ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ

ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ
Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3GASGAS)

ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ

 

นับเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและสมรรถนะของยางแบรนด์อิตาลีอย่างพีเรลลีที่ปีนี้ได้เป็นผู้ซัพพอร์ตยางสำหรับการแข่งขันในรายการ Moto2 และ Moto3 ได้เป็นอย่างดี หลังจากการแข่งขัน MotoGP 2024 ที่โปรตุเกสจบลง โดย ยางซอฟต์จาก Pirelli มีส่วนช่วยหนุนนักแข่งทั้งในพิกัด Moto2 และ Moto3 ทำลายสถิติเวลาของสนามนี้ทั้งสถิติเวลาสนามและสถิติเวลาแข่ง

ทุบสถิติสนาม

ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ
Manuel Gonzalez (QJMOTOR Gresini Moto2 – Kalex)

สำหรับรอบควอลิฟาย Manuel Gonzalez (QJMOTOR Gresini Moto2/Kalex) เป็นคนที่เร็วที่สุดในคลาส โดยทำเวลาได้ที่ 1’41.514 นาที จัดเป็นสถิติสนามใหม่ในรุ่นนี้ และได้ตำแหน่งโพลไปครอง เช่นเดียวกันกับ Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) ได้ตำแหน่งโพลในรุ่น Moto3 ด้วยสถิติเวลาใหม่ของสนามเช่นกัน โดยทำเวลาได้ที่ 1’46.379 นาที ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวนักแข่งล้วนมั่นใจในยางซอฟต์ โดยรุ่น Moto2 นิยมเลือกยางหน้า SC1 และยางหลัง SC0 ขณะที่รุ่น Moto3 เลือกใช้ SC1 ทั้งในยางหน้าและยางหลัง

สถิติที่ว่านี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือได้มาโดยง่าย โดยในช่วงเช้าวันศุกร์นั้นแทร็กค่อนข้างจะสกปรกเนื่องจากฝนและทรายผสมปนเปกันในตอนกลางคืน และทำให้ต้องมีการยกเลิกช่วงซ้อมอิสระของทาง Moto3 ไป แต่หลังจากที่นักแข่งค่อย ๆ ขี่ไปได้สักแล็ปสองแล็ป แทร็กก็ดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้สามารถที่จะรีดเวลาแล็ปได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในช่วงของการควอลิฟาย

Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo – KTM)

ในรอบของการควอลิฟาย Moto3 จัดขึ้นขณะที่มีอุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 23 องศา ส่วนผิวแทร็กอยู่ที่ราว ๆ 32 – 35 องศา โดยเริ่มแรกมี Joel Kelso (BOE Motorsports/KTM) เป็นคนแรกที่ประเดิมการทำลายสถิติสนามที่ Ayumu SASAKI ทำไว้ในปี 2023 และเมื่อจบการควอลิฟาย นักแข่งที่มีชื่ออยู่ใน 4 อันดับแรก Rueda, Kelso, Alonso, และ Holgado ตามลำดับล้วนแล้วแต่ ทำเวลาทะลุสถิติเดิม โดย Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) โพลแมน ทำสถิติเวลาดีที่สุดในแล็ปที่ 7 ทำสถิติสนามใหม่ โดยดีกว่าสถิติเดิมเกือบ ๆ 0.4 วินาที แน่นอนว่าทุกคนใช้ยางหลังแบบซอฟต์หรือ SC1 แต่ตัวเลือกยางหน้านั้นต่างกันออกไป

Joel Kelso (BOE Motorsports – KTM)

มาดูรุ่น Moto2 กันบ้าง นักแข่งหัวแถวทั้ง 4 คน เลือกยางเหมือนกันคือเลือกยางซอฟต์ที่สุดเท่าที่มีให้ โดยเลือกยางหน้าเป็น SC1 และยางหลัง SC0 แม้ว่าใน Q1 จะเลือกยางต่างกันก็ตาม โดย สมเกียรติ, Angius และ Ogura ใช้ยางหน้าเป็น SC2 แต่ต่อมาก็เปลี่ยน โดยในการควอลิฟายเป็น Manuel Gonzalez (QJMOTOR Gresini Moto2/Kalex) ที่เซ็ตสถิติของสนามในพิกัดนี้เสียใหม่ในแล็ปที่ 7 ด้วยเวลา 1’41.514 คว้าตำแหน่งโพลไปครอง นอกจากนี้แล้วทั้ง 4 คนนี้ยังทำเวลาทะลุสถิติสนามเดิมที่ Aron Canet เคยทำไว้ในปี 2023

