Honda Giorno สีใหม่ ปี 2025
Honda Giorno+ 2025 สกู๊ตเตอร์ดีไซน์คลาสสิกสมัยใหม่ที่มีความสวยงามและมีสไตล์ โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 50cc (สำหรับตลาดญี่ปุ่น) และรุ่น 125cc (Giorno+) จุดเด่นของรุ่นนี้คือรูปลักษณ์ที่ทันสมัยผสมผสานกับความย้อนยุค พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ เช่น ระบบกุญแจ Smart Key, ช่องชาร์จ USB และพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ รุ่น Giorno+ ที่เป็นเครื่องยนต์ 125cc มาพร้อมเครื่องยนต์ eSP+ และฟีเจอร์ล้ำสมัยอย่างถังน้ำมันด้านหน้า ในขณะที่รุ่น 50cc จะเน้นดีไซน์น่ารัก เรียบง่าย และประหยัดน้ำมันเป็นหลัก
โดยรุ่นดังกล่าวมีจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น ประกอบไปด้วย รุ่น ABS มีจำหน่ายทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีส้ม-ดำ สีเทา-ดำ สีขาว-ดำ และสีดำ ราคาแนะนำ 67,700 บาท และรุ่น รุ่น CBS มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว-ดำ สีเหลือง-ดำ และสีดำ ราคาแนะนำ 62,700 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ ฮอนด้า วิงก์ เซ็นเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
เปิดแฟชันบนรันเวย์ พร้อมกับรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่จากค่ายปีกนก ซึ่งนอกจากจะเปิดตัวพญาหลีด อย่าง Honda Lead125 2025 ไปแล้ว อีกหนึ่งรุ่นซึ่งได้รับกระแสการตอบรับมากมายไม่แพ้เช่นเดียวกันนั่นก็คือ Honda Giorno+ สกู๊ตเตอร์ทรงเทโทร มาพร้อมกับ 7 สี 7 สไตล์ ในราคาที่โดนใจมาให้เลือกกันแล้ว
พร้อมสานต่อความสำเร็จครั้งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rise to New High พาสไตล์ของคุณไม่เหมือนใคร” ดีไซน์โดดเด่นด้วยฝาครอบไฟหน้าเปลี่ยนโฉมใหม่ เอ็มเบล็มสีโครเมียม วิบวับ สะดุดตา ส่วนมิติสัดส่วนต่าง ๆ ยังคงความเป็นสกูตเตอร์โมเดิร์นคลาสสิก ไฟกลม ดูสวยงามและทันสมัย
มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ในพิกัด 125 ซีซี พร้อมระบบ Piston Oil Jet หรือหัวฉีดน้ำมันใต้ลูกสูบ ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นด้วยหัวฉีด PGM-Fi เพิ่มประสิทธิภาพความทนทานพิเศษและช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น กับแรงม้าที่เคลมมาที่ 10.73 แรงม้าที่ 8,500 รอบ และถังน้ำมันขนาด 5.4 ลิตร
Giorno+ รุ่นนี้ พร้อมที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้ใช้งานมากมาย อาทิ ระบบเบรก ABS (รุ่น ABS), ระบบเบรก CBS (รุ่น Combie Brake) ระบบไฟ LED รอบคัน สมาร์ทคีย์ พอร์ตชาร์จไฟ USB Type A และหน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล LCD ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกติดตั้งมาให้เช่นกันอาทิ กล่อง Ubox ใต้เบาะขนาด 30 ลิตร ที่แขวนของอเนกประสงค์ และช่องเก็บของด้านหน้าติดตั้งมาให้
ราคา Honda Giorno+ 2025
Honda Giorno+ 2025 กับราคาแนะนำที่
- Honda Giorno+ รุ่น ABS 67,700 บาท
- Honda Giorno+ รุ่น CBS 62,700 บาท
ข้อดีและจุดเด่นของ Giorno+ ปี 2025
 |
เครื่องยนต์เครื่องยนต์ขนาด 125cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ 4 วาล์ว SOHC eSP+ ให้สมรรถนะที่ทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิง |
 |
ระบบไฟส่องสว่างไฟส่องสว่างแบบ LED ทั้งคัน ให้แสงสว่างชัดเจน พร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัย |
 |
ระบบกุญแจอัจฉริยะ (Smart Key System)ช่วยให้ใช้งานรถได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น |
 |
ช่องชาร์จ USBมีพอร์ต USB Type A สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างเดินทาง |
 |
พื้นที่จัดเก็บของมาพร้อมกล่องเก็บของใต้เบาะ (U-Box) ความจุ 30 ลิตร และช่องเก็บของด้านหน้าสำหรับของใช้ทั่วไป |
Honda Giorno 2025 มีกี่สี ?
สีที่มีจำหน่ายสำหรับรุ่น ABS มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม-ดำ สีเทา-ดำ สีขาว-ดำ และสีดำ
สีที่มีจำหน่ายสำหรับรุ่น CBS มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว-ดำ สีเหลือง-ดำ และสีดำ
สเปค Honda Giorno 2025
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4 จังหวะ, 4 วาล์ว, SOHC, ระบายความร้อนด้วยน้ำ, eSP+ |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 125 ซีซี |
| กระบอกสูบ x ระยะชัก | 53.5 x 55.5 มม. |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 11.5 : 1 |
| กำลังสูงสุด | 8.49 กิโลวัตต์ ที่ 8,750 รอบ/นาที |
| แรงบิดสูงสุด | 11.6 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบ/นาที |
| ระบบสตาร์ต | สตาร์ตมือ (ACG Starter) |
| ความจุน้ำมันเครื่อง | 0.9 ลิตร |
| ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง | PGM-FI |
| อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง | 47.0 กม./ลิตร (มาตรฐาน WMTC) |
| ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ (V-Matic) |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | เทเลสโคปิค |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | โช้กเดี่ยว (Mono Shock) |
| ระบบเบรกหน้า | ดิสก์เบรกไฮดรอลิก |
| ระบบเบรกหลัง | ดรัมเบรก (Mechanical Leading Trailing) |
| ยางหน้า | 100/90-12 59J (ไม่มียางใน) |
| ยางหลัง | 100/90-12 64J (ไม่มียางใน) |
| ประเภทล้อ | ล้อแม็ก |
| ขนาดตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) | 1,902 x 681 x 1,144 มม. |
| น้ำหนักรวม | 116 กก. |
| ความสูงเบาะ | 780 มม. |
| ระยะห่างช่วงล้อ | 1,312 มม. |
| ระยะห่างจากพื้น | 155 มม. |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 5.4 ลิตร |
| แบตเตอรี่ | 12V – 5Ah MF – WET |
อัปเดตข่าวสารวงการ Honda และรีวิวมอเตอร์ไซค์ทุกยี่ห้อ ครบทุกสไตล์ โดยทีมงานมืออาชีพ ได้ที่ ข่าวฮอนด้า
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆของเราได้ที่ SuperbikeMag Thailand
