Honda CB125R 2026 เปิดตัวปรับสีใหม่ เสริมหล่อสายนีโอคาเฟ่
ในปี 2026 ฮอนด้าเสริมทัพสายเน็กเก็ตคลาสเล็กในยุโรปด้วยการเปิดตัว Honda CB125R 2026 รุ่นปรับโฉมเน้น อัปเดตสีและความสดใหม่มากกว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างใหญ่ โดยตัวรถยังคงคอนเซ็ปต์ Neo Sports Cafe เช่นเดิม แต่เพิ่มความพรีเมียมด้วยโทนสีใหม่และกราฟิกที่ช่วยให้ทันสมัยและเด่นชัดขึ้น
Highlight
ไฮไลท์หลักของ CB125R รุ่นปี 2026 คือการปรับ สีตัวถังใหม่ 4 สี ประกอบไปด้วย สีเทาเข้ม (Mat Rock Gray), สีเทา (Mat Lucent Silver Metallic), สีน้ำเงิน (Zefiro Blue Metallic) และสีแดง (Mat Pearl Diaspro Red)
 |
 |
ซึ่งทุกสีมาพร้อมแฟริ่งท้ายทำสีเข้าชุด ลายโลโก้ “CB125R” ตัดสีที่ช่องรับลมข้างถัง และโลโก้ปีก Honda สีดำบนถังน้ำมัน ช่วยขับเส้นสายตัวรถให้ชัดและดุดันขึ้น โดยฮอนด้าระบุว่าการรีเฟรชสีครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อ ต่ออายุความสดใหม่ให้กับหนึ่งในโมเดล 125 ซีซีที่ขายดีที่สุดในยุโรป และคงความนิยมในหมู่วัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มขี่บิ๊กไบค์คลาสเริ่มต้น
ดีไซน์ยังยึดสไตล์ Neo Sports Café แบบมินิมอลแต่พรีเมียม เน้นทรงถังเหลี่ยมคม ไฟหน้าทรงกลม LED และเส้นสายตัวรถที่ผสมระหว่างความเรโทรกับความล้ำแบบสตรีทไบค์ยุคใหม่ จุดเด่นคือการถอดแบบจากโมเดลรุ่นพี่ตระกูล CB ทั้งรุ่น 1,000 และ 650 ซีซี หน้าจอ TFT สีขนาด 5 นิ้ว เฟรม Diamond ดีไซน์แต่แข็งแรง เน้นบาลานซ์สำหรับการควบคุมและความคล่องตัวในเมือง ในภาพรวมดีไซน์ไม่ได้พลิกใหม่ยกคันแต่เป็นการแต่งหน้าทาปากให้ดูสดขึ้น พร้อมฮาร์ดแวร์ระดับสูงที่ยังคงเป็นจุดขายหลักสำหรับรุ่นนี้
เครื่องยนต์สูบเดียว 124.9 ซีซี DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5+ ให้กำลังสูงสุดราว ประมาณ 14.7 แรงม้าที่ 10,000 rpm พร้อมแรงบิดประมาณ 11.6 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบ จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เน้นตอบสนองคล่องตัวในเมืองและใช้งานจริง
โช้คหน้าแบบหัวกลับ Showa 41 มม. ด้านหลังเป็นโมโนช็อคพร้อมสวิงอาร์มระบบเบรกหน้าใช้จาน 296 มม. ปั๊มเรเดียล 4 พอท พร้อม ABS ทำงานร่วมกับ IMU ช่วยควบคุมแรงเบรกหน้า-หลังให้สมดุล ในเวลารถเอียงหรือเบรกแรง ๆ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขี่หน้าใหม่อย่างมากในน้ำหนักรวมเพียง 130 กก.
จะมาไทยในคราบรถ 150 ซีซี ช่วงไหน ?
เมื่อเขียนรถคลาส 125 มักจะมีคำถามตามมาว่า รุ่น 150 ซีซีจะเข้ามาไทยช่วงไหน ? น่าเป็นช่วงกลางปีหน้าในลักษณะไมเนอร์เชนจ์แบบเดียวกับรุ่นที่เปิดตัวมานี่แหล่ะครับ ไลน์โปรดักท์ออกมาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำไปใช้บนแพลตฟอร์มเครื่องยนต์ 150 ซีซีต่อ แต่ว่าจะผลิตกี่คันส่วนนี้ก็ไม่ทราบแน่นอน อย่างไรก็รอติดตามข่าวสารจากทางต้นสังกัดอย่างแน่ชัดอีกทีครับ
