Honda Forza 750 2021 กับ 8 ไฮไลท์ที่คุณต้องรู้

Honda Forza 750 2021 กับ 8 ไฮไลท์ที่คุณต้องรู้

Honda Forza 750 2021

Honda Forza 750 2021 เปิดตัวที่ยุโรปแล้ววันนี้ ทำให้มันกลายเป็นพี่ใหญ่สุดในตระกูลฟอร์ซ่า หลังจากปล่อยทีเซอร์ยั่วน้ำลายมาอย่างต่อเนื่อง แทนที่ผมจะลงข่าวเปิดตัวธรรมดา ผมก็เลยเขียนเป็นสกู๊ปเจาะลึก ดึงไฮไลท์ที่คุณต้องรู้มาเลยก็แล้วกันครับ

 

  1. หรูหราพรีเมียม

Honda Forza 750 2021

แน่นอนว่า Forza 750 นั้นมาพร้อมดีไซน์ใหม่ ดูสปอร์ตดุดัน บึกบึน แต่ไม่เทอะทะ อีกทั้งยังมีความแกรนด์ มีความพรีเมียม หล่อเหลา ดึงดูดสายตาจากรอบข้างได้เป็นอย่างดี

 

  1. สะดวกสบายจริงๆ

 

เป็นพรีเมียมสกู๊ตเตอร์ แน่นอนว่าต้องมาพร้อมความสะดวกสบาย ฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกสบายหลักๆ ก็จะเป็นช่องเก็บของต่างๆ ซึ่งช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 22 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้สบายๆ พร้อมกับมีช่องจ่ายไฟแบบ USB ด้านใน ยังมีช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งขวาที่สามารถเก็บของซึ่งสามารถเปิดปิดใช้งานได้สะดวก

มีระบบสมาร์ทคีย์ซึ่งช่วยให้สตาร์ทรถ เปิดฝาถังน้ำมัน และเปิดเบาะได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ เพียงแค่กดปุ่มควบคุมที่ตัวรถ ทั้งยังมีฟังก์ชั่น Answer back ที่ใช้หารถตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยจะกระพริบไฟเลี้ยวตอบเวลากดใช้งานจากระยะไกล

 

 

  1. ล้ำสมัยสุดๆ

Honda Forza 750 2021

ฮอนด้าจัดความล้ำสมัยมาให้แบบสุดขีดแบบที่หลายๆ ค่ายยังต้องยอม โดยให้จอแสดงผลสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่มาพร้อมระบบ Honda Smartphone Voice Control System ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ และสั่งงานโทรศัพท์อย่าง โทรออก ส่งอีเมล ฟังเพลงและใช้งานระบบนำทางผ่านการสั่งงานด้วยเสียงได้อีกด้วย หรือถ้าไม่ถนัดก็สามารถสั่งงานผ่านสวิตช์ควบคุมที่แผงสวิตช์ด้านซ้ายมือได้

 

 

  1. ทัศนวิสัยเป็นเลิศ

Forza 750 ให้ทัศนวิสัยแก่ผู้ขับขี่ได้ดีเยี่ยมด้วยระบบไฟทั้งหมดเป็นแบบ LED ทั้งยังมีไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ที่ด้านหน้า ไฟเลี้ยวหน้าก็เป็นแบบฝังที่ด้านข้างตัวรถ ไม่ยื่นออกมาด้านนอกให้เกะกะสายตาอีกต่อไป

นอกจากนี้ยังมีระบบไฟแจ้งเตือนเบรกฉุกเฉิน Emergency Stop Signal ที่จะกระพริบไฟเลี้ยวทั้งสองข้างอัตโนมัติหากเบรกกะทันหันเพื่อเตือนให้คันที่ขับตามมารู้ตัว และยกเลิกโดยอัตโนมัติอีกด้วย

 

  1. แรงจริงไม่อิงนิยาย

Honda Forza 750 2021

เครื่องยนต์ของเจ้าฟอร์ซ่ารุ่นใหญ่คันนี้ให้ขุมกำลังแรงจัด ไม่ต้องให้ปลัดมาคอยบอกก็สัมผัสได้ โดยเครื่องยนต์จะเป็นเครื่อง 2 สูบเรียงขนาด 750 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ เด่นด้วยช่วงชักที่ยาวและห้องเผาไหม้รูปทรงพิเศษ ทำให้ได้แรงบิดที่ดีตั้งแต่ช่วงรอบต่ำ

ทางค่ายเคลมมาว่ามีแรงม้าสูงถึง 57.8 แรงม้าที่ 6,750 รอบ และแรงบิดสูงถึง 69 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 4,750 รอบ โดยมีเรดไลน์ที่ 7,000 รอบ

 

