SuperBikeMag.Com ข่าวมอเตอร์ไซค์ รีวิวมอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์

XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป จี๊ดจ๊าดระดับ 720 นิวตันเมตร

XF30

เปิดให้จองแบบพรีออเดอร์กันแล้วกับ XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป หรือก็คือโมโตครอสไฟฟ้าจากทางบริษัท EMX Powertrain บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนา วิศวกรรม สร้างระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารวมไปถึงยานยนต์ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์โลกในยุคใหม่ ยุคที่น้ำมันกำลังแพงหูฉี่ จากพิษของสงครามรัสเซีย-ยูเครนในตอนนี้ แถมล่าสุดยังซ้ำร้ายที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ระดับท็อป ๆ ของโลกที่เกาหลีใต้ดันระเบิดซะอีก

XF30

หลังจากทุ่มเทการพัฒนากว่า 2 ปี ในที่สุดทาง EMX Powertrain ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดให้จับจองเจ้า XF30 โมโตครอสไฟฟ้าของทางค่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้แบบสาแก่ใจสายลุย ทั้งยังมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัยพร้อมกับความตื่นเต้นเร้าใจที่คุณจะได้จากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่แน่นอนว่าจี๊ดจ๊าดทันใจ แต่ก็ไม่มีไอเสียให้อากาศเป็นพิษ

XF30

ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 30 กิโลวัตต์ที่สามารถรีดกำลังที่ล้อหลังคิดคำนวณออกมาได้มากถึง 40 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลมากถึง 720 นิวตันเมตร วางลงบนเฟรมแบบบีมคู่อลูมิเนียมและเลือกใช้ระบบกันสะเทือนจาก KYB ระบบเบรกจาก Nissin ล้อซี่ลวดจาก Excel ซึ่งช่วงล่างดังกล่าวน่าจะทำให้ผู้ขับขี่ในสายทางวิบากนี้ทำความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ซึ่งในส่วนของแชสซีนั้นมี Yamaha เป็นซัพพลายเออร์ให้

นอกจากนี้ตัวรถยังมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัย ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เองก็ถูกสร้างมาเพื่อให้สามารถตอบสนองกับสไตล์การขับขี่โมโตครอสที่ต้องการพละกำลังแบบตลอดเวลา ซึ่งสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 2.5 ชม. (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้งาน) และใช้ชาร์จจนเต็มเพียง 1.5 ชม.เท่านั้น

ข้อดีของเจ้านี่ที่เป็นรถไฟฟ้าคือไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ทำให้คุณสามารถขับขี่มันได้มากเท่าที่ต้องการ ทั้งยังขับขี่ง่ายด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 115 กก.แม้ว่าจะรวมแบตเตอรี่แล้วก็ตาม

XF30

สุดท้ายนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดายสักเล็กน้อยเพราะล็อตแรกที่พร้อมจะส่งมอบในปี 2023 จะมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน อันมีสาเหตุมาจากการผลิตด้วยมืออย่างปราณีตเสียเป็นส่วนใหญ่ และจะจำหน่ายในสหภาพยุโรป อิสราเอล นอร์เวย์ ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษเท่านั้น โดยจำหน่ายในราคา 18,750 ยูโร หรือราว ๆ 680,000 บาท

ดูแล้วอาจจะแพง แต่ข้อดีของคันนี้ก็อย่างที่บอกมีชิ้นส่วนที่ต้องใช้แล้วหมดไปหรือสึกหรอน้อยกว่ารถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้เมื่อใช้ไประยะยาวแล้วจะมีความคุ้มค่ามากขึ้น

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Admin Superbike

บทความยอดนิยม

ข่าวล่าสุด

XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป จี๊ดจ๊าดระดับ 720 นิวตันเมตร

XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป จี๊ดจ๊าดระดับ 720 นิวตันเมตร

XF30

เปิดให้จองแบบพรีออเดอร์กันแล้วกับ XF30 วิบากไฟฟ้าจากแดนทิวลิป หรือก็คือโมโตครอสไฟฟ้าจากทางบริษัท EMX Powertrain บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนา วิศวกรรม สร้างระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารวมไปถึงยานยนต์ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์โลกในยุคใหม่ ยุคที่น้ำมันกำลังแพงหูฉี่ จากพิษของสงครามรัสเซีย-ยูเครนในตอนนี้ แถมล่าสุดยังซ้ำร้ายที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ระดับท็อป ๆ ของโลกที่เกาหลีใต้ดันระเบิดซะอีก

XF30

หลังจากทุ่มเทการพัฒนากว่า 2 ปี ในที่สุดทาง EMX Powertrain ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดให้จับจองเจ้า XF30 โมโตครอสไฟฟ้าของทางค่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้แบบสาแก่ใจสายลุย ทั้งยังมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัยพร้อมกับความตื่นเต้นเร้าใจที่คุณจะได้จากระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่แน่นอนว่าจี๊ดจ๊าดทันใจ แต่ก็ไม่มีไอเสียให้อากาศเป็นพิษ

XF30

ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 30 กิโลวัตต์ที่สามารถรีดกำลังที่ล้อหลังคิดคำนวณออกมาได้มากถึง 40 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลมากถึง 720 นิวตันเมตร วางลงบนเฟรมแบบบีมคู่อลูมิเนียมและเลือกใช้ระบบกันสะเทือนจาก KYB ระบบเบรกจาก Nissin ล้อซี่ลวดจาก Excel ซึ่งช่วงล่างดังกล่าวน่าจะทำให้ผู้ขับขี่ในสายทางวิบากนี้ทำความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ซึ่งในส่วนของแชสซีนั้นมี Yamaha เป็นซัพพลายเออร์ให้

นอกจากนี้ตัวรถยังมีการออกแบบระบบระบายความร้อนที่ล้ำสมัย ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่เองก็ถูกสร้างมาเพื่อให้สามารถตอบสนองกับสไตล์การขับขี่โมโตครอสที่ต้องการพละกำลังแบบตลอดเวลา ซึ่งสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 2.5 ชม. (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้งาน) และใช้ชาร์จจนเต็มเพียง 1.5 ชม.เท่านั้น

ข้อดีของเจ้านี่ที่เป็นรถไฟฟ้าคือไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ทำให้คุณสามารถขับขี่มันได้มากเท่าที่ต้องการ ทั้งยังขับขี่ง่ายด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 115 กก.แม้ว่าจะรวมแบตเตอรี่แล้วก็ตาม

XF30

สุดท้ายนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องน่าเสียดายสักเล็กน้อยเพราะล็อตแรกที่พร้อมจะส่งมอบในปี 2023 จะมีจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน อันมีสาเหตุมาจากการผลิตด้วยมืออย่างปราณีตเสียเป็นส่วนใหญ่ และจะจำหน่ายในสหภาพยุโรป อิสราเอล นอร์เวย์ ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษเท่านั้น โดยจำหน่ายในราคา 18,750 ยูโร หรือราว ๆ 680,000 บาท

ดูแล้วอาจจะแพง แต่ข้อดีของคันนี้ก็อย่างที่บอกมีชิ้นส่วนที่ต้องใช้แล้วหมดไปหรือสึกหรอน้อยกว่ารถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้เมื่อใช้ไประยะยาวแล้วจะมีความคุ้มค่ามากขึ้น

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Share It:

Admin Superbike

ข่าวล่าสุด

บทความยอดนิยม

Superbike Mag Thailand