ทุบสถิติเวลาแข่ง

โพเดียม Moto22
โพเดียม Moto3

และเมื่อการแข่งขันจริงของทั้งสองรุ่นภายใต้การซัพพอร์ตของพีเรลลี่จบลง ผลออกมาก็คือสองนักแข่งจากสเปน ทั้ง Aron Canet (Fantic Racing/Kalex) ในรุ่น Moto2 และ Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3/GASGAS) ในรุ่น Moto3 เป็นผู้ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมและคว้าชัยชนะในพิกัดของตัวเองไป

Aron Canet (Fantic RacingKalex)

ในรุ่น Moto2 นั้นการเลือกยางหลังนั้นทุกคนใจตรงกันหมด โดยทุกคนเลือกใช้ยางหลังเป็น SC0 ยางซอฟต์ที่สุดที่มีให้ใช้ในสนามแห่งนี้ ในขณะที่รุ่น Moto3 ยาง SC1 เป็นยางที่นักแข่งเลือกใช้มากที่สุด 17 คนจาก 27 คน ส่วนเรื่องของการเลือกยางหน้านั้นต่างกันออกไป วินเนอร์อย่าง Canet เลือกใช้ SC2 ขณะที่ Joe Roberts  (OnlyFans American Racing Team/Kalex) และโพลแมน Manuel Gonzalez เลือกใช้ยางหน้า SC1

Fermφn Aldeguer (Beta Tools SpeedUpBoscoscuro)

อย่างไรก็ตามสถิติเวลาแข่งขันที่เร็วที่สุดในรุ่น Moto2 นั้นตกเป็นของ Fermín Aldeguer (Beta Tools SpeedUp/Boscoscuro) ที่สามารถทำสถิติเวลาแข่งเร็วที่สุดได้ที่ 1’42.221 นาที ในแล็ปที่ 11 เร็วกว่าสถิติเดิมของ Remy Gardner ที่ทำไว้ในปี 2020 เกือบ 0.3 วินาที นอกจากนี้เวลาที่ใช้แข่งโดยรวมของรุ่นนี้ยังดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอีกด้วย

ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ
Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3GASGAS)

ขณะที่ในรุ่น Moto3 นั้นเราจะได้เห็นสูตรการเลือกยางของนักแข่งที่มีหลากหลายแตกต่างกันออกไป อย่าง Daniel Holgado (Red Bull GASGAS Tech3/GASGAS) วินเนอร์เลือกแปลก ใช้ยาง SC2 ทั้งหน้าและหลัง ส่วน Jose Antonio Rueda (Red Bull KTM Ajo/KTM) ที่ได้อันดับ 2 เลือกใช้ SC1 ทั้งหน้าและหลัง และ Ivan Ortola (MT Helmets – MSI/KTM) เลือกใช้ยางหน้า SC2 และยางหลัง SC1 ซึ่งโดยรวมแล้วยางหน้าที่นิยมมากที่สุดจะเป็น SC2 เลือกใช้ 18 คนจากทั้งหมด 26 คน ขณะที่ยางหลังจะเป็น SC1 เลือกใช้มากที่สุด 15 คนจาก 26 คน

David Alonso (CFMOTO Gaviota Aspar TeamCFMOTO)

ส่วนเรื่องของสถิติเวลานั้นเป็น David Alonso (CFMOTO Gaviota Aspar Team/CFMOTO) ที่ทำสถิติเวลาแข่งขันขึ้นใหม่ด้วยเวลา 1’46.985 นาทีในแล็ปที่ 6 โดยเร็วกว่าสถิติเดิมของ Deniz Oncu ในปี 2023 เกือบ 0.6 วินาที  นอกจากนี้การแข่งขันพิกัดนี้ยังจบเร็วกว่าปีที่แล้วถึง 18 วินาทีด้วยกัน เท่ากับว่าเวลาโดยรวมเร็วขึ้นตกเฉลี่ยนแล็ปละเกือบ 1 วินาทีเลยทีเดียว

และทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมที่พีเรลลี่ช่วยให้นักแข่งทั้งสองรุ่นสามารถทำลายสถิติเวลาของสนามแห่งนี้ได้ทั้งสถิติเวลาสนาม และสถิติเวลาแข่ง ยกระดับมาตรฐานของการแข่งขันให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก สมแล้วที่จะพูดว่า ยางซอฟต์จาก Pirelli หนุนนักแข่ง Moto2, Moto3 ทุบสถิติ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่