เปิดตัว Kawasaki Z1100 พร้อมชนทุกค่าย
นับว่าเป็นการข้ามเวลาสู่ยุคใหม่ในรอบทศวรรษของการมาโมเดลสายพันธุ์ซูเปอร์เน็กเก็ตพี่ใหญ่ Kawasaki Z1100 2026 เปิดตัว เจ็นเนอเรชันแรกของซูเปอร์เน็กเก็ดไบค์ที่อัปความจุซีซีขึ้นมาจากบล็อกเครื่องพันซีซี (1,043 – 1,099) โดยใช้แพลตฟอร์มพื้นฐานสอดคล้องกับเครื่องยนต์ในรุ่น 1100SX พร้อมปรับจูนใหม่ให้ตอบสนองแรงบิดในรอบต่ำและกลาง และคงความแรงไว้รอบสูง บวกเสริมความเรซซิ่งตามแนวคิด Sugomi ตอบโจทย์ขับขี่ในแทร็คอย่างเต็มรูปแบบ โดยแบ่งเป็นรุ่น Standard และรุุ่น SE พร้อมความน่าสนใจในองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
Kawasaki Z1100 2026 สปอร์ตเต็มเปี่ยม ในสไตล์ซูเปอร์เน็กเก็ต
ถือกำเนิดเป็นเจนเนอเรชันแรกหลังมีการยืนยันหลักฐานการรับรองชื่อรุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา นี่คือ Z1000 + 100 รูปลักษณ์หน้าตาดุดัน วางองค์ประกอบลงตัวตั้งแต่คอนโซนหน้าไปยันด้านท้าย ชุดแฟริ่งออกแบบสอดรับแอโรไดนามิกลำเลียงทิศทางอากาศผ่านช่องเว้าตามสัดส่วนต่าง ๆ ช่วยลดแรงต้านอากาศและยังคงความเร็วในรอบสูง ผสานการควบคุมง่ายดายด้วยแฮนด์บาร์สไตล์รถเน็กเก็ด บวกกับท่านั่งแบบสปอร์ต (เบาะ 2 ตอน) จึงทำให้เป็นรถที่ควบคุมง่ายและมีสมรรถนะร้อนแรงระดับเรซซิ่งในสนาม
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์สี่สูบเรียง ขนาด 1,099 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ DOHC 4 วาล์วต่อลูกสูบ ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีด มีควิกชิฟเตอร์ Up-Down ระบบจุดระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ หัวฉีดไฟฟ้า มีกำลังแรงม้าสูงสุด 136 แรงม้าที่ 9,000 รอบ แรงบิด 113 นิวตันเมตรที่ 7,600 รอบ พร้อมความจุถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร
โครงสร้างและช่วงล่าง
ยึดโครงสร้างตัวเฟรมอลูมิเนียม Twin-Tube มีระยะกว้าง x ยาว x สูง (2,055 x 825 x 1,085 มม.) ระยะกราวด์เคลียแรนซ์ 125 มม. ความสูงเบาะ 815 มม. ช่วงล่างใช้โช้คหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาด 41 มม. โช้คเดี่ยวด้านหลัง ปรับได้เต็มระบบหน้าหลังทั้ง พรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน วางดิสก์เบรกหน้าคู่เซมิโฟลทติ้ง 310 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ โมโนบล็อกเรเดียลเม้าท์ ดิสก์หลังขนาด 260 มม.คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว (รุ่น SE ให้เป็นโช้ค Ohlins และปั้ม Brembo)ล้อ 17 นิ้วและยาง 120/70-190/50
ระบบอิเล็กทรอนิกส์
- ฟังก์ชันหน้าจอ TFT 5 นิ้ว
- ระบบ IMU 6 แกน
- ครูซคอนโทรล
- แทร็คชันคอนโทรล
- โหมดการขับขี่ (Sport/Rain/Road/Rider)
- ระบบ ABS Dual Channel
- พาวเวอร์โหมด
- ระบบสมาร์ทโฟน คอนเน็คทิวิตี้
- คันเร่งไฟฟ้า
โดยรุ่น Standard มาพร้อมราคาค่าตัว 11,099 ยูโร หรือราว ๆ 4.2 แสนบาท ส่วนรุ่น SE ค่าตัวคงขยับขึ้นมาราว ๆ 2 – 3 หมื่น กับสีดำเมทัลลิกมาให้เลือกแล้วนั่นเอง สำหรับการคาดการณ์ที่จะนำเข้ามาขายในบ้านเราก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงในช่วงปลายปีนี้หรือไม่ก็ช่วงต้นปี 2026 กับเน็กเก็ดไบค์คลาส 1,100 ซีซี รุ่นแรก
ก็ไม่รู้ว่าที่อัปซีซีเพิ่มมาเพื่อจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ออกแบบรุ่นเน็กเก็ดรุ่นตัว 1,000 ให้มีหน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงหรือไม่ หรืออาจเป็นเป้าหมายของทางแบรนด์ที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว (มีพื้นฐานบล็อกเครื่อง 1,100 ซีซี เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ก็เป็นไปได้ ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการลงตลาดรถ “ซูเปอร์เน็กเก็ด” ซึ่งมีไม่กี่เจ้าเท่านั้นที่ผลิตคลาสนี้ออกมาให้จับจองนั่นเอง แต่โดยภาพรวมสเปคของ Z1100 รุ่นนี้แล้ว ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงพอขิงคู่แข่งได้พอสมควรครับ