร่งก็สามารถทำได้ตามมาตรฐานของสกู๊ตเตอร์ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเทียบเท่าขนาด 110 ซีซี ถัดมาที่โหมด ECON Mode หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโหมดประหยัด พอสลับมาใช้โหมดดังกล่าวความคล่องตัวของเครื่องยนต์ถูกลดทอนไปพอสมควร และในโหมดสปอร์ต สามารถรีดพละกำลังสูงสุดของตัวรถออกมาได้อย่างเต็มพิกัด หรือเรียกง่าย ๆ ว่าหัวโยกมากยิ่งขึ้น

และถ้าถามว่ามันกินแบตขนาดนั้นไหมเมื่อลองใช้ขับขี่แบบจริงจัง หลังจากที่ออกจาก One Bangkok ด้วยแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 98% ก่อนที่จะกลับมาถึง One Bangkok ด้วยแบตเตอรี่ที่เหลือประมาณ 35% ก็ถือว่าไม่แย่ แต่ถ้าไรเดอร์ส่งอาหารจะเอามาใช้ก็อาจจะเป็นจุดพิจารณาที่ต้องคำนึงเสียหน่อย

ขนาดมินิไซส์ บอกเลยขับขี่ง่ายมาก

ทางเราได้ขับขี่ในรุ่นย่อย Conectivity

ถัดมากับเรื่องของ ‘ดีไซน์ของรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า’ คันนี้ ซึ่งเจ้าคันนี้มาในคอนเซปต์ดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน มาพร้อมไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED ในเรื่องของขนาดของรถคันนี้ สำหรับผู้อ่านท่านไหนที่จินตนาการไม่ออกว่าขนาดของเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้มีขนาดเท่า ๆ กับรถจักรยานยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปประมาณไหน เจ้ารถคันนี้มันมีขนาดพอ ๆ กับ Honda Scoopy, Honda Giorno, Honda Move ไม่เกินนี้ 

เพราะไซส์ไม่ใหญ่ กระทัดรัด ความคล่องตัวของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้มาเป็นอันดับ 1 จากที่ได้ลองทดสอบขับขี่จริง การมุดรถติดบนถนนย่านสาทร บอกได้เลยว่า Honda CUV:e สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม

บรรยายกาศช่วงติดไฟแดงก่อนถึง Block28 เพื่อทำการ Swap แบตเตอรี่ของตัวรถ

ในส่วนของช่วงล่าง หรือยางที่มาติดรถก็ถือว่าเป็นสเปคทั่วไป เป็นสิ่งที่แค่พอใช้งานได้ แต่ก็อย่างว่าครับ มันเป็นเพียงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าน่าจะไม่ได้ใช้งานแบบหนัก ๆ อยู่แล้ว และระบบเบรกของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ก็มาพร้อมกับระบบเบรกแบบ Combi-Brake ซึ่งเป็นระบบกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหลัง กับล้อหลังอย่างสมดุล เพื่อให้การเบรกมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

หลังจากที่เล่าฟีลลิ่งการขับขี่ของเจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้แบบครบถ้วนแล้ว ในส่วนถัดมาจะขอมาอธิบายถึงเจ้ารถคันนี้ก่อนว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร

New Honda CUV:e
เปิดตัวแล้วในประเทศไทยอย่างเป็นทางการสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% จากฮอนด้า

New Honda CUV:e สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 100% จากค่ายฮอนด้ามาพร้อมคอนเซปต์ ‘Smart Ride, Future Ready’ ตัวรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 6 กิโลวัตต์ ทางค่ายเคลมความเร็วสูงสุดว่าสามารถทำได้อยู่ที่ 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางต่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่หนึ่งครั้งสามารถวิ่งด้วยระยะทางไกลสุดที่ 70 กิโลเมตร

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบได้แก่ Standard (ปกติ), Sport (สปอร์ต) และ ECON (ประหยัด) และสำหรับยูสเซอร์หรือผู้ขับขี่คนไหนที่กังวลว่าขับขี่แล้วแบตเตอรี่หมด แล้วจะเปลี่ยน หรือชาร์จยังไง

New Honda CUV:e
สถานีสลับแบตเตอรี่ที่พร้อมให้บริการแล้วทั่วกรุงเทพมหานคร

ทางฮอนด้ามีตู้สำหรับ Honda Electric SWAP STATION สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการครอบคลุมแล้วกว่า 44 ตู้ทั่วประเทศ และแบ่งเป็น 33 แห่งทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เรียกได้ว่าหากแบตเตอรี่ใกล้หมดก็สามารถหาตู้ดังกล่าวที่อยู่ใกล้ ๆ ท่านได้เลย

 

