Rebel500 2024 ครูเซอร์ไซส์กลาง สุดเท่ เผยโฉมเรียบร้อย

Rebel500 2024 ครูเซอร์ไซส์กลาง สุดเท่ เผยโฉมเรียบร้อย

Rebel500 2024

นอกจากรถบิ๊กไบค์ตัว 1100 ซีซีโฉมปี 2024 ที่เผยออกมาเป็นทอด ๆ แบบรุ่นต่อรุ่นแล้ว ทางค่ายปีกนกยังมีโมเดลไซส์กลางมาให้เลือกใช้กันอีกรุ่น กับ Honda Rebel500 2024 ครูเซอร์ไซส์กลางสุดหล่อ ทรงเบาะต่ำที่เราคุ้นเคยนั่นเอง โดยครั้งนี้มีการอัปเดตเพิ่มเติมมาใหม่ รวมถึงจุดเด่นต่าง ๆ จะมีอะไรบ้าง เรามาดูกันดีกว่า

 

เฉดสีใหม่ คุมโทน

Rebel500 2024
สีเงิน (Seal Silver Metallic)
Rebel500 2024
สีเขียวขี้ม้า (Matt Laurel Green Metallic)

จัดเต็มกับเฉดสีใหม่ ดูคุมโทน คมเข้มมากยิ่งขึ้น ทั้งสีเงิน (Seal Silver Metallic) และสีเขียวขี้ม้า (Matt Laurel Green Metallic) ในรุ่นธรรมดา รวมถึงสีดำ (Pearl Shining Black) สำหรับรุ่นอิดิชันรหัส “S” โดดเด่นด้วยลายปีกนกด้านข้างถังน้ำมัน สมกับเป็นครูเซอร์สุดเท่ของแบรนด์

Rebel500 2024
Rebel500S 2024 สีดำ (Pearl Shining Black)


ทรงดี ขี่ง่าย สไตล์คลาสสิก

นอกจากออกแบบการดีไซน์ที่มีทั้งความหล่อ และคลาสสิกในแบบอมตะแล้ว ตัวรถยังโดดเด่นด้วยสไตล์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยตัวรถที่มีขนาดยาว และมีศูนย์ถ่วงต่ำ มีขนาดความสูงเบาะที่ 690 มม. บวกกับระยะแฮนด์ที่ไม่กว้างจนเกินไปและตำแหน่งของที่พักเท้า ทำให้นั่งการขับขี่นั้นสบาย วางขาแตะถึงพื้น อีกทั้งโครงสร้างตัวรถยังดูแข็งแรงด้วยการใช้เฟรมถักสีดำ เสริมความมั่นคงในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยตัวรถเคลมน้ำหนักมาที่ 191 กก.

 

เครื่องยนต์ตอบโจทย์การใช้งาน

สำหรับเครื่องยนต์เป็นแบบ 2 สูบ 8 วาล์ว ขนาด 471 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบ 180 องศา พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ 6 สปีดติดมากับระบบแอสซิสต์แอนด์สลิปเปอร์คลัตช์ รวมถึงระบบหัวฉีด PGM-Fi เฉลี่ยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 27 กม./ลิตร และมีถังน้ำมันขนาด 11.2 ลิตร เคลมแรงม้าสูงสุดได้ที่ 46.2 แรงม้าที่ 8,500 รอบ พร้อมแรงบิด 43.3 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ แถมเครื่องยนต์ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน EURO5 อีกด้วย

 

ช่วงล่างใหญ่

ต่อด้วยระบบช่วงล่างที่เสริมความนุ่มนวลด้วยโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาด 41 มม.โช้คสปริงคู่ด้านหลังจาก Showa สามารถปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ ปรับได้ตามต้องการใช้งาน โดยทำงานร่วมสวิงอาร์มคู่ขนาด 45 มม. รวมถึงระบบเบรก กับดิสก์เบรกหน้า-หลัง ด้านหลังใช้คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นลูกสูบเดียว และยังเสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel มีขนาดล้อเท่ากันที่ 16 นิ้ว และยาง 130/90, 150/80 ตามลำดับ

 

ฟีเจอร์เพียงพอใช้งาน

แน่นอนว่าตัวรถนั้นถูกออกแบบมาเพื่อเน้นภาพลักษณ์และสไตล์การขับขี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในเรื่องของระบบต่าง ๆ จึงไม่ค่อยจำเป็นซักเท่าไหร่ แต่ยังมีพื้นฐานพออยู่ให้ใช้บ้าง เช่น ระบบส่องสว่างเป็นไฟ LED หน้าจอเรือนไมล์ทรงกลมแบบดิจิทัล LCD แสดงผลต่าง ๆ ครบครันทั้งเลขไมล์ รอบเครื่องยนต์ ตำแหน่งเกียร์ ความจุน้ำมัน เวลา เป็นต้น

สรุปโดยรวมกับ Rebel500 โฉมปี 2024 สิ่งที่อัปเดตมาใหม่นั่นก็คือเฉดสีใหม่ แบบกับโมเดลรุ่นพี่ Rebel1100 ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ที่ชื่นชอบสายคัสตอมหรือขับขี่รถสไตล์ครูเซอร์ไซส์กลาง ๆ ที่มีกำลังเครื่องยนต์เพียงพอต่อการใช้งานไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือออกทริปทางไกลได้สะดวกนั่นเอง

โดยเปิดตัวในสหราชอาณาจักร ในราคาเริ่มต้นที่ 6,399 ปอนด์เสตอร์ลิงค์หรือราว ๆ 2.8 แสนบาท ซึ่งกระโดดห่างจากโฉมบ้านเราอยู่พอสมควร หากมีการนำเข้ามาจัดหน่ายไทยละก็ จะอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง หากใครสนใจโมเดล โฉมปี 2023 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaihonda.co.th/hondabigbike/ หรือชมตัวจริงได้ที่ศูนยบริการฮอนด้า บิ๊กวิงค์สาขาใกล้บ้านท่านได้เลย

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

- Advertisement -
Joe Superbike
Joe Superbikehttp://www.superbikemag.com
นักเขียน "หัวใจสีเขียว" ที่ชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ และมาโลดแล่นในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก

Related Articles