  1. ปลอดภัยขั้นสุด

ตัวรถอัดเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยมาหลายขนาน หากไม่นับรวมระบบไฟ ESS และระบบเบรก ABS แล้ว ตัวรถก็ยังมีระบบ Honda Selectable Torque Control หรือง่ายๆ ก็คือแทร็คชั่นคอนโทรลอีกด้วย ซึ่งปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีการตัดกำลังเครื่องยนต์ต่างกัน โดยระดับ 1 คือระดับที่กวนน้อยที่สุด ระดับที่ 2 คือค่าปกติจากโรงงานใช้ในการขับขี่ทั่วไป และระดับ 3 เหมาะสำหรับถนนลื่นๆ หรือเวลาฝนตก และสามารถปิดการทำงานได้

 

  1. ขี่ง่ายสบายใจ

ตัวรถมาพร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้าและโหมดการขับขี่ 4 โหมดด้วยกันได้แก่

  • Standard สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป มีความสมดุลกันระหว่างกำลังเครื่องยนต์ เอ็นจิ้นเบรก แทร็คชั่นคอนโทรล และระบบเบรก ABS จะทำงานที่ระดับสูงสุด
  • Sport สำหรับการขับขี่ที่ต้องการกำลังที่ดุดัน เอ็นจิ้นเบรกที่หนักหน่วง แต่มีการกวนจากแทร็คชั่นคอนโทรลที่น้อยลง
  • Rain สำหรับการขับขี่ที่ต้องการกำลังเครื่อง และเอ็นจิ้นเบรกที่ไม่มาก แทร็คชั่นคอนโทรล และระบบเบรก ABS จะทำงานที่ระดับสูงสุด เหมาะกับการขับขี่ในเส้นทางที่ลื่น หรือฝนตก
  • User โหมดที่จะให้เลือกปรับการทำงานของแต่ละระบบได้อิสระ ทั้งกำลังเครื่องยนต์ เอ็นจิ้นเบรก แทร็คชั่นคอนโทรล และการทำงานของระบบ DCT เหมาะสำหรับคนที่คุ้นเคยกับตัวรถเป็นอย่างดีแล้ว

และแน่นอนว่าจะขาดฟังก์ชั่นเด่นของค่ายปีกนกอย่าง Dual Clutch Transmission ไปไม่ได้ครับ ค่ายปีกนกเขาพัฒนาระบบนี้มา 11 ปีแล้ว ซึ่งระบบนี้ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ของรถเป็นไปได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ หรือถ้าหากอยากสนุกก็ยังสามารถเปลี่ยนเกียร์เองผ่านระบบแพดเดิ้ลชิฟต์ได้อีกด้วย

ซึ่งเจ้าโหมดทั้งสี่นี้นอกจากจะช่วยเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยให้สามารถปรับใช้งานได้ตามสถานการณ์ได้สะดวก เมื่อบวกรวมกับระบบ DCT ก็ยิ่งทำให้ขับขี่ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

 

  1. ช่วงล่างแจ่มแมว

ช่วงล่างของพี่ใหญ่จากฟอร์ซ่านั้นโดดเด่นด้วยโช้คหน้าหัวกลับขนาด 41 ม.ม. และด้านหลังเป็นโปรลิงก์หรือโช้คเดี่ยวและสวิงอาร์มอลูมิเนียมทำงานร่วมกัน โดยโช้คหลังสามารถปรับพรีโหลดได้

ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 310 ม.ม. พร้อมกับคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์แบบ 4 พ็อต และแน่นอนว่าจะมีระบบเบรก ABS อีกด้วย

ส่วนล้อจะเป็นล้ออลูมิเนียมแบบหล่อ ขนาด 17 และ 15 นิ้ว หน้าและหลังตามลำดับครับ โดยใช้ยางขนาด 120/70 R17 และ 160/60 R15 ตามลำดับ

Honda Forza 750 2021

และทั้งหมดนี้คือ 8 ไฮไลท์ที่คุณต้องรู้หากคุณสนใจ Honda Forza 750 2021 ครับผม ส่วนสนนราคานั้นยังต้องรอไปก่อนนะครับ ทั้งนี้ราคาน่าจะราวๆ 450,000 บาทบวกลบเล็กน้อย ใครเป็นสาวก Honda เก็บเงินรอได้เลย มันต้องขายไทยแน่นอนครับ

อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

 

 

- Advertisement -
Benz SuperBike
Benz SuperBikehttps://www.superbikemag.com/
ธรรมรัตน์ แซ่ลี้ นักเขียน นักแปล ที่จับพลัดจับผลูได้กลายมาเป็นนักเขียนให้กับทาง SuperBike Thailand มาตั้งแต่ปีแรก ๆ ที่ยังเป็นนิตยสาร จนกระทั่งกลายเป็นสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ

Related Articles