แน่นอนว่าเรื่องความสะดวกสบายมาเป็นอันดับที่ 1 เพราะผู้ขับขี่เพียงแค่ Scan – Swap – Start ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่จอดรถจนถึงเปลี่ยนแบตเตอรี่เสร็จใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที โดยไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จ เพราะตู้จะมีแบตเตอรี่ที่เตรียมพร้อมให้กับผู้ขับขี่ใช้งานแสตนบายไว้รอ

โดย Honda CUV:e คันนี้มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อยได้แก่รุ่น Standard และรุ่น Conectivity โดยสิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองรุ่นย่อยคือ เรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 6 กิโลวัตต์, ระบบสตาร์ทด้วยรีโมทแบบ Smart Key, ช่องจ่ายไฟแบบ USB Type-C บริเวณช่องเก็บของ, โหมดการขับขี่, ระบบช่วยถอยหลัง (Reverse Assist) และระยะกิโลเมตรที่สามารถวิ่งได้เพียงเท่านั้น

New Honda CUV:e
หน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 7 นิ้วในรุ่น Conectivity

โดยจุดที่แตกต่างกันคือ รุ่น Standard จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว ไม่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ และทางด้านรุ่น Conectivity จะมาพร้อมกับหน้าจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชัน Honda RoadSync Duo ที่เป็นแอพพลิเคชั่นที่พัฒนามาจาก Honda RoadSync ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง เปลี่ยนเพลง หรือแม้แต่รับสาย ก็สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่

เปิดให้บริการเฉพาะเช่าขับเท่านั้น

New Honda CUV:e
ดีไซน์ล้ำสมัยรอบคัน

สำหรับผู้สนใจอยากจะครอบครองรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันนี้ก็ต้องแจ้งให้ทราบก่อนเลยครับว่าโมเดลนี้ทางฮอนด้าไม่มีวางจำหน่าย แต่จะเปิดให้ผู้ที่สนใจเช่าขับเพียงเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ในประเทศไทยจะมีเพียงแค่โมเดลรุ่น Standard ให้เช่าเพียงเท่านั้น สำหรับรุ่น Conectivity อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนานวัตกรรมซึ่งถ้าสนใจรุ่นจอ TFT ขนาด 7 นิ้วก็อาจจะต้องรอก่อน

โดยรุ่น Standard จะมีราคาเปิดให้เช่าขับขี่อยู่ที่เดือนละ 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าใช้ไปแล้วอะไหล่ต่าง ๆ เกิดสึกหรอจากการใช้งานสามารถเข้าเคลม หรือเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ ที่ที่ศูนย์บริการ Honda Wing Center ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยไม่มีเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

คะแนนสำหรับการทดสอบ

Ergonomic : 8/10 รวม ๆ ขับขี่ได้อย่างสบาย ฝ่ารถติดไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นคนตัวใหญ่ขับขี่ไปนาน ๆ อาจจะมีอาการเมื่อย และประเด็นอีกอย่างคือเบาะนั่งแอบแข็ง ๆ อยู่เด้ออ้าย

Engine : 8/10 ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้าขนาดมอเตอร์แค่ 6 กิโลวัตต์ แรงต้นดีสามารถทำได้ตามกำลัง แต่รู้สึกว่าโหมดสปอร์ตน่าจะปรับค่าให้แรงขึ้นกว่านี้อีก เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่หนีจากความแรงในโหมดปกติมากนัก

 Suspension : 6/10 เก็บทุกรอยแตกถนน แต่ก็อย่างว่านี่มันสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า แต่ถ้าขาซิ่งอยากอัปเกรดโช้คอัพหน้า-หลัง จัดไป

Brake : 9.5/10 เอาอยู่แบบจัด ๆ Combi-Brake พร้อมทำงานในทุกสถานการณ์

Battery : 7/10 ในรถมี 2 ลูกระยะทางรวมวิ่งได้ 70 กิโลเมตร ซึ่งเอาจริง ๆ คิดว่าน้อยเกินไปน่าจะสัก 120-150 กิโลเมตรต่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่หนึ่งครั้งน่าจะดูดีมากกว่านี้

OVERALL : 8.5/10 สำหรับผู้ที่ต้องการหาอะไรใหม่ ๆ เบื่อรถจักรยานยนต์แบบเติมน้ำมัน ถ้าจะมาเริ่มด้วยการขี่คันนี้ไม่ใช่เรื่องแย่ ถือว่าเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ใครอยากลองมาคันนี้จัดได้เลย

สีสันที่มีให้เลือก

สีขาว (Pearl Jubilee White) สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic)

 

หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบได้ที่ เฟซบุ๊ก เพจรถจักรยานยนต์ฮอนด้า (Honda Motorcycle Thailand) (คลิ๊กที่นี่) หรือศูนย์บริการ Honda Wing Center ทุกสาขาใกล้บ้านท่านได้เลย

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here