Thai Honda ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจั กรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้ าในประเทศไทยเข้าร่วมพิธี ลงนามบันทึก “พิธีลงนามข้อตกลงการรับสิทธิ ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถจักรยานยนต์ระยะที่ 2” ระหว่างกรมสรรพสามิตและผู้ ประกอบอุตสาหกรรมอย่างเป็ นทางการ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เติบโตอย่ างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันการใช้พลั งงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอน และขับเคลื่อนประเทศไปสู่ เศรษฐกิจสีเขียว ตามวิสัยทัศน์ของฮอนด้าที่มุ่ งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี พ.ศ. 2593
พิธีการลงนามบันทึกความร่วมมื อครั้งนี้ นำโดย มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เป็นผู้ลงนามร่วมกับ ดร.พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต พร้อมด้วย นายบัญชร ส่งสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานและพั ฒนาการจัดเก็บภาษี 2 และนางสุภาพร วัฒนเจริญ ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและพั ฒนาการจัดเก็บภาษี 3
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่ อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตผู้ บริโภคชาวไทยและสภาพแวดล้ อมของประเทศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ทำงานร่วมกับภาครั ฐมาโดยตลอด ทั้งในด้านการวิจัย พัฒนา และการส่งเสริมให้เกิดการใช้ งานยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง รวมถึงการเข้าร่วมในมาตรการสนั บสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ระหว่างปี พ.ศ. 2566–2568 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคั ญในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าของไทยก้าวสู่มาตรฐานสากล การลงนามมาตรการสนับสนุนการใช้ ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5) ครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสานต่ อพันธกิจดังกล่าว
Thai Honda ยืนยันว่าจะเดินหน้าพั ฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และระบบนิเวศด้านยานยนต์ไฟฟ้ าอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิ ตรทุกฝ่าย เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และสิ่ งแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรั บคนไทยและประชาชนทั่วโลก”
สำหรับมาตรการสนับสนุนการใช้ ยานยนต์ไฟฟ้ารอบ 2 (EV 3.5) จะมีผลใช้บังคับในช่วงปี พ.ศ. 2567 – 2570 โดยครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยสิทธิประโยชน์ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เงินอุดหนุน การลดอัตราอากรขาเข้ารถยนต์ สำเร็จรูป และการลดอัตราภาษีสรรพสามิต โดยเงินอุดหนุนจะเป็ นไปตามประเภทของรถ และขนาดของแบตเตอรี่ สำหรับกรณีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ราคาไม่เกิน 150,000 บาท ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh จะได้รับเงินอุดหนุน ระหว่าง 5,000 – 10,000 บาท/คัน โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้ าหมายเพื่อมุ่งลดต้นทุนการเป็ นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าให้ ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ควบคู่กับการผลักดันอุ ตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศู นย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค


