Kawasaki Versys 650 – จักรกฤษณ์ ไวประดับ (Boy)

Kawasaki Versys 650 – จักรกฤษณ์ ไวประดับ (Boy)

สวัสดีครับผมบอยครับ ปัจจุบันเป็นข้าราชการอยู่ที่โคราชครับ ตัวผมเองเริ่มศึกษาและสนใจเกี่ยวกับมอเตอร์ไบค์มาได้สักราวๆ 5 ปี แล้ว โดยเหตุผลที่เริ่มสนใจนั้นมาจากการที่มองว่ารถมอเตอร์ไบค์นั้นสามารถเข้าถึงในจุดที่รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ สังเกตจากพวกตามแนวชายแดน บนฐานปฏิบัติการบางจุดที่เข้าถึงได้แค่เฉพาะมอเตอร์ไบค์ อีกทั้งตัวผมเองชอบในมุมของธรรมเนียมการปฏิบัติที่ทักทายเวลาเจอกันระหว่างทาง ซึ่งผมมองว่าเป็นไฮไลต์ที่ไม่เหมือนใครเลย

โดยรถ Versys คันนี้เป็นคันที่สองของผม คันแรกเป็น Ninja 300 ซึ่งช่วงแรกมีโอกาสได้เดินทางไกลอยู่ 1-2 ครั้ง ซึ่งทำให้รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับแนวสปอร์ต ถึงแม้ว่าจะขับขี่ได้เร็วหรือชอบเล่นโค้งก็ตาม จึงเบนเข็มมาในแนวทางของรถทัวริ่งที่น่าจะตอบโจทย์มากกว่า รวมไปถึงตัวผมเองมีแฟนซ้อนไปด้วยก็อยากให้เค้าสบายเวลาที่ได้ซ้อน รวมถึงสัมภาระที่ขนได้มากว่าด้วยครับ ซึ่งการที่เลือก Versys นั้นเป็นเพราะรูปโฉมเลยครับ ที่ดูแบบกึ่งสปอร์ตทัวริ่ง โดยในตอนแรกนั้นเองผมนั้นก็จะขี่ถนนดำเป็นหลัก แล้วก็มีโอกาสได้ดูคลิปท่องเที่ยวใน YouTube จนได้เห็นสถานที่นึงที่น่าไปเที่ยวมากคือ ดอยสอยมาลัย .ตาก ก็เลยพาแฟนไป ซึ่งครั้งนั้นที่ไปก็ไปหกล้มคลุกคลานอยู่พอสมควร กลับมาก็เลยตัดสินใจว่าจะต้องฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นเพื่อจะได้กลับไปล้างตาอีกสักรอบ อย่างแรกก็เปลี่ยนยางให้ลุยได้มากขึ้น แต่จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับไปเลยครับ แต่ด้วยเหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำให้เราเริ่มเปลี่ยนมาสนใจในการขับขี่แนวแอดเวนเจอร์มากขึ้น จนได้มารู้จักกับ CVT (Club Versys Thailand) และได้ไปอบรมการขับขี่แบบเอ็นดูโร่ของกลุ่ม ซึ่งพอได้ไปลองขี่ครั้งนั้นก็ทำให้เกิดการอยากที่จะศึกษาให้มากขึ้น เพราะคิดว่ารถสามารถไปได้แต่เรายังไม่สามารถรีดสมรรถนะของตัวรถอออกมาได้จนหมด ก็เลยเริ่มฝึกฝนจริงจัง ทุกวันหลังเลิกงาน จนมาถึงได้มีโอกาสได้เข้าร่วมในการแข่งขัน Touratech Asia Adventure Challenge 2017 ในฐานะตัวแทนของ Club Versys Thailand ซึ่งก็สามารถผ่านเข้ารอบและได้รางวัลอันดับที่ 3 ของรุ่น จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 90 กว่าคัน ซึ่งก็นับว่ามาไกลมากจากตอนแรก

Kawasaki Versys 650

 

ส่วนแนวทางการแต่งนั้น เลือกของแต่งมาจากการใช้งานเป็นหลัก เพราะมองว่าถ้าแต่งเน้นสวยงามเป็นหลักตัวผมเองคงไม่ได้มีเวลาดูแลมันแน่ๆ เพราะรถเป็นรถที่ใช้งานจริง หลักๆ ก็จะเป็นอุปกรณ์เซฟตี้เสียมากกว่า เพราะว่าการขับขี่แนวออฟโร้ดหรือเอ็นดูโร่นั้นสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา โดยรถคันนี้ก็จะไปไหนไปกันครับ ลุยกันไปทุกที่ ทุกสภาพเส้นทาง ซึ่งการที่ได้มาขับขี่มอเตอร์ไบค์นั้นทำให้ผมคิดว่าบางทีเราอาจจะเก่งในบางเรื่องที่เรายังไม่กล้าที่จะทำ ดังนั้นอย่าไปกลัวที่จะเริ่มลองอะไรใหม่ๆ ถ้าทำแล้วมีความสุขแล้วไม่ได้เดือดร้อนอะไรก็ทำไปเถอะครับ สุดท้ายถ้าคิดว่ามันไม่ใช่ก็แค่หยุด แต่ถ้ามันใช่มันอาจจะพาเราไปเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ ของชีวิตครับ

 

อกล่าง SW-Motech
ปากนก S-venture
การ์ดแฮนด์ Barkbuster
แร็คหลัง SW-Motech

 

– การ์ดหม้อน้ำ Motoplay
แฟริ่งข้าง S-venture

 

รายการของแต่ง

แครชบาร์ล่าง SW-Motech

อกล่าง SW-Motech

การ์ดหม้อน้ำ Motoplay

ปากนก Sventure

แฟริ่งข้าง Sventure

การ์ดแฮนด์ Barkbuster

แร็คพร้อมปี๊บ SW-Motech

บังโคลนหลัง Sventure

พักเท้า KLX150

ดูรถแต่งคันอื่นๆ คลิก

 

- Advertisement -
บทความก่อนหน้านี้
บทความถัดไป
Bank Superbike
Bank Superbike
นักเขียนธรรมดา ที่คิดว่าไม่มีอะไรเกินคว้า ฟ้าไม่สูงไป ใจไม่ขี้ขลาด ชีวิตเรียนรู้ในวงการมา 9 ปี ขับขี่ได้ทั้ง 2 ล้อ 4 ล้อ เครื่องยนต์ไม่จำกัดซีซี ควรทำในส่งที่ควรทำ รักสุดใจ ลงแทร็กไปก็ขี่สุดตัวเช่นกัน..!!